สมุนไพร
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติลงพื้นที่พบปะเกษตรกรภาคตะวันออก ในโครงการ “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี ครั้งที่ 2” ณ จังหวัดปราจีนบุรี จัดสัมมนาชี้ช่องทางรวยจาก FTA พร้อมให้ข้อมูลกับเกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA 13 ฉบับที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ เพื่อส่งออก อาชีพเกษตรกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาในทุกด้าน โอกาสการเติบโตของสินค้าเกษตรไทยถูกส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มองเห็นถึงช่องทางสำคัญ ที่จะทำให้สินค้าเกษตรสามารถขยายตลาดออกไปได้มากขึ้น โดยการเปิดเสรีทางการค้าของไทยที่จะช่วยเกษตรกรไทยให้สามารถขยายตลาดส่งออกได้ ในครั้งนี้ กรมเจรจาฯ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อศึกษาดูงานกลุ่มเกษตรกรต่างๆ ในพื้นที่กลุ่มสมุนไพรเกษตรอินทรีย์บ้านดงบังเป็นกลุ่มสมุนไพรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 1,000 ไร่ ผลิตและแปรรูปสมุนไพรให้กับ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยมี คุณสมัย พูนสุข ประธานที่ปรึกษากลุ่มสมุนไพรบ้านดงบัง เป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ กลุ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 ใ
กัญชา – ทุกฝ่ายเห็นพ้อง ปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์ สนช.เดินหน้า คาดปี 2562 แล้วเสร็จ แพทย์-เภสัช การันตี ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเคมี ลดเหลื่อมล้ำทุกคนเข้าถึง กัญชา – เมื่อวันเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดสัมมนา “สนช.ปลดล็อกกัญชาเป็นยารักษาโรค” โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิปสนช. และผู้ริเริ่มเสนอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ตามมาตรา 133 ของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยมีสาระสำคัญ ปลดล็อกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ พร้อมมาตรการควบคุม มีสนช.ลงชื่อสนับสนุน 44 คน และ น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกมธ.การสาธารณสุข โดยมีสมาชิกสนช. ตัวแทนจากส่วนราชการ เครือข่ายผู้ใช้กัญชาแห่งประเทศไทย ตลอดจนนักกฎหมาย ร่วมสัมมนา นายพรเพชร เผยว่า กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 เป็นอุปสรรคต่อการค้นคว้าวิจัย ซึ่งสามารถใช้ทางการแพทย์ได้ สนช.เห็นว่า ถ้าแก้กฎหมายกัญชาสามารถทำได้ แต่ต้องใช้เวลา ต้องฟังความเห็นประชาชนอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ “ถ้าเสนอร่างกฎหมายวาระแรก รับหลักการได้ในเด
‘ปลาร้าสับหนวดเขี้ยว’ จัดเต็มเครื่องสมุนไพร ใช้ปลากระดี่ล้วน ขายดีสองวันได้หมื่นบาท ผ่านไปจังหวัดสิงห์บุรีอย่าลืมแวะเยือนถิ่นวีรชนที่ “ตลาดย้อนยุคบ้านระจัน” ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมแวะมาช็อป ชิม ชิล กันไม่ขาดสาย เพราะมากไปด้วยของกินนานาชนิด ตั้งแต่ของหวานไปจนถึงอาหารคาว กระทั่งเสื้อผ้า ต้นไม้ยังมีมาด้วย ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดย้อนยุคบ้านระจัน แน่นอนว่า สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เห็นได้ชัดเจนเลยคือการแต่งตัวของพ่อค้าแม่ขายแบบย้อนยุคไว้หนวดเหมือนกับหลงเข้าไปในสมัยบางระจัน ควบคู่กับเสน่ห์ชวนหลงคือสีหน้าท่าทางและลีลาการพูดเรียกลูกค้า เช่นคำว่า แม่หญิง ขอรับ หรือเจ้าค่ะ ที่ลูกค้าฟังแล้วยิ้มเพลินไปตามๆ กัน หนึ่งร้านแนะนำเห็นแล้วสะดุดตา เพราะกำลังขะมักเขม้นกับการเรียกลูกค้า โดย คุณเชิดศักดิ์ สนธิ หรือชื่อในวงการว่า คุณหนวด วัย 43 ปี เจ้าของร้านที่ไว้หนวดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว “ร้านหนวดเขี้ยว น้ำพริกปลาร้าสับ สูตรโบราณ บ้านระจัน” เล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ยึดอาชีพขายปลาร้าสับมานาน 2 ปี เนื่องจากที่บ้านขายอาหาร ขายแกง
ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ (Dyslipidemia) คือ ระดับไขมันในเลือดที่มีคอเลสเตอรอล มากกว่า 200 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร ระดับไตรกลีเซอไรด์ มากกว่า 150 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร ระดับ HDL-cholesterol (HDL-C) หรือไขมันดี น้อยกว่า 40 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร ระดับ LDL-cholesterol (LDL-C) หรือไขมันเลวมากกว่า 130 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร โดยยิ่งหากมีไขมันตัวร้ายมาก ก็ยิ่งก่อปัญหาหลอดเลือดอุดตันได้มาก ส่งผลกระทบให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดส่วนปลาย หลอดเลือดสมองตีบ แตก ตัน ในทางกลับกันหากยิ่งมีปริมาณไขมันตัวดีสูง ก็จะส่งผลดีกับร่างกายมากขึ้น เพราะไขมันตัวดีจะทำหน้าที่เก็บไขมันส่วนเกินจากผนังหลอดเลือดกลับไปทำลายที่ตับ ในการรักษาแผนปัจจุบันเหมือนกับการใช้ยาสมุนไพรในการรักษา ตรงที่ยาไม่ได้มีผลลดไขมันได้ 100% จำเป็นต้องอาศัยการควบคุมอาหารร่วมด้วยเสมอเป็นอันดับแรก คือลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ของมันของทอด กะทิ เครื่องในสัตว์ หรือแม้กระทั่งขนมจุกจิก น้ำอัดลม เครื่องดื่มน้ำผลไม้ กาแฟ หากมีการใส่น้ำตาลปรุงรสในปริมาณมาก ก็จะเพิ่มพลังงานให้กับสิ่งที่เรารับประทาน ซึ่งหากร่างกายเรามีการใช้พลังงานน้อยกว่าพลั
เมื่อพูดถึงสุขภาพเพศชาย เราคงต้องมาไล่เรียงกันว่า ผู้ชายส่วนใหญ่น่าจะสนใจหรือมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพในด้านใดบ้าง อันดับต้นๆ คงไม่พ้นเรื่องของสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งปัญหาหลักคือ เรื่องผมร่วงหรือหงอก เรามีสูตรสมุนไพรเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้ สูตรแรก เป็นการหมักผมสูตรอายุรเวทอินเดีย โดยใช้สมุนไพร 3 ชนิด คือ มะขามป้อมบดผง ชะเอมเทศผง และงาดำดิบบดผง งาดำ มะขามป้อม ชะเอมเทศ นำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้อย่างละเท่าๆ กัน ผสมให้เข้ากันดี งาดำอาจจะบดยากสักหน่อยเพราะค่อนข้างเหนียว อาจใช้วิธีปั่นด้วยเครื่องปั่นสำหรับบดอาหารแห้ง (ที่เป็นโถขนาดเล็ก) จากนั้นมาคลังในครกหรือโกร่งบดยา จะได้เนื้องาผงที่ค่อนข้างเนียนขึ้น แล้วนำมาผสมกับผลมะขามป้อม และ ผงชะเอมเทศ (หาไม่ยาก ร้านขายยาแผนโบราณ ร้านขายสมุนไพรทั่วไปพอมีจำหน่าย) เมื่อผสมเข้ากันดีแล้ว เติมน้ำผึ้งลงไปทีละน้อยพร้อมกับคลุกเคล้าตัวยาไปด้วย จนได้เนื้อยาข้นพอที่จะพอกได้ นำมาชโลมให้ทั่วหนังศีรษะ ระหว่างที่ใช้ยาพอกบนศีรษะให้นวดคลึงหนังศีรษะไปด้วย เพื่อให้ยาซึมซาบลงไปได้ดีขึ้น อาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดจนหมาดพันศีรษะไว้เพื่อไม่ให้ตัวยาหล่น พอกทิ้งไว้
ตะไคร้ พืชที่ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่ใช้ทำอาหารได้หลากหลายชนิด เป็นพืชสวนครัวประจำบ้านที่ผู้คนรู้จักคุณสมบัติที่จะนำมาประกอบอาหาร ตะไคร้ สามารถนำมาทำอาหารได้ตั้งแต่ต้นไปจนถึงใบ ลำต้น ใช้ผสมรวมเป็นสูตรน้ำพริกแกง ทั้งแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ลำต้นใช้สำหรับใส่ต้มยำ และสามารถที่จะซอยผสมในอาหารได้อร่อยหลายๆ เมนู เช่น ไก่ 3 อย่าง ยำตะไคร้ ยำปลาทู ยำปลากระป๋อง เป็นต้น ตะไคร้ พืชสารพัดประโยชน์ ตะไคร้ เป็นพืชสวนครัวใช้ประกอบอาหารได้ทั้งต้น ไม่ว่าจะเป็นลำต้นไปจนถึงใบ ตะไคร้ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลาย เป็นพืชสวนครัวประจำบ้านที่ผู้คนรู้จักนำมาทำอาหารได้ตั้งแต่ต้นไปจนถึงใบ ลำต้น ใบตะไคร้ช่วยให้เป็ด ไก่ ที่เป็นโรคระบาดชนิดหนึ่งที่เกิดในฤดูหนาว ที่เรียกว่า หวัด เป็ด ไก่ เหล่านั้นจะมีอาการอัมพาต ขาสั่น ยืนไม่อยู่ บางแห่งเรียกไข้ขา ชาวบ้านที่เลี้ยงเป็ดและไก่ที่เป็นโรคชนิดนี้เขาจะใช้ใบตะไคร้พันที่ขา และก็ช่วยให้หายโรคได้อย่างน่าประหลาด (ภูมิปัญญาชาวบ้าน สมัยผู้เขียนเด็กๆ เคยเห็นพ่อจะเอาใบตะไคร้นี่แหล่ะ! มาพันขา ไก่ เป็ด ที่ขาหักเดินไม่ได้หรือเดินกะเผลกๆ ไม่กี่วันเห็นมันเดินและวิ่งเล่นเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จ.เชียงราย นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสครบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนา มฟล.เรื่องมหา วิทยาลัยกับประเทศไทย 4.0 ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศที่มีนวัตกรรม ทั้งทางสังคมและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และต้องแปลงออกมาให้เป็นประโยชน์ วันนี้มหาวิทยาลัยช้าเกินไป มหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยทรัพยากร ทั้งอาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา แต่ช้า มีความเฉื่อยมากเกินไป ต้องกระฉับกระเฉง และคล่องตัวมากกว่านี้ ขณะนี้มีงบประมาณในการลงทุนวิจัย กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก คาดว่าปี 2560 อย่างน้อยจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 0.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และอีก 5 ปีข้างหน้า เชื่อว่าจะอยู่ที่ 2% ของจีดีพี ทำให้ประเทศไทยจะก้าวเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้น มหาวิทยาลัยและนิสิตนักศึกษาจะต้องช่วยกันสร้างองค์ความรู้ และต้องใช้ปัญญาเป็นหลักในการพัฒนาทรัพยากรที่มีจำกัด และแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย “มหาวิทยาลัย 4.0 ต้องปรับรูปแบบตัวเองใหม่ มีขนาดเล็กลง เปิดสอนในสาขาที่เชี่ยวชาญและเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่ใช่เปิดส