ไวรัสอู่ฮั่น
เปิด 4 วิธี ทำความสะอาดเครื่องใช้ ป้องกันไวรัสโควิด-19 โควิด-19 – เข้าสู่ช่วงเดือนที่ 3 ของปี แต่สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ก็ยังคงน่าเป็นห่วง และดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น จากข้อสันนิษฐานของหลายๆ คนที่เชื่อว่า เจ้าไวรัสโควิด-19 นี้ไม่ทนความร้อน อาจเรียกได้ว่าเป็นข่าวดีของบ้านเรา ที่กรมอุตุฯ ได้พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อน ตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าหลายๆ คนรู้สึกยินดีกับการเข้าสู่ฤดูร้อนของบ้านเรากว่าครั้งไหนๆ เพจ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แชร์ภาพ อินโฟกราฟิก ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยเรื่องการทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ไวรัสโควิด-19 โดยมี 4 วิธี ดังนี้ 1. สิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสบ่อย อาทิ โทรศัพท์มือถือ แท็บเลต – วิธีทำความสะอาด : ให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70 – 90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง 2. พื้นผิวที่สัมผัสบ่อย เช่น เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ของใช้รอบตัว รวมไปถึงห้องน้ำ – วิธีทำความสะอาด : ให้ใช้น้ำยาฟอกผ้าขาว ( 3 – 6% โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ผสมกับน้ำ
ไม่สนกักตัว! ผีน้อยกลับจากเกาหลี โผล่ร้านหมูกระทะ-ลานเบียร์ เดือดร้อนต้องปิดร้านฆ่าเชื้อ ไม่สนกักตัว – กำลังเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล ถึงพฤติกรรมของผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะแรงงานไทยจำนวนมากจากประเทศเกาหลีใต้ ที่กลับมายังประเทศไทยแต่กลับออกไปใช้ชีวิตปกติ พบปะผู้คน อยู่ในสถานที่สาธารณะที่มีคนเยอะๆ โดยชาวเน็ตตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบต่อสังคมจากกลุ่มคนเหล่านี้ ในช่วงที่ไวรัสระบาด โดยพฤติกรรมแรกที่มีการแชร์ต่อๆ กันมาจากผู้พบเห็น เป็นพฤติกรรมของหญิงรายหนึ่ง ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แม้จะไม่มีไข้และผ่านการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจากสนามบินแล้ว แต่อยู่ในกลุ่มฝ่าฝืนการขอความร่วมมือกักตัว 14 วัน ออกไปทานหมูกระทะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย กระทั่งเวลาต่อมา เจ้าของร้านหมูกระทะดังกล่าวทราบข่าว จึงสั่งปิดร้านด่วน 1 วัน เพื่อทำการทำความสะอาดร้านป้องกันไวรัส พร้อมโพสต์ขออภัยลูกค้าที่จองโต๊ะมาล่วงหน้า รวมถึงขอความเห็นใจจากคนกลุ่มเสี่ยง ในการเข้ารับบริการในพื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นในวงกว้
อนุมัติงบพันล้าน! สปสช.หนุน รพ.ทั่วประเทศ รับมือ “โควิด-19” อย่างครบวงจร สปสช. – บอร์ด สปสช. เห็นชอบเพิ่ม “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” รายการเบิกจ่ายชดเชย “กองทุนบัตรทอง” เพิ่มความชัดเจนการเบิกค่าใช้จ่าย ครอบคลุมทั้งป้องกัน ตรวจวินิจฉัย รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสมรรถภาพ พร้อมอนุมัติใช้งบ “กองทุนรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม 1,020 ล้านบาท หนุนโรงพยาบาลรับมือ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) พร้อมอนุมัติหลักการให้ใช้เงินกองทุน “รายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม จำนวนไม่เกิน 1,020 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเบิกจ่ายในกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยบริการ นายอนุทิน กล่าวว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “กองทุนบัตรทอง” ซึ่งเป็นระบบหลักประกันสุขภาพใหญ่ที่สุดของประเทศ มีภารกิ
“เราจะสู้ COVID-19 ไปด้วยกัน” อนุทิน ชี้! ไทยกำลังเข้าสู่สงครามกับ COVID-19 เต็มรูปแบบ COVID-19 – ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่อง กับไวรัสโควิด-19 ซึ่งล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเกาหลีใต้พุ่งขึ้นไปถึงหลักพัน และประเทศอื่นๆ ก็เริ่มมีการแพร่ระบาดกันมากขึ้น เพจ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่กำลังเข้าสู่ระยะที่ 3 ว่า เราจะสู้ COVID-19 ไปด้วยกัน เราต้องการความร่วมมือจากประชาชน หลังประกาศโรคติดต่ออันตราย ทำให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมาย ตรวจ และสอบสวนโรค ได้มากขึ้น ทำให้พบผู้ต้องสงสัย ผู้มีความเสี่ยง และผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่มีความเสี่ยง ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุข กำลังพิจารณาจะออกมาตรการที่ทำให้การควบคุมโรคในประเทศไทย ที่มีมาตรฐานดีอยู่แล้ว ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น แม่สอด และด่านชายแดนที่เดินเท้าข้ามไปมาได้ เราจะต้องปรับการทำงานให้บูรณาการทุกหน่วยงาน เพื่อควบคุมโรค ให้ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ สำหรับท่า
ประกาศให้ “COVID-19” เป็นโรคติดต่ออันตราย อนุทินยัน ไทยยังไม่เข้าสู่ระยะ 3 โควิด-19 – ที่เพจ กรมการแพทย์ ได้เผยแพร่ประกาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบในหลักการร่างประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ ยืนยันไทยยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 ยังไม่มีการระบาดของโรคในประเทศ บ่ายวันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 โดยมีนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลาโหม มหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ การต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระ เข้าร่วมการประชุม นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทยยัง
10 สถานที่เสี่ยง แพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นในทุกวัน ในเบื้องต้นประชาชนควรป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง โดย 10 สถานที่เสี่ยง มีดังนี้ 1.สถานที่ราชการ/สถานที่ทำงาน ควรทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสบ่อยๆ เช่น โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน ที่จับประตู ห้องสุขา 2.เรือโดยสาร ให้นำแอลกอฮอล์เจลล้างมือวางไว้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องจำหน่ายตั๋ว และหมั่นทำความสะอาดราวจับ เก้าอี้นั่งในเรือ ที่เท้าแขน ราวบันได 3.ห้างสรรพสินค้า/โรงแรม/ฟิตเนส นำแอลกอฮอล์เจลล้างมือวางไว้บริเวณทางเข้า-ออก บริเวณหน้าลิฟต์ และหมั่นทำความสะอาดที่จับประตู ห้องสุขา 4.โรงพยาบาล นำแอลกอฮอล์เจลล้างมือวางไว้บริเวณที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก หมั่นทำความสะอาดที่นั่ง ที่จับประตู ห้องสุขา 5.ปั๊มน้ำมัน หมั่นทำความสะอาดห้องสุขาซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เน้นที่จับสายฉีดชำระ บริเวณพื้นห้องส้วม ที่รองนั่งโถส้วม ที่กดโถส้วม โถปัสสาวะ ที่เปิดก๊อกอ่างล้างมือ และกลอนประตูหรือลูกบิด 6.รถแท็กซี่/รถตู้โดยสาร/รถจักรยานยนต์รับจ้าง ทำความสะอาดหลังมี
ลูกค้าหาย ไม่รู้จะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ย! ห้างใหญ่เห็นใจแม่ค้า ลดค่าเช่าแผง 20 เปอร์เซ็นต์ ลดค่าเช่า – เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่เชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน สู่การแพร่ระบาดในอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย นอกจากเจ้าเชื้อนี้จะทำให้มีผู้ป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิตแล้ว ยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆเป็นวงกว้าง คุณมนตรี พูลสวัสดิ์ เจ้าของร้าน จุ๊บเจลเนอรัล ร้านเครื่องประดับไหมพรมแฮนด์เมด ให้สัมภาษณ์ว่า ตนขายของอยู่ในไอคอนสยาม โซนสุขสยาม มาตั้งแต่ไอคอนสยามเปิด โดยค่าเช่าแผงขายในไอคอนสยามนั้นมีราคาแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนของตนเองแล้ว ค่าเช่าเริ่มต้นที่ราคา 1,000 บาท ต่อวัน โดยห้างจะเก็บค่าเช่าทุกๆ 15 วัน แต่ช่วงหลังจากที่มีข่าวไวรัสแพร่ระบาด ก็ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบกับยอดขาย รายรับที่เคยได้ลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่ง แต่เนื่องจากสินค้าในร้านเป็นงานทำเอง ลูกค้ามีทั้งกลุ่มคนเอเชียและยุโรปกลาง เพราะฉะนั้นจึงได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสไม่เยอะเท่ากับเจ้าอื่นนัก ทำให้ธุรกิจยังพออยู่ได้ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบจะน้อย ส่วนมากจะเป็นการใช้แรงในการผลิตงานมากกว่า เ
กรมควบคุมโรค แนะ 4 วิธี จัดร้านอาหารให้ปลอดเชื้อไวรัส กรมควบคุมโรค – เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค ได้เผยแพร่อินโฟกราฟิก ในการจัดร้านอาหารให้ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ไวรัสอู่ฮั่น โดยมีขั้นตอนเพียง 4 ข้อที่ทำได้ง่ายๆ ดังนี้
กิจการรถตู้ เครียดหนัก ‘ไวรัสอู่ฮั่น’ ทำรายได้หด ภาระเยอะ ไม่รู้จะหาเงินจากไหน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสอู่ฮั่น ที่ล่าสุดมีจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 63,915 ราย เสียชีวิต 1,489 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.พ.62) ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ส่งผลให้ชาวจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ สอบถามไปยัง คุณสมชาย ผู้ประกอบการรถตู้ให้บริการทัวร์ เผยว่า ยึดอาชีพขับรถตู้มานาน 22 ปี ให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โดยจะวิ่งทั่วภาคเหนือ ส่วนหน้าร้อนจะลงไปแถวทะเลแถวพัทยา ระยอง ปีที่ผ่านมาลูกค้าชาวจีนมาใช้บริการจำนวนมาก นิยมขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือ ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน แต่พอเข้าปีใหม่ลูกค้าชาวจีนน้อยลง เดือนนี้กระทบหนักสุดแทบจะหายไปเลยประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจไทย “ถ้าวันไหนไม่มีลูกค้าจอง ผมจะไปจอดหาลูกค้าแถวถนนไนท์บาร์ซาร์ ตอนเช้าประมาณเก้าโมงนักท่องเที่ยวจะนิยมมากินกาแฟบริเวณนี้ พวกขับรถจะนิยมไปจอดกัน แต่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหา
อนุทิน-อธิรัฐ ยืนยัน ไม่อนุญาตให้ “เรือเวสเทอร์ดาม” เทียบท่า จากกรณีสื่อหลายสำนักรายงานข่าวว่า เรือสำราญเวสเทอร์ดาม (Westerdam) ซึ่งมีผู้โดยสารบนเรือ 2,000 คน ได้รับอนุญาตจากทางการไทย ให้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ หลังจากถูกประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ปฏิเสธไม่ให้เข้าเทียบท่า เพราะปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “สั่งการแล้ว ไม่อนุญาตให้เทียบท่า” ต่อมา นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าเรือ เอ็มเอส เวสเทอร์ดาม (Westerdam) พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 2,200 คน จะเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี วันที่ 13 กุมภาพันธ์ หลังจากถูกฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ปฏิเสธให้เทียบท่า เพราะความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนา 2019 นั้น ในเรื่องนี้ยืนยันว่าทางตัวแทนเรือดังกล่าวได้มีการประสานงานมายัง กรมเจ้าท่า (จท.) เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) จริงเพื่่อขออนุญาตที่จะเข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้นทาง กรมเ