ศรีสุวรรณ จวก ป.ป.ช. นกแก้วนกขุนทอง จี้ กก.ป.ป.ช. รับผิดชอบ ด้อยประสิทธิภาพปราบโกง บี้ ลาออก หลังดัชนีความโปร่งใส ของไทยแย่ลง ยกมาตรฐานสอบนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” น่าอับอายทั่วโลก

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง ดัชนีความโปร่งใสไทยแย่ลง ป.ป.ช. ต้องพิจารณาตัวเอง โดยระบุว่า ตามที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ ทีไอ) เผยแพร่ดัชนีการคอร์รัปชันภาครัฐทั่วโลก (ซีพีไอ) ประจำปี 2561 โดยระบุว่าประเทศไทยได้ 36 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ลดลงจากเมื่อปี 2560 ที่อยู่อันดับที่ 96 ที่ได้คะแนน 37 คะแนน ลงมาเป็นอันดับที่ 99 จาก 180 ประเทศทั่วโลกนั้น

รายงานดัชนีดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงข้อด้อยของระบบการถ่วงดุลของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ตลอดจนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ที่ยังไม่เป็นสากล ยังอยู่ในวังวนของระบบอุปถัมภ์มากกว่าระบบคุณธรรม

โดยเฉพาะกรณีตัวอย่างที่น่าอับอายไปทั่วโลก คือ มาตรฐานการตรวจสอบนาฬิกาหรูของผู้มีอำนาจรัฐ ที่ค้านสายตาประชาชนทั้งประเทศ แต่เลขาธิการ ป.ป.ช.กลับโบ๊ยว่าเป็นเรื่องของการไม่ชัดเจนในเรื่องเลือกตั้ง โดยไม่กล่าวโทษหน่วยงานของตนว่าทำงานมีประสิทธิผลมากน้อยเพียงใด

เกาะติดข่าวการเมืองข่าวเลือกตั้ง แค่กดเป็นเพื่อนกับไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นอกจากนั้น ยังกล้าที่จะแถลงแก้เกี้ยวว่าการลดปัญหาการทุจริตลงให้ได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคม ต้องรวมพลังกันสร้างสังคมที่ไม่ทนกับการทุจริต โดยรัฐบาลต้องมีเจตจำนงในการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่ชัดเจนและต่อเนื่อง ภาครัฐต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ภาคเอกชนต้องไม่ให้ความร่วมมือในการให้สินบนทุกรูปแบบและมีการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ ภาคประชาสังคมต้องมีความตื่นตัว ไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ต่อการทุจริตทุกรูปแบบ สร้างค่านิยมสุจริตขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ประเทศไทยใสสะอาดไทยทั้งชาติต้านทุจริตนั้น

ป.ป.ช.อย่ามัวแต่ท่องจำบทดังกล่าว เป็นนกแก้วนกขุนทอง หากแต่ทว่ากรรมการ ป.ป.ช.ต้องกล้าที่จะแสดงความกล้าหาญและเป็นผู้นำในความรับผิดชอบต่อการด้อยประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นที่ทำให้ดัชนีความโปร่งใสลดลง โดยการประกาศลาออกไปเสีย โดยเฉพาะผู้ที่มีความสัมพันธ์กับอำนาจรัฐในปัจจุบัน

เพื่อรับผิดชอบต่อรายงานดัชนีความโปร่งใสของไทยที่แย่ลงดังกล่าว โดยมิจำต้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2 หมื่นรายชื่อกล่าวหาตามมาตรา 236 ของรัฐธรรมนูญ 2560 แต่อย่างใด อีกทั้งจะไม่ทำให้องค์กรมัวหมองตามไปด้วย และเชื่อว่าจะทำให้ดัชนีกระเตื้องขึ้นมาหลายเท่าตัวเลยทีเดียว แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่างมาพูดเอาดีเข้าตัวอย่างไม่กระดากอายเลยนั้น ไม่อายเด็กๆ กันบ้างหรืออย่างไร

________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน