ของขึ้นราคา
พันธุ์ไทยใกล้สูญ! แม่ค้าเผย ทุกวันนี้มีแต่ “ปลาทูอินเดีย” ต้นทุนแพง แต่ขายได้เรื่อยๆ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ ร้านจำหน่ายปลาทูในตลาดมณีพิมาน ย่านเตาปูน หลังมีข่าวว่า สมาคมประมงไทย คาดการณ์ว่า ปลาทูไทยกำลังสูญพันธุ์ใน 5 ปีข้างหน้า เจ้าของร้าน นาว ปลาทูนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ว่า ตนประกอบอาชีพขายปลาทูมาได้ 10 ปีแล้ว พอจะได้ยินข่าวเรื่องปลาทูไทยจะสูญพันธ์ุอยู่เหมือนกัน ในตลาดที่เห็นปลาทูตัวใหญ่ๆ ในเข่ง กิโลละ 5-6 ตัวนั้น เป็นปลาทูอินเดียแทบทั้งสิ้น “ปลาทูไทย ตัวจะเล็ก เนื้อหวาน ตอนนี้แทบหาไม่มีแล้ว เพราะตัวมันเล็กกว่าเดิม นำมาขายก็ไม่คุ้ม คนไม่ซื้อ ในตลาดที่เห็นตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่นๆ นั่นปลาทูอินเดีย เนื้อก็หวานเหมือนกัน แต่ราคาแพง เพราะเราก็ไปรับมาจากตลาดใหญ่ กล่องละพันกว่าตัว กิโลละ 115-120 บาทแล้ว ไหนจะหมูผักก็ขึ้นราคา ของมันก็ขึ้นตามๆ กันไป ไม่งั้นก็อยู่กันไม่ได้ ปลาทูของที่ร้านก็เป็นปลาทูอินเดีย ขายตามขนาดตั้งแต่เข่งละ 35-60 บาท ลูกค้าก็มาซื้อกันปกติ ที่ขายดีๆ ก็เป็นปลาทูราคา 45 กับ 50 บาท เพราะตัวไม่ใหญ่
พริกผลิตไม่ทันขาย ราคาพุ่งโลละ 300! แม่ค้าชี้ ฝนตก-ทุนแพง ทำยอดขายหด พริกแพง – เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ลงพื้นที่สำรวจ ราคาพริก ในตลาดสดย่านเตาปูน หลังมีข่าวพริกขาดตลาดและปรับราคาสูงขึ้น เจ้าของร้านขายผักในตลาดรายหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเปิดร้านขายผักสดมากว่า 20 ปี ราคาของต่างๆ มีปรับขึ้นลงทุกวัน แต่ปีนี้พริกราคาแพงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ตามมาจากการที่หมูขึ้นราคา อีกทั้งเป็นช่วงฤดูฝน ผลผลิตน้อยทำของขาดตลาด ราคาที่รับมาจำหน่ายต่อจากตลาดใหญ่เพิ่มขึ้น ตนจึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายตาม โดยราคาตอนนี้ พริกสวนจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท พริกจินดาราคากิโลกรัมละ 190 บาท ถ้าเป็นพริกจินดาแบบเด็ดขั้วแล้ว กิโลกรัมละ 200 บาท หากเป็นพริกต่างประเทศ อย่าง พริกกัมพูชาราคาจะถูกกว่าลงมา “พริกมันแพงเพราะฝนตกนั่นแหละ ผลผลิตมันเลยน้อยกว่าทุกที พอเราไปรับมาขายต่อจากตลาดใหญ่ ทุนมันก็สูง ก็ต้องปรับราคาขึ้นตามกันไป รายได้ก็ไม่แน่นอน เพราะของมันก็มีปรับขึ้นลงทุกวัน ลูกค้าเขาก็มาซื้อเหมือนเดิม แต่เขาก็ลดจำนวนการซื้อลง เพราะพริกมันก็เป็นของที่ต้องใ