โรงพยาบาล
รพ.นวเวช ก้าวสู่ปีที่ 5 เดินหน้ายุทธศาสตร์ “สุขภาพดีเพราะมีหมอเป็นเพื่อนบ้าน” ปักธงพร้อมดูแลด้วยทีมแพทย์ฉุกเฉินและอุบัติเหตุ แม่และเด็ก หัวใจ สมอง ตลอด 24 ชม. ตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 30% วันที่ 19 มีนาคม 2568 นายณัฐพล เดชวิทักษ์ กรรมการ บริษัท นวเวช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลนวเวช วางเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลที่ชุมชนไว้วางใจและให้ความเชื่อมั่น พร้อมตั้งเป้าหมายต่อไปในการเป็นโรงพยาบาลที่ช่วยดูแลและส่งเสริมสุขภาพให้กับเพื่อนบ้านแบบครบวงจรทั้ง 3 เจน คือ รุ่นเด็ก รุ่นพ่อแม่ และรุ่นปู่ย่าตายาย ที่ผ่านมาเราจึงเดินหน้าพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้นวเวชขับเคลื่อนสู่การเป็นโรงพยาบาลที่มีความเป็นเลิศในทุกด้าน สามารถตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนด้านการดูแลสุขภาพและการรักษา โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปที่อื่น” ปี 2568 ในโอกาสโรงพยาบาลก้าวสู่ปีที่ 5 ได้ประกาศแคมเปญ ‘Healthy Neighborhood by Navavej : สุขภาพดีเพราะมีหมอเป็นเพื่อนบ้าน’ เพื่อตอกย้ำความพร้อมในการดูแลและส่งมอบบริการด้านสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมที่เข้าใจผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ 6 เขตร
เปิดรายชื่อ 30 โรงพยาบาล ‘ตรวจสุขภาพฟรี’ ‘Thailand Healthcare 2024’ วันที่ 27-30 มิ.ย. นี้ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ ‘เครือมติชน’ แท็กทีม 30 โรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศทั้งภาครัฐ-เอกชน จัดงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 งาน Thailand Healthcare 2024 ‘เกษียณสโมสร’ เปิดบริการตรวจสุขภาพฟรีจาก 30 โรงพยาบาลภาครัฐชั้นนำ และโรงพยาบาลเอกชนระดับประเทศ พร้อมให้บริการฉีดวัคซีน 3 รายการ คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์, วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือ HPV รวมมากกว่า 1,000 เคส ตลอด 4 วันเต็ม ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ สำหรับบริการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน จาก 30 โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนชั้นนำ ในงาน Thailand Healthcare 2024 ‘เกษียณสโมสร’ แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มโรค ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด, กลุ่มโรคกระดูกและข้อ, ฉีดวัคซีน, กลุ่มโรคมะเร็ง-ตับ, กลุ่มโรคตา, กลุ่มโรคหู, กลุ่มโรคกล้ามเนื้อและระบบประสาท, แพทย์ทางเลือก, กลุ่มโภชนาการ, สุขภาพความงาม และคลินิกตรวจพิเศษนอกเวลา โดยมีรายละเ
โรงพยาบาลเวชธานี ตอกย้ำความเป็น รพ.เอกชนเฉพาะทางที่หลากหลายสาขา พร้อมเปิดโรงพยาบาลใหม่เฉพาะทาง ด้านสุขภาพจิต BMHH เผยครึ่งแรกปี 66 ลูกค้าใช้บริการเพิ่ม 30-50% ดร.ชาคริต ศึกษากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวชธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จุดแข็งของ เวชธานี คือ การเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วย โดยแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขา ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ประกอบกับความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพการดูแลรักษาสูงสุด ปัจจุบันมีศูนย์การบริการทางการแพทย์เฉพาะทางมากกว่า 20 ศูนย์ โรงพยาบาลเวชธานี นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีแนวคิดการทำธุรกิจ เน้นสร้างความยั่งยืนในระยะยาวมานานกว่า 10 ปี โดยไม่ได้มองตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียวแต่ขยายให้กว้างขึ้นเป็นทั้งโลก ทำให้ตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ ใกล้เคียงกับลูกค้าชาวไทย นั่นแสดงให้เห็นว่าโรงพยาบาลนั้นมีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลจนเป็นที่ยอมรับ โดยล่าสุดได้การรับรองระดับโลกจาก Global Healthcare Accreditation for Medical Travel Services นับเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 5 ของโลก ที่ได้
คนไข้ต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการ ดันรายได้ ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ปี 66 กลับสู่ฐานเดิมก่อนโควิด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปี 66 รายได้ของโรงพยาบาลเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะขยายตัว 3.7% (YoY) ซึ่งเป็นทิศทางที่ชะลอลงจากปี 65 จากกลุ่มคนไข้โควิดที่ลดลง โดยคาดว่าหลังจากนี้ รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนน่าจะทยอยปรับเข้าสู่ฐานเดิมก่อนโควิด เนื่องจากคนไข้ต่างชาติทยอยกลับมาตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดคนไข้หลักอย่างตะวันออกกลาง ที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนไข้ต่างชาติ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) รวมถึงคนไข้ไทย ทั้งกลุ่มประกันสังคมและกลุ่มคนไข้ทั่วไป ที่คาดว่าจะกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปี 66 รายได้ของโรงพยาบาลเอกชนจะยังคงเติบโต แต่กำไรของธุรกิจยังเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ซึ่งนอกจากฐานที่สูงในปีก่อน สะท้อนได้จากไตรมาสแรกของปี 66 ธุรกิจมีกำไรลดลง 42% (YoY) จากกลุ่มคนไข้โควิดที่ลดลง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กำไรของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนยังถูกกดดันจากต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ยังสูง ไม่ว่าจะ
หยุดยาวหายห่วง! ป่วยฉุกเฉิน–ติดโควิด ใช้ประกันสังคม รักษาได้ทุก รพ. ฟรี! วันที่ 14 เมษายน 2565 เว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานข่าว นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเฉลี่ยสูงขึ้น ไม่ต่ำกว่า 25,000 รายต่อวัน และคาดการณ์ว่ายอดผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลสงกรานต์จะพุ่งสูงขึ้น หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 100,000 รายต่อวัน “เรื่องดังกล่าว ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ประกันตน จึงกำชับให้ สํานักงานประกันสังคม เตรียมแผนรับมือต่อการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้น ตนจึงได้จัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอ (VDO conference) ร่วมกับสถานพยาบาลกว่า 200 แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ยังสถานพยาบาลตามสิทธิ และสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม หรือสถานพยาบาลที่มีศักยภาพทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สำนักงานจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถาน
กสทช. อนุมัติเงิน 149.811 ล้าน สนับสนุนโรงพยาบาลและสถานพยาบาลของรัฐ เพิ่มเติมอีก 62 แห่ง สู้โควิด-19 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. แถลงมติที่ประชุม กสทช. อนุมัติให้หน่วยงานหรือส่วนราชการที่มีภารกิจสนับสนุนการด้านสาธารณสุขสามารถยื่นขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินงานของสถานพยาบาลและโรงพยาบาลของรัฐเพื่อต่อสู้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้ จากเดิมที่ให้โรงพยาบาลและสถานพยาบาลของรัฐเป็นผู้ขอเท่านั้น จากนั้นที่ประชุม กสทช. ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนสถานพยาบาลและโรงพยาบาลภาคสนามของรัฐสู้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อีกจำนวน 62 แห่ง (63 โครงการ) วงเงินรวม 149.811 ล้านบาท ดังนี้ 1.โครงการเช่าให้บริการระบบ Call Center (1668 ต้าน COVID-19) ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข งบประมาณจำนวน 422,000 บาท 2.โครงการพัฒนาระบบปรึกษาการแพทย์ทางไกล (Tele-consult) ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข งบประมาณจำนวน 17.415 ล้านบาท 3.โครงการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ งบประมาณจำนวน 8.6 ล้านบาท 4.โครงการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต
ประหยัดไปอีกแบบ! โรงพยาบาล เปลี่ยนตู้โทรศัพท์เก่า เป็นเครื่องป้องกันโควิด ใช้งานได้จริง ในช่วงนี้ที่โควิด-19 แพร่ระบาด หลายโรงพยาบาลกำลังขาดอุปกรณ์สำหรับใช้ทางการแพทย์ เนื่องจากมีความต้องการใช้จำนวนมาก แม้จะมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคแล้วก็ตาม ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เผด็จ พูลวิทยกิจ โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า โรงพยาบาลชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ได้นำตู้โทรศัพท์เก่ามาดัดแปลงให้กลายเป็นเครื่องป้องกันโควิด “รพ.ชัยบาดาล ลพบุรี อำเภอข้างๆ ดัดแปลงใช้ตู้โทรศัพท์ ที่มีทุกรพ. ไม่ได้ใช้เกะกะ เสียดาย รพ.ผมให้องค์การมายกกลับไปแล้ว ตู้แบบนี้องค์การโทรศัพท์น่าจะมีเยอะเอามาบริจาคโรงพยาบาลน่าจะดีนะครับ” https://www.facebook.com/padetunity/posts/2608896475991590
ลดความแออัด นำร่อง 6 รพ. ในปราจีนบุรี ใช้เทคโนโลยี “จัดระบบคิวพบแพทย์ ระบบการจ่ายยา” จากนโยบายการส่งเสริมการใช้งานบริการจากกลุ่มสตาร์ตอัพในภาครัฐ นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เป็นประธานเปิดตัวโครงการ ปราจีนบุรีเมืองสุขภาพดี หรือ PMID Prachinburi Medical Innovation District Opening Day ขึ้นที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โมเดลต้นแบบ เพื่อหวังยกระดับการให้บริการ และใช้เทคโนโลยีของกลุ่มสตาร์ตอัพให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน โดยมี 2 บริษัทสตาร์ตอัพไทย ได้แก่ บริษัท คิวคิว (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท อรินแคร์ จำกัด ร่วมเปิดโครงการ สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในโรงพยาบาล คือ ระบบบริหารจัดการคิว จาก บริษัท คิวคิว (ประเทศไทย) จำกัด นำมาพัฒนาร่วมกับระบบจองคิวของโรงพยาบาล เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย โดยผู้ป่วยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในการจองคิวล่วงหน้าจากที่บ้าน สามารถเข้ารับบริการตามนัดหมายโดยไม่ต้องนั่งรอคิวให้เสียเวลา และเสร็จสิ้นการรับบริการได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดขั้นตอนการทำงานของพยาบาลและคุณหมอได้ด้วย อีกเทคโนโลยีที่นำมาใช้ คือ ระบบบริหารจัดการเภส
พาณิชย์จัดเกรด 356 โรงพยาบาลเอกชน ขึ้นเว็บโชว์ให้รู้ว่า 30 แห่ง ยังคิดยาแพงสุดโต่ง 30รพ.เอกชนยังคิดยาแพงสุดโต่ง – นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงนามความร่วมมือกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการวิเคราะห์ข้อมูลโครงสร้างต้นทุนยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล ว่า ความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การจัดทำโครงสร้างต้นทุน ราคาขาย และอัตราส่วนต่างกำไร (มาร์จิ้น) ของยา เวชภัณฑ์ และค่าบริการของโรงพยาบาล ที่เป็นมาตรฐานมากขึ้นและไม่เอาเปรียบทางการค้าจนเกินไป ทั้งนี้ กำหนดจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือนจากนี้ โดยข้อมูลที่ได้รับจะนำมาเป็นมาตรฐานอ้างอิงการประกาศควบคุมเพดานกำไรส่วนต่างค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ และค่าบริการตามโรงพยาบาล ในบัญชีสินค้าควบคุม ภายใต้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) “เบื้องต้นกรมมีตัวเลขอัตรามาร์จิ้นของราคายาหรือเวชภัณฑ์ที่เหมาะสมแล้ว แต่ต้องนำไปเทียบกับตัวเลขทางวิชาการ ก่อนประกาศบังคับใช้ว่าส่วนต่างราคายานั้นไม่ควรเกินเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหลักสิบถึงหลักหมื่นเ
มีผลบังคับใช้ทันที พาณิชย์ ลงนามประกาศ รพ.ต้องแจ้งราคา ยา ค่าบริการ โทษหนัก! นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนางสาว ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ลงนามประกาศ กกร. ฉบับที่ 52 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไข เกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป เพื่อดูแลให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมจากการเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาล โดยมาตรการดังกล่าว มีหลักการสำคัญ 3 เรื่อง โดยได้กำหนดให้โรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายส่ง ต้องแจ้งราคาซื้อ ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการฯ ตามรายการที่อยู่ในบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (UCEP) จำนวน 3,892 รายการ และในอนาคตจะขยายผลให้ครอบคลุมรายการยาตามรหัสบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานไทย (TMT) ซึ่งปัจจุบันมียาอยู่ในระบบกว่า 32,000 รายการ บัญชีเวชภัณฑ์ 868 รายการ และค่าบริการทา