กระทรวงสาธารณสุข
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทำคนไทยตายวันเกินพัน สูญเสียเศรษฐกิจปีละ 1.6 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีงานแถลงข่าวผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) สืบเนื่องจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-communicable diseases) คือภัยคุกคามที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอย่างหนักหน่วง ทั้งนี้ มีสถิติย้อนหลังจากรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ในกลุ่มคนไทยที่เสียชีวิตเพราะ NCDs ปีละกว่า 400,000 ราย โดยในปี 2565 ผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากกลุ่มโรค NCDs สูงถึง 74% หรือ คิดเป็นจำนวน 45 ล้านคนทั่วโลก และในรายงานนี้ คนไทยเสียชีวิตด้วยกลุ่มโรค NCDs สูงถึงร้อยละ 77 มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการบริโภคที่ส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลง ความเครียด การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ หรือแม้แต่ปัญหาด้านมลภาวะ ที่ส่งผลกระทบและสะสมจนกลายเป็นภัยเงียบที่แฝงตัว ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ในที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน และเพื่อแก้ไขปัญหา ป้องกัน คว
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้ผู้ขายใบกระท่อม ต้องติดป้ายห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี สตรีมีครรภ์-สตรีให้นมบุตร มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การปิดประกาศหรือการแจ้งให้บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายหราบถึงข้อห้ามขายใบกระท่อม หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบ พ.ศ. 2566 ลงนามโดยนายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการปิดประกาศหรือการแจ้งให้บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทราบถึงข้อห้ามขายใบกระท่อมหรืออาหารตามกฎหมาย ว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การปิดประกาศหรือ
One Stop Service กัญชา ต้องเกิดเร็วที่สุด บริการเป็นระบบ ติดต่อสะดวก นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องกับการขออนุญาตพืชและผลิตภัณฑ์กัญชา ได้แก่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันกัญชาทางการแพทย์ มีเป้าหมายเพื่อหารือบูรณาการการทำงาน ให้ประชาชนได้รับการอนุญาตอย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น และมีฐานข้อมูลผู้ได้รับอนุญาตกัญชาอย่างเป็นระบบ ซึ่งการหารือดังกล่าวได้คำนึงถึงการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคล โดยการให้บริการในระบบ One Stop Service นั้นจะมี ทั้งระบบออนไลน์ ที่ดำเนินการผ่าน Application และออนไซต์ คือ หน่วยงานที่มีหน้าที่อนุญาต ตั้งแต่การปลูก ผลิต แปรรูป จำหน่าย และส่งออก รวมถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินการขออนุญาตให้เป็นไปตามประกาศ ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อกระทรวงสาธารณสุข มีแนวทางการดำเนินการแล้ว จะได้มีขยายการบูรณาการร่วมกับกรมวิชาการเกษตรอีกด้วย เนื่องจากกรมวิชาการเกษตร มีกฎหมายที่เกี
เปิดโพล 10 เหตุผล ที่นำไปสู่ พฤติกรรมเสี่ยง ติดโควิด-19 ของคนไทย! เว็บไซต์ สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยข่าว จากผลการสำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพในประเด็นความตระหนักรู้ต่อพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ของกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1-12 ระหว่างวันที่ 5-31 มีนาคม 2565 มีผู้ตอบแบบสำรวจ จำนวนทั้งสิ้น 113,847 คน อายุเฉลี่ยระหว่าง 25-26 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ผลการสำรวจ พบว่า มากกว่าร้อยละ 30 ของประชาชนคนไทยทั่วประเทศมีความตระหนักรู้ต่อการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการมีพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ตามลำดับ ดังนี้ 1. ไม่ได้แยกกินอาหารกับครอบครัวหรือเพื่อน ร้อยละ 36.1 2. รู้สึกเบื่อหน่ายกับข้อห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรม ร้อยละ 35.1 3. รู้สึกกลัวต่อการใช้ ATK ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 30.5 4. ไม่รู้ว่าผู้ป่วยเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง เป็นกลุ่มเสี่ยงหากติดโควิดจะเกิดความรุนแรงถึงชีวิต ร้
ทรู เผยยอดผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านช่องทางของกลุ่มทรู ครบเต็มจำนวนแล้ว หลังเปิดให้ลงทะเบียนวันแรก 27 พ.ค. 2564 ทรู รายงานยอดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านช่องทางของกลุ่มทรู ภายใต้ความร่วมมือของ กระทรวงสาธารณสุข และ กสทช. ที่เพิ่มช่องทางให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งได้เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเป็นวันแรกในวันที่ 27 พ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา โดยในส่วนช่องทางของกลุ่มทรู ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการทรูมูฟ เอช 1 หมายเลข ลงทะเบียนให้คนในครอบครัวเพิ่มได้อีก 1 คน (ทุกเครือข่าย) และผู้ใช้ทรูออนไลน์ 1 หมายเลขสมาชิก ลงทะเบียนเพิ่มได้เป็น 2 คน และผู้ใช้ทรูวิชั่นส์ 1 หมายเลขสมาชิก ลงทะเบียนเพิ่มได้เป็นอีก 2 คนนั้น มีผู้ลงทะเบียนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนผ่านทุกช่องทางของกลุ่มทรู ทั้งระบบ USSD เว็บไซต์ และ QR Code ครบเต็มจำนวนแล้วตามที่ได้รับการจัดสรรให้ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้าสำหรับลูกค้ามือถือ 4 ค่าย รวม 430,000 ราย เพื่อรับการฉีดวัคซีน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ระหว่างวันที่ 7 มิ.ย. ถึง 31 ส.ค. นี้ ทั้งนี้ สำหรับการจัดสรรจำน
สธ.-ศธ. ลงนามร่วมพัฒนาหลักสูตรอาหาร-ผลิตภัณฑ์จาก กัญชา กัญชง วันที่ 20 ม.ค. 64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการเรียนรู้การประกอบธุรกิจ จากส่วนของพืชกัญชาและกัญชงที่ได้รับการยกเว้นจากการเป็นยาเสพติด ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ทั้งอาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สปา และการท่องเที่ยว ภายหลังจากที่ได้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ทำให้สารสกัดกัญชาไม่ได้อยู่ใต้ดินอีกต่อไป และคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษได้มีมติให้ปลดทุกส่วนของต้นกัญชา กัญชง ยกเว้นช่อดอก ใบที่ติดกับช่อดอกของกัญชาและกัญชง และเมล็ดกัญชา ออกจากยาเสพติดให้โทษไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งคาดว่าเม
กระทรวงสาธารณสุข ขอเชิญเที่ยวชมงานกาชาด ปี 2563 ระหว่างวันที่ 19 – 29 ธันวาคม 2563 ครั้งแรก…กับงานกาชาดออนไลน์เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ตามวิถีใหม่ New Normal งานกาชาดออนไลน์บนแพลตฟอร์ม www.งานกาชาด.com เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายใต้แนวคิด “Connectivity of Giving #ให้ด้วยใจไร้พรมแดน” ที่ทุกท่านสามารถเข้าถึงและร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 19-29 ธันวาคม 2563 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมงานกาชาดออนไลน์ได้ง่ายๆ เพียงแค่คลิก www.งานกาชาด.com หรือ สแกน QR code ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ และ Log in ผ่านแอพพลิเคชั่น Line, Facebook, E-mail หรือ G-mail ได้ทั้งโทรศัพท์มือถือ แท็บเลต และคอมพิวเตอร์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 097-104-6971 พบกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การประกวดออกแบบร้านงานกาชาดออนไลน์ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สมาคม ชมรม มูลนิธิ และบริษัทเอกชน การประกวดขวัญใจงานกาชาดออนไลน์ เฟ้นหาทูตแห่งการให้ไร้พรมแดน จาก 26 ผู้เข้าประกวดที่เป็นบุคลากรของหน่วยงานที่ร่วมออกร้านในงานกาชาด ซึ่งมากด้วยความสามารถและ
องค์การเภสัชฯ จับมือ ปตท. สร้างโรงงานผลิตยารักษามะเร็ง แห่งแรกในไทย หวังลดค่ายาลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ วันที่ 25 ก.ย. 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นปัญหาสำคัญของระบบสาธารณสุข และเป็นสาเหตุการตายสูงเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องนาน 20 ปี คนไทยต้องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกว่า 80,000 คนต่อปี และมีค่าใช้จ่ายด้านยาที่สูงมาก ความร่วมมือในการสร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งในครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยมีโรงงานที่สามารถผลิตยารักษาโรคมะเร็งที่ครอบคลุมการรักษาทุกกลุ่มโรคมะเร็งในปัจจุบัน และในทุกกลุ่มการผลิต ทั้งรูปแบบยาเคมีบำบัด ซึ่งเป็นยาพื้นฐานในการรักษาโรคมะเร็งที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย และกลุ่มยารักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง เมื่อผลิตได้สำเร็จคาดว่าจะช่วยลดราคายาลงได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ การที่ประเทศไทยจะมีโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งขึ้นเอง จะเป็นการลดภาระการนำเข้ายาจากต่างประเทศซึ่งปัจจุบันต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด มูลค่ามากกว่า 21,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้เพิ่มการเข้าถึงยาได้มากขึ้น เป็นการพึ่
สธ. เข้มมาตรการป้องกันเหตุวิวาทในโรงพยาบาล ทุกเคสต้องดำเนินคดีถึงที่สุด วันที่ 21 ก.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเกิดกรณีทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงพยาบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ หากมีผู้เข้ามาก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในโรงพยาบาล เกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สิน หรือมีการทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดบุคลากรขณะปฏิบัติหน้าที่ มีนโยบายให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด หากผู้บริหารในพื้นที่ละเลย หรืออะลุ่มอล่วย จะดำเนินคดีมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่ง ดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ (2P Safety) ทบทวนและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และขอให้ทุกคนช่วยกันยุติการก่อเหตุความรุนแรงในโ
เช็กเลย! คนไทย 7 กลุ่มเสี่ยง ทุกสิทธิการรักษา สามารถขอรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลได้ฟรี! ตั้งแต่ 1 พ.ค. – 31 ส.ค. 63 ใครบ้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยง? 1. หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2. ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับยาเคมีบำบัด 3. ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 4. เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6. ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย และผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 7. ผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กก. ต่อตารางเมตร ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลไว้ 4 ล้านโด๊ส (มีจำนวนจำกัด) โดยขอรับวัคซีนได้ที่ โรงพยาบาลของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชน ที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติม โทร. สายด่วน สปสช. 1330 หรือ สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)