เลือกตั้ง62
“เรืองไกร” ร้องกกต.ยุบพลังประชารัฐ ชี้ผิดชัดถึง 3 ประเด็น มั่นใจทษช.ไม่ถูกยุบ เหตุ กกต.ทำข้ามขั้นตอน นายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ได้รวบรวมหลักฐานเสนอให้กกต.มีมติ พร้อมอ้างคำวินิจฉัยศาลรธน.ยกคำร้องยุบปชป.เป็นแนวทาง พลังประชารัฐ – เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือถึงกกต. ว่า ขอให้กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จาก 3 ประเด็นที่ยื่นมาก่อนหน้านี้ โดยกกต.ต้องใช้มาตรฐานเดียวกับที่ยื่นยุบ ทษช. อีกทั้งได้เห็นคำร้องยุบ ทษช.ที่กกต.ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วอ้างเหตุย้อนแย้งกันเอง โดยกกต.อ้างเพียงว่า กกต.ไม่รับพิจารณาแคนดิเดตนายกฯของพรรค แต่กลับใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ว่า ทษช.กระทำการเป็นปฏิปักษ์ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ขณะเดียวกันกลับใช้มาตรา 14 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. รับรองส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องที่ตนให้สอบพปชร. 3 เรื่อง ล้วนเป็นความผิดที่เข้าข่ายยุบพรรคชัดเจนยิ่งกว่า โดยกรณ
พปชร.ผิดหวัง! ธนาธร ทำไมไม่เข้าใจ บิ๊กตู่ ลาออกไม่ได้ ต้องเตรียมจัดพระราชพิธีสำคัญ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งกล่าวหาว่าใช้อำนาจเอาเปรียบทางการเมืองว่า ตนไม่เข้าใจนายธนาธรที่ออกหาเสียงโดยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนถึงเหตุผลตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ กติกาประเพณี และธรรมเนียมปฎิบัติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ อีกทั้งต้องเตรียมจัดงานพระราชพิธีที่สำคัญที่คนไทยทั่วประเทศเฝ้ารอ ซึ่งคนทั่วประเทศเข้าใจดี แต่นายธนาธรกลับไม่เข้าใจ ตนผิดหวังกับคนรุ่นใหม่อย่างนายธนาธรมาก นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้รัฐบาลไม่ได้ใช้อำนาจอะไรมาช่วยพรรคพลังประชารัฐอย่างที่กล่าวหา เราหาเสียงตามกติกาที่กกต.กำหนดทุกอย่าง นายธนกร กล่าวว่า นายธนาธรน่าจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนได้พิจารณาเลือก ไม่ใช่วันๆออกมาทวงติงตำหนิพล.อ.ประยุทธ์อย่างเดี
กรุงเทพโพล ชี้ว่าที่นายกฯ บิ๊กตู่ นำลิ่ว! ทิ้งห่าง สุดารัตน์-ธนาธร แต่เกินครึ่งยังไม่ตัดสินใจ วันที่ 16 ก.พ. กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน “นับถอยหลัง 35 วัน สู่การเลือกตั้ง” โดยการเก็บข้อมูลจากประชาชน 1,498 คน จากทุกภูมิภาคของประเทศ พบว่า ประชาชนที่ตัดสินใจแล้ว 9.3% ระบุว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย รองลงมา 7.5% เลือกพรรคอนาคต ใหม่และ 7.0% เลือกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนประชาชน 66.2% ยังไม่ตัดสินใจ ส่วนประชาชนที่ตัดสินใจแล้ว 12.0% ระบุว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รองลงมา 8.1 % คือคณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ 6.6% คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่วนใหญ่ 59.4% ยังไม่ ตัดสินใจ ทั้งนี้ ประชาชน 95.8 % มีความตั้งใจจะไปเลือกตั้งในครั้งนี้ โดย 58.4% จะพิจารณาจากนโยบายที่ พรรคการเมืองใช้ในการหาเสียงรองลงมา 57.5% พิจารณาจากพรรคที่มีสมาชิกทางานช่วยเหลือชุมชน
ผู้สมัครส.ส. พปชร. นครสวรรค์ แจง เป็นรถหลวงหมดอายุราชการ เผย ‘กกต.’ ทราบเรื่องแล้ว พปชร. – วันที่ 15 ก.พ. มีรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีภาพเผยแพร่ในโซเชียลว่ามีผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รายหนึ่งของจ.นครสวรรค์ เขต 3 ชื่อนายสัญญา นิลสุพรรณ วิ่งรถโฆษณาหาเสียง ติดป้ายมีภาพ มีชื่อ มีเบอร์ของผู้สมัคร แต่รถที่ใช้นั้นเป็นรถที่มีตราของส่วนราชการแห่งหนึ่ง จึงเป็นที่ฮือฮาว่าแบบนี้ก็ทำได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้กำลังเป็นที่สนใจและมีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นการเอาเปรียบกันมากไป เป็นการใช้อำนาจในทางที่มิชอบหรือไม่ และก็มีบางส่วนระบุด้วยว่า แม้รถหลวงจะถูกประมูลขายไปแล้ว แต่ผู้ที่นำไปขายต่อหรือผู้ที่ซื้อมาจะต้องลบตราโลโก้สังกัดที่ติดอยู่กับรถออกให้หมด หากยังไม่มีการลบ ก็ไม่สามารถนำรถออมาใช้งานได้ ต่อมาเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายสัญญา นิลสุพรรณ ต.หนองตางู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เบอร์ 1 เขต 3 จ.นครสวรรค์ จึงพบความจริงว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่หมดอายุราชการแล้วได้มีการซื้อขายทอดตลาด โดยนางอารมณ์ เผือกผู้ เจ้าของรถ โตโยต้าสีน้ำเงิน ท
‘เสธ.แมว’ ลุย! ส่องพรรคดัง โทรหาชาวบ้าน ให้เลือก ถ้ายังอยากใช้บัตรคนจนต่อ! เสธ.แมว พรรคดัง บัตรคนจน – จากกรณีที่มี หมอลำชื่อดังชาวสกลนคร เปิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์สอบถามผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบอกให้ไปเลือกพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อจะได้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป จนทำให้เกิดความไม่พอใจ ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจูงใจให้ไปลงคะแนน จนไปแจ้งความลงบันทึกประจำไว้เมื่อวันที่ 13 ก.พ.นั้น เมื่อวันที่ 15 ก.พ. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าศูนย์ต่อต้านการทุจริตการเลือกตั้ง(ศตท.) ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผอ. กล่าวว่า จะทำการติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับกลโกงเลือกตั้งทุกรูปแบบ เข้าใจพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า หากพบการกระทำที่อาจก่อให้การเลือกตั้ง บริสุทธิ์ ยุติธรรม ก็หวั่นเกรง จะได้รับผลกระทบ อะไรตามมา จึงอยากรณรงค์ให้ผู้ที่พบเห็น การกระทำที่ไม่ปกติ จนอาจส่งผลให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธยุติธรรม ให้หาพยานหลักฐานทั้งเอกสาร หรือบุคคลเบื้องต้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพหรืออัดเสียงไว้เป็นหลักฐาน ทีมงานตาสับปะรด ซึ่งเป็นผู
อ.จุฬา ชี้ตาม กม.รัฐธรรมนูญ ‘บิ๊กตู่’ นั่งหัวหน้าคสช.-นายกฯ พร้อมกัน เป็นเรื่องต้องห้าม หลังประกาศออกมาว่าจะเล่นการเมือง และถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐ ทำให้มีกระแสเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งจากพรรคการเมือง ทั้งเพื่อไทย อนาคตใหม่ รวมทั้งนักวิชาการ และประชาชน เนื่องจาก รัฐบาลรักษาการ คสช.นั้น มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ อีกทั้งยังมีมาตรา 44 รวมทั้ง คสช.ยังมีอำนาจแต่งตั้ง ส.ว. ที่มีผลให้กลับมาเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.ไม่เสรีเป็นธรรม ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวยืนยันว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน อย่าไปไล่ล่ากันมากนัก พอไล่คนนี้แล้วลาออก แล้วเดี๋ยวมาไล่นายกฯออก ก็กฎหมายว่าอย่างนี้ มึงมาไล่ดูสิ ไล่ให้ได้สิ ผมไม่ท้าทาย แต่ไม่ออก ต่อประเด็นดังกล่าว ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “การดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์หากตัดเรื่องเป็นแคนดิเดตนายก
ตามคาด! กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว พิจารณายุบ ไทยรักษาชาติ เมื่อเวลา 12.43 น. วันที่ 13 ก.พ. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้นำคำร้องมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังที่ประชุมกกต.มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาว่าสมควรยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ตามมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาในประเด็นนี้ ก่อนมีกระแสข่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าสมควรยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ ก่อน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. จะชี้แจงผ่านไลน์มายังผู้สื่อข่าวว่า “ฝากเรียนทุกท่านที่รออยู่ด้วยว่า กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จ ถ้าผมหรือเลขาธิการมิได้ให้ข่าว กรุณาอย่าถือว่าเป็นข่าวจริงนะครับ อย่างน้อยที่สุดถ้าการพิจารณาแล้วเสร็จ จะเรียนให้ทราบ ถ้ามิใช่แถลงข่าวก็เป็นเพรสครับ” นอกจากนี้ ยังมีเอกสารชี้แจงจากสำนักงานกกต. ระบุว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพิจารณาของกกต. กรณียุบพรรคการเมือง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อบางฉบับว่า “มติกกต.สั่งยุ