จ๊อบไทย
เปิดโพล 5 ประเภทธุรกิจ ที่มีความต้องการแรงงานน้อยที่สุด ต้นปี 63 นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับภาพรวมตลาดแรงงาน จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลงานในจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม เพื่อรายงานสถานการณ์ความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 5 ประเภทธุรกิจ ที่มีความต้องการแรงงานน้อยที่สุด ธุรกิจท่องเที่ยว 1,690 อัตรา การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรงหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่มีประกาศใช้มาตรการจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งความต้องการแรงงานในธุรกิจนี้ลดลงถึง 65.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย) ธุรกิจความบันเทิง 2,075 อัตรา เป็นอีกอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปิดสถานที่สาธารณะต่างๆ ประกอบกับมาตรการควบคุมโรค โดยห้ามการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนม
จ๊อบไทยสรุปตัวเลขของประเภทงานที่เปิดรับสมัครมากที่สุด 5 อันดับแรกในไตรมาส 1 ประจำปี 2562 ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด โดยประเภทงานที่มีการเปิดรับสมัครมากที่สุดจากทั่วประเทศ ได้แก่ 1. ขาย จำนวนเฉลี่ยต่อเดือน 36,600 อัตรา 2. ช่างเทคนิค จำนวนเฉลี่ยต่อเดือน 20,200 อัตรา 3. ผลิต/ควบคุมคุณภาพ จำนวนเฉลี่ยต่อเดือน 15,377 อัตรา 4. ธุรการ/จัดซื้อ จำนวนเฉลี่ยต่อเดือน 15,231 อัตรา และ 5. บัญชี จำนวนเฉลี่ยต่อเดือน 12,765 อัตรา ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่างานที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุดก็ยังเป็นงานขาย ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญของทุกองค์กร รองลงมาคือช่างเทคนิคและผลิต/ควบคุมคุณภาพที่สอดรับการกับขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ยังเผยให้เห็นข้อมูลของ 3 ประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานเติบโตมากที่สุดในช่วงไตรมาส 1 ประจำปี 2562 คือ โยธา/ก่อสร้าง เติบโตเฉลี่ยคิดเป็น 11.69% ตามมาด้วย ช่างเทคนิค คิดเป็น 4.09% และ คอมพิวเตอร์/ไอที คิดเป็น 3.21% นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) กล่าวว่า ทั้งนี้จะเห็นไ
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของจ๊อบไทย (JobThai) เปิดเผยผลสำรวจว่า กลุ่มคนที่ยังไม่มีแผนจะเปลี่ยนงาน (Passive Job Seekers) พบว่ามาจาก 5 ปัจจัยที่สำคัญ นั่นคือ 1.เงินเดือน คิดเป็น 15.49% 2.สวัสดิการที่ดี คิดเป็น 12.73% 3.การเดินทางสะดวก คิดเป็น 12.47% 4.เพื่อนร่วมงานที่ดี คิดเป็น 12.08% และ 5.หัวหน้างานที่ดี คิดเป็น 9.49% โดยจะเห็นได้ว่าปัจจัยที่น่าสนใจนอกเหนือจากเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการที่สามารถดึงดูดให้คนยังอยากอยู่กับองค์กรต่อไปได้ คือ การเดินทางสะดวก เพื่อนร่วมงานที่ดี และหัวหน้างานที่ดี ทั้งนี้ผลสำรวจยังถามถึงปัจจัยที่จะสามารถจูงใจให้คนทำงานกลุ่มนี้ตัดสินใจเปลี่ยนงานได้ พบว่าการได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ดึงดูดมากที่สุด ตามมาด้วย การได้รับสวัสดิการที่ดีขึ้น ตำแหน่งงานมีความก้าวหน้ามากขึ้น อีกทั้งองค์กรต้องมีความมั่นคง และการเดินทางไปทำงานสะดวก ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลข้างต้นจะทำให้องค์กรสามารถเข้าใจพฤติกรรมตลอดจนมุมมองความคิดของฝั่งคนทำงานในปัจจุบัน พร้อมนำข้อมูลดังกล่าวไปพิจารณาปรับใช้ในเรื่องการบริหารจัดการพนัก
5 สายงานสำหรับคนที่ชื่นชอบ และมีความรู้ด้าน Social Media กล่าวได้ว่าทุกวันนี้เป็นยุคที่โซเชียลมีเดีย (Social Media) เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล ติดตามข่าวสาร พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนการซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายผ่านหน้าจอ โซเชียลมีเดียจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างโอกาสให้กับธุรกิจ เพราะสามารถเข้าถึงบุคคลทั่วไปหรือกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง บริษัทต่างๆ จึงหันมาใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ตลอดจนนำเสนอสินค้าและบริการมากขึ้น ทำให้บุคลากรในบางสาขาอาชีพต้องมีทักษะความรู้ ตลอดจนสามารถนำโซเชียลมีเดีย มาปรับใช้กับการทำงานได้ ในวันนี้ คุณแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของจ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทย จะมาแนะนำ 5 สายงานที่ใช้ทักษะและความรู้เกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย บอกเลยว่าใครสนใจงานเหล่านี้ รู้ไว้ได้ประโยชน์อย่างแน่นอน เริ่มกันที่ งานการตลาด แม้สินค้าหรือบริการของบริษัทจะมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีการทำการตลาดออกไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย