“บิ๊กเต่า” ไม่กังวลเรื่องถูก ฟ้องหมิ่นฯ เผยเป็นเรื่องปกติ ท้าเปิดหลักฐานออกมา อย่ามัวแต่ขู่ น่ารำคาญ เชื่อคดีนี้นักข่าวได้ทำงานตลอดทั้งปี

วันที่ 15 มี.ค. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.ให้สัมภาษณ์หลังถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ส่งทนายยื่นฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ปล่อยไปเป็นเรื่องปกติ เพระเชื่อมั่นในความยุติธรรม และที่ผ่านมาตนเองให้สัมภาษณ์ในฐานะโฆษกของคณะทำงาน ซึ่งสิ่งที่พูดเป็นข้อเท็จจริง ไม่ได้มีการแต่งเติมเพื่อทำร้ายใครแต่อย่างใด

เป็นไปตามพยานหลักฐานทุกอย่าง และข้อมูลที่พูดไปเป็นข้อเท็จจริงรวม ๆ ไม่ได้มีการนำพยานหลักฐานในสำนวนมาเปิดเผย ไม่เหมือนกับเจ้าหน้าที่บางคนที่ชอบเอาหลักฐานในสำนวนมาเปิดรายวัน และมองว่าหลักฐานสำคัญทางคคดีเป็นหลักฐานที่ควรเปิดในชั้นศาลเท่านั้น

ส่วนกรณีที่ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการแฉข้อมูลเส้นทางการเงินซึ่งเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นให้สะเทือนหลายวงการนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า อย่าขู่ รำคาญ ใครมีหลักฐานให้เอาออกมาเปิดเผย

อย่าทำให้ตำรวจเสื่อมเสีย ใครหลักฐานชัดเจน ก็ต้องถูกดำเนินการอยู่แล้ว เพราะมีทั้งหน่วยงาน ปปป. และ ป.ป.ช. จัดการ และแม้ว่าจะเป็นตัวเอง ถ้ามีหลักฐานก็เอาออกมา หากผิดก็พร้อมติดคุก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกอีกว่า ความจริงมีเพียง 1 เดียว และเมื่อได้รับมอบหมายให้ทำคดีแล้ว ต้องทำให้ถึงที่สุด ไม่กังวลที่ถูกฟ้อง เพราะตอนแรกคิดว่าน่าจะโดนฟ้องเป็น 100 คดี แต่โดนแค่ 3-4 คดี ถือว่ายังน้อย








Advertisement

ยืนยันว่าไม่ได้ท้าทาย เพราะรู้ว่าต้องรบกับใคร การรบกับพญามาร ก็ต้องเจอแรงกระแทกกลับมาเยอะเช่นกัน ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ ตนยังคงเฉย ๆ มองว่าเป็นเพียงเรื่องกวนใจ เหมือนแมลงหวี่แมลงวันมาตอมบ้าง ดังนั้นปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ชุดทำงานยังคงมีขวัญกำลังใจที่ดี

ทั้งนี้หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาสั่งยุติการให้สัมภาษณ์รายวันโต้ตอบกัน ก็ทำให้ชุดทำคดีมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะเดินหน้าทำความจริงให้ปรากฎต่อสังคม เพื่อกวาดบ้านตนเองให้สะอาด เพราะถ้าตำรวจไม่กล้าทำ ก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ถ้ากล้าทำความสะอาดก็ต้องเริ่มจากกล้ากวาดตัวใหญ่ๆ ก่อน แล้วตัวเล็กๆ ก็จะจัดระเบียบดีขึ้นเอง เพื่อให้รู้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอาจริงเอาจัง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามความคืบหน้าเรื่องคดีเว็บพนันมินนี่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ไม่ขอให้ความเห็น เนื่องจากอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. แล้ว หาก ป.ป.ช.มีข้อสงสัยก็จะประสานคณะทำงานเอง แต่หากตำรวจมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก็สามารถส่งหลักฐานให้คณะทำงานของ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณาเพิ่มเติมได้

ส่วนคดีเว็บพนัน BNK Master ที่อยู่ในความดูแลของ สน.เตาปูน เป็นคนละชุดทำงาน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบ ตนไม่ทราบรายละเอียดคดี รู้เพียงข้อมูลคร่าวๆ เท่านั้น ไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องเส้นทางการเงินของคดีนี้ว่าเชื่อมโยงกันหรือไม่

รวมถึงประเด็นเรื่องทองคำแท่งที่มีการซื้อขายจนทำให้กรรมาธิการ ปปง. รัฐสภา ออกมาประชุมกับ ปปง. และตำรวจด้วย แต่พูดได้เพียงว่านักข่าวจะมีงานทำตลอดทั้งปี และยืนยันว่าคดีเว็บพนันมินนี่ และเว็บพนัน BNK เป็นคนละคดีกัน

ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้สัมภาษณ์ว่า ที่ตนเองถูกฟ้องเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้พูดคุยกันมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ไปร่วมกับคณะทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางก็มีความเป็นห่วงและได้ย้ำว่าให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา

ซึ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้สัมภาษณ์มานั้น ตนเองก็ไม่ได้น้อยใจ เพราะตนเองเป็นนักรบ เมื่อไปรบในสงคราม ก็ย่อมได้รับบาดแผลบ้าง หากจะตายในสนามรบก็ยอมตาย เพราะเป็นตำรวจที่ทำไปตามหน้าที่ ส่วนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและตนเองไม่ได้ทำอะไรให้ทุกคนหนักใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน