เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
PR News

กูรูแนะ 5 ข้อดีใช้ AI ที่ผู้ประกอบการควรรู้ ช่วยวางกลยุทธ์การตลาด ไปจนถึงพัฒนาสินค้าใหม่

กูรูแนะ 5 ข้อดีใช้ AI ที่ผู้ประกอบการควรรู้ ช่วยวางกลยุทธ์การตลาด ไปจนถึงพัฒนาสินค้าใหม่

Generative AI เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนในยุคดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นในการช่วยอำนวยความสะดวกสบาย สร้างสรรค์ไอเดียในด้านต่างๆ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ภาคธุรกิจจะนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน หากเข้าใจวิธีการใช้ Generative AI ให้เกิดประโยชน์อย่างถูกวิธี ย่อมช่วยประหยัดเวลาในการทำงานที่ไม่จำเป็น และช่วยพลิกโฉมธุรกิจของผู้ประกอบการทุกระดับ รวมไปถึง SMEs

เซเว่น อีเลฟเว่น ได้จัดกิจกรรมติดอาวุธทางความรู้ให้ SMEs ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก AI โดยมี อ้น-ปฤณ จำเริญพานิช กูรูชื่อดังด้าน ChatGPT และ AI มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการใช้ Generative AI ให้กับ SMEs

สำหรับ Generative AI ที่กูรูอ้นแนะนำให้ SMEs มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดใช้ก็คือ ChatGPT เพราะเป็น AI ที่ใช้งานง่าย สะดวก และสามารถเข้าไปช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 5 เรื่องหลักๆ ได้แก่

1. ช่วยคิด วางกลยุทธ์ด้านการตลาด

กรณีที่ SMEs ต้องการออกสินค้าใหม่ AI สามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภครวมถึงข้อมูลการตลาดที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้า ทำให้ SMEs สามารถทำนายแนวโน้มตลาดและความต้องการของตลาดในอนาคตได้

อาทิ รูปแบบสินค้าที่ตลาดชื่นชอบ ขนาด/ปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการ เป็นต้น การเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้ SMEs สามารถวางแผนกลยุทธ์การขายและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ช่วยเล่า สร้างเนื้อหาการตลาดอย่างมืออาชีพ

เมื่อวิเคราะห์ตลาดและความต้องการของลูกค้าได้แล้ว ก็มาถึงการทำการตลาด ซึ่งการทำการตลาดในปัจจุบันก็มีด้วยกันหลายช่องทาง โดยแต่ละช่องทางล้วนมีความต้องการเนื้อหาและรูปแบบเนื้อหาที่แตกต่างกัน

Generative AI สามารถช่วยสร้างเนื้อหาให้มีความน่าสนใจ เหมาะสมกับแพลตฟอร์มของช่องทางการตลาดที่เลือก เช่น TikTok VDO ควรมีเนื้อหาที่จูงใจและสื่อถึงสินค้าได้ตั้งแต่ช่วง 3 วินาทีแรก Generative AI ยังสามารถทำ VDO โฆษณา หรือออกแบบภาพกราฟิกได้ด้วย ทำให้ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการผลิตเนื้อหาเหล่านี้

3. ช่วยปรับ ปรับงบประมาณให้เหมาะสม

หาก SMEs อยากทราบต้นทุนการทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ว่า สินค้าที่จะผลิตออกจำหน่ายไม่ควรมีต้นทุนต่อ Inbox เกินเท่าไหร่ถึงจะคุ้มค่าต้นทุน Generative AI สามารถช่วยวิเคราะห์เรื่องดังกล่าวให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ SMEs สามารถปรับต้นทุนการตลาดให้เหมาะสมได้ตามความต้องการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นลง

4. ช่วยเดา คาดการณ์ความต้องการตลาด

Generative AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อนและปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ SMEs เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า แนวโน้มตลาด และข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น เช่น แต่ละจังหวัดควรวางจำหน่ายสินค้าในจำนวนเท่าไหร่ รูปแบบไหน เป็นต้น

ซึ่งจะสามารถช่วยให้ SMEs คาดการณ์ความต้องการตลาดในอนาคตได้ รวมทั้งยังทำให้ปรับเปลี่ยนแผนการทำงานให้ตรงตามความต้องการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างแม่นยำ

5. ช่วยสร้าง พัฒนาสินค้าใหม่

กรณี SMEs อยากต่อยอดสินค้าเดิมที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะผลิตสินค้าอะไร สามารถให้ Generative AI ช่วยวิเคราะห์ได้ เพียงใส่รายละเอียดข้อมูลต่างๆ ให้ชัดเจน เช่น อยากได้กลุ่มลูกค้าเดิม อยากจำหน่ายในราคาเดิม เป็นต้น โดย Generative AI จะนำข้อมูลด้านการตลาดที่มีอยู่มาช่วยวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาสินค้าตัวใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้งาน Generative AI เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กูรูอ้นได้แนะนำให้เพิ่ม 4 ข้อนี้เข้าไปด้วย ได้แก่ 

1. ยิ่งคุย ยิ่งเข้าใจ ยิ่งใส่ข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งวิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียดมากขึ้น 

2. สอนก่อนสั่ง สร้างความเข้าใจในตัว SMEs กับ Generative AI ให้ละเอียด อาทิ ป้อนข้อมูลต่างๆ ของบริษัท และสินค้า สิ่งที่ต้องการ 

3. ซักไซ้ไล่เลียง สามารถสอบถามในสิ่งที่สงสัยอย่างละเอียด 

4. สั่งให้ละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เคลียร์และละเอียด

การนำ Generative AI มาช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องยากหรือไกลตัว SMEs ทุกคนสามารถทำได้ ขอเพียงแค่เปิดใจพร้อมที่จะศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดยุคดิจิทัล และสร้างการเติบโตให้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Related Posts

ผอ.ใหญ่ ดีป้า แนะไทยเดินหน้าหาตลาดใหม่ เตรียมการรับมือมาตรการภาษีทรัมป์