เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Video Content

“ไอดอล-ไอรอนเชฟ” ฉายาที่ไม่ได้มา…เพราะโชคช่วย

จัดเป็น “เชฟคนดัง” ระดับประเทศ ที่มีแฟนคลับอยู่ไม่น้อย สำหรับ เชฟอาร์-ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ ซึ่งเคยเป็นแชมป์การแข่งขันทำอาหารมาหลากหลายเวที แต่ที่สร้างชื่อให้รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองเห็นจะเป็นตำแหน่ง The Next Iron Chef Season 2

“หลังเรียนจบปริญญาตรีจากวิทยาลัยดุสิตธานี ทำงานโรงแรมที่ไทย 6 เดือน ก่อนบินไปทำงานที่อเมริกา ทำอยู่ 4 ปี รู้สึกเหงา คิดถึงบ้านเลยขอกลับ ก่อนเอาทุนทรัพย์ที่ทำงานเก็บมา 4 ปี จากที่อเมริกา มาเปิดร้านอาหารที่บ้านเกิด” เชฟอาร์ เล่าความหลังเมื่อครั้งเขาอายุได้ 24 ปีกว่า

ก่อนเล่าต่อ ร้านอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจแรกของเขา เป็นสไตล์อาหารตะวันตก พวก สเต๊ก สลัด และพาสต้า เปิดหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ ทางขึ้นดอยสุเทพ

“ร้านแรกของผม เป็นตึกแถว 3 ชั้น มีทั้งหมด 80 ที่นั่ง ด้วยเด็กอายุ 24 ปีนะ คิดว่าทำได้ เพราะทำโรงแรมมาตลอด แต่หารู้ไม่ คือระบบการจัดการไม่มีเลย ผมทำเองหมด ตั้งแต่ซื้อของ เตรียมของ เปิดร้าน 10 โมง เก็บร้าน 4 ทุ่ม เก็บตังค์ กว่าจะได้นอนประมาณเที่ยงคืน ตี 1 บางวันตี 2 แล้วตี 5 ถึง 6 โมงเช้า ตี 5 เราก็ต้องตื่นแล้ว มีชีวิตวนลูปอยู่แบบนี้ตลอดเวลา 8-9 เดือน กับเด็ก 24 ปีที่มีทักษะแค่เฉพาะการทำกับข้าว แต่ระบบการจัดการ หลังบ้าน หน้าบ้าน เป็นศูนย์เลย” เชฟอาร์ เล่าเสียงหม่นเล็กน้อย

ก่อนคุยให้ฟังต่อว่า ช่วงเวลานั้น คนช่วยในครัว คือคุณพ่อของเขา หากมีเวลาว่างจะแวะมา คนเก็บตังค์ คือคุณลุง มีพนักงานหน้าร้าน 2 คน จ้างมาเป็นรายวัน ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับระบบการจัดการทั้งหมดที่มี แต่ก็ดันทุรังทำไป ถามว่าขาดทุนไหม ไม่ขาดทุน แต่งานมันไม่เรียบร้อย

“ร้านมันรันไปได้แต่เหนื่อยมาก ผมร้องไห้อยู่กับแม่อยู่ 2 เดือน ทุกวัน ทุกเย็น ร้องไห้เพราะเหนื่อยมาก เครียดมาก กลัวงานไม่เรียบร้อย ขายมันขายได้ แต่ร้านไม่เรียบร้อย ทำอะไรติดๆ ขัดๆ ไม่ Flow แต่ก็ทำไปได้สักปีกว่า จริงๆ คืนทุนหมดแล้ว ลงทุนไปประมาณ 7 แสน 8 เดือนคืนทุนแล้ว ก็อยู่ปีกว่าๆ เลยปิดร้านไป เพราะรู้สึกว่าเหมือนติดคุก” เชฟอาร์ เล่ายิ้มๆ ตามสไตล์

และว่าให้ฟัง

“จำได้ตอนจะปิดร้าน ไปบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า ผมรู้แล้วว่าร้านอาหารมันเปิดยังไง ถ้าเปิดจะต้องทำอะไรบ้าง ผมกลับมาเปิดอีกทีเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะผมทำเป็นแล้ว และรู้สึกว่าอายุ 24 จะ 25 ปี ต้องไม่ได้มาติดคุกอยู่ตรงนี้ตลอดชีวิต เพราะทำร้านอาหารไปไหนไม่ได้เลยนะ”

เรื่องราวของ “เชฟอาร์” ยังมีอีกหลายแง่มุม พร้อมทั้งยังมีคำแนะนำดีๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้าสู่อาชีพเชฟอีกด้วย ทุกประเด็นล้วนควรค่าแก่การติดตามได้จากคลิปนี้

Related Posts

มิชลิน 3 ดาว ร้านแรกไทย! “ศรณ์” ร้านอาหารใต้ ไฟน์ไดนิงไทย ที่เกิดจากความฝันของ “เชฟไอซ์”
เผ็ด 4 เลเวล-ไข่เยิ้มๆ ‘เทพผัดไทย’ คิดสูตรนานเกือบปี ร้านใหม่ในเครือเผ็ดมาร์ค ที่อยากปั้นเมนูที่ถูกลืม ให้กลับมาอยู่ในใจคนไทย