อากาศร้อน
เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนและร้อนมาก เราต้องเผชิญและปรับไลฟ์สไตล์ที่มาพร้อมสภาพอากาศที่ร้อนและมีความชื้นสูง จะดีกว่าไหม…หากเราเตรียมพร้อมและป้องกัน เพราะร่างกายอาจสูญเสียน้ำได้ง่าย ผิวพรรณของเราก็สูญเสียความชุ่มชื้นและต้องสัมผัสกับรังสียูวีจากแดดที่ร้อนแรง และที่สำคัญ ร่างกายก็ยังเกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ได้ นำไปสู่การสะสมของแบคทีเรียและก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังได้อีกด้วย การศึกษาจากสถาบันวิจัยชั้นนำ ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของผิวพรรณในหน้าร้อนอย่างน่าสนใจ โดยวิเคราะห์ภาพรวมฤดูร้อนของประเทศไทยในปัจจุบัน มีอุณหภูมิสูงเฉลี่ย 37-43 °C มาพร้อมค่าดัชนีรังสียูวี หรือ UV Index สูงถึง 11-13 ที่มีส่วนสร้างผลเสียสู่ผิวพรรณและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า เมื่อผู้คนอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งจัด จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็ยิ่งส่งผลให้ผิวแห้งและระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ก็จะทำให้เกิดอาการขาดน้ำอีกด้วย แม้กระทั่งในกลุ่มวัยรุ่นยังพบว่ามีปัญหาสิวและผิวมันมากขึ้น เนื่องจา
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าว อะไรจะดีไปกว่าการได้พักผ่อนในห้องเย็นสบาย แต่รู้หรือไม่ว่า หัวใจสำคัญของระบบปรับอากาศที่ทำให้ในห้องมีความเย็นฉ่ำก็คือ “คอยล์เย็น” ทำหน้าที่ดึงความร้อนออกจากอากาศหรือสารทำความเย็นภายในห้อง ทำให้ห้องเย็นสบาย ผ่อนคลาย คอยล์เย็นมีหลายประเภท หลายขนาด แต่ละประเภทมีข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน บทความนี้ จะพาไปรู้จักกับคอยล์เย็น จาก 2pt3q ที่มีประสบการณ์ยาวนานทั้งคอยล์แอร์, แผงคอยล์เย็น คอยล์เย็นแอร์บ้าน วิธีเลือกซื้อ การติดตั้ง วิธีดูแลรักษา รวมไปถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เลือกใช้คอลย์เย็นได้อย่างเหมาะสม ไปดูพร้อมกันเลย 2pt3q ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องคอยล์เย็นและระบบความเย็นทุกประเภท ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคำว่า คอลย์เย็นคืออะไร คอยล์เย็น (Cool Coil) หรือ คอยล์แอร์ คือส่วนประกอบสำคัญในระบบปรับอากาศ ทำหน้าที่ดึงความร้อนจากอากาศภายในห้อง เปลี่ยนเป็นไอความร้อน โดยใช้สารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) โดยมีส่วนประกอบหลักของคอลย์เย็น ได้แก่ ครีบระบายความร้อน (Fin) : แผ่นอะลูมิเนียมบางๆ เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัส ช่วยให้อากาศถ่ายเทความร้
อากาศร้อนจัด ธุรกิจร้อนตาม แรงงาน ค่าไฟพุ่ง ของขึ้นราคา ช่วงนี้หลายพื้นที่ในประเทศไทยเผชิญกับ “สภาพอากาศร้อนจัด” อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้ใครหลายคนไม่อยากออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านกันเลยทีเดียว ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตหรือสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจหรือผู้ที่ประกอบอาชีพกลางแจ้ง เช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้าง-พนักงานรับส่งอาหาร พนักงานทำความสะอาดถนน คนงานก่อสร้าง พ่อค้า-แม่ค้า และเกษตรกร ฯลฯ ทั้งหมดที่กล่าวมามีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางสุขภาพได้มากกว่ากลุ่มอื่น อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้ของขึ้นราคา เช่น ไข่ไก่แพงขึ้น, ค่าไฟที่สูงขึ้น เป็นต้น ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ อุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคแรงงาน เนื่องจากสภาวะการทำงานที่ยากลำบากขึ้น ทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจได้รับผลกระทบไปด้วยนั่นเอง ผลกระทบทางด้านเกษตรกรรม การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ส่งผลต่อความเสียหายของพื้นที่เกษตรอย่างชัดเจน เห็นได้จากที่ผ่านมาว่า แต่ละปีเกิดภัยแล้ง ทำให้ผลผล
เปิดหมดเปลือก “สตรอเบอร์รีโยเกิร์ต” เมนูดับร้อน ทำกินได้ที่บ้าน อากาศร้อนๆ แบบนี้ หาอะไรเย็นๆ สดชื่นๆ มาคลายความร้อนออกไปบ้างดีกว่า วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะมาเปิดสูตร “สตรอเบอร์รีโยเกิร์ต” เมนูดับร้อนที่เหมาะสมที่สุดในการรับมือกับอากาศร้อนระอุของประเทศเรา จะบอกว่าเมนูนี้ไม่ใช่แค่ดับร้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นเมนูทางเลือกของใครก็ตามที่ต้องการจะลดน้ำหนัก เพราะโยเกิร์ตเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยสร้างเม็ดเลือด บำรุงระบบประสาท ช่วยในระบบขับถ่าย และที่สำคัญ อร่อยมากกก ส่วนผสม นมสดรสจืด 1 ลิตร, โยเกิร์ตรสธรรมชาติยี่ห้อใดก็ได้ที่ชอบ 1 ถ้วย, สตรอเบอร์รีสด 1/2 กิโลกรัม, น้ำเชื่อม, น้ำแข็ง วิธีทำโยเกิร์ต นำนมสดเทลงหม้อตั้งไฟ พอเริ่มอุ่น (ประมาณ 45 องศาเซลเซียส หรืออุ่นพอทนได้โดยหยดนมลงบนหลังมือ) จากนั้นให้ใส่โยเกิร์ตลงไป คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน หมั่นคนเบาๆ เพื่อไม่ให้ไหม้ จนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ยกขึ้นจากเตาแล้วปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 8 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วให้นำไปแช่ให้เย็น เราสามารถใช้โยเกิร์ตสำเร็จรูปที่
อากาศร้อน อุณหภูมิทะลุปรอท เลือกซื้อ “อาหารสด” อย่างไรให้ปลอดภัย แนะจุดสังเกตง่ายๆ ดร.วนะพร ทองโฉม นักสุขศึกษา (นักกำหนดอาหารวิชาชีพ) งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิในประเทศไทยอาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เหมาะแก่การเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย การรับประทานอาหารและเลือกซื้ออาหารจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่สำคัญ ควรปรุงสุก และรับประทานหลังปรุงเสร็จใหม่ สำหรับการเลือกซื้ออาหารสด ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผักสดชนิดต่างๆ เป็นกลุ่มอาหารที่เน่าเสียได้ง่าย ผู้บริโภคต้องพิจารณาจากลักษณะภายนอก เช่น ความสด ความสะอาด กลิ่น สี เนื้อสัมผัส สภาพแวดล้อมของสถานที่จำหน่าย ควบคู่กับการสังเกตตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” จากกรมปศุสัตว์ หรือฉลากรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย และควรเลือกจากแหล่งจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานราชการ เช่น “ตลาดสด น่าซื้อ” ของกรมอนามัย “ตลาดนัดน่าซื้อ” หรือร้านอาหาร แผงลอย ที่ได้รับรองมาตรฐานด้วยตราสัญลักษณ์ อาหารสะอาด รส
อากาศร้อนๆ แบบนี้ ต้องเจอกับ บิงซูทับทิมกรอบ บอกขั้นตอนแบบละเอียด ทำตามแก้ร้อนกันได้เลย เพิ่งผ่านหน้าหนาวไม่นาน เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว แต่นี่แค่เพิ่งเริ่ม อากาศร้อนแบบสุดๆ ร้อนจนทนไม่ไหว ต้องหาอะไรเย็นๆ สดชื่นๆ มาดับร้อนแล้วล่ะ วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ขอนำเสนอเมนูดับร้อนที่มีชื่อว่า “บิงซูทับทิมกรอบ” รับรองสดชื่น เหมาะกับทุกวัย นำขนมหวานแบบไทยๆ มาผสมกับน้ำแข็งไสขวัญใจวัยรุ่น ลองทำตามกันได้ ไม่ยาก ส่วนผสม บิงซูทับทิมกรอบ ส่วนผสม น้ำเชื่อม น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร ใบเตย (สำหรับทำน้ำใบเตยเข้มข้น) 1 กำ น้ำตาลทรายขาว 500 กรัม กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา ส่วนผสม หัวกะทิ กะทิอบควันเทียน 500 มิลลิลิตร เกลือป่น 1 ช้อนชา ส่วนผสม ทับทิมกรอบ น้ำหวานสีแดง 500 มิลลิลิตร ดอกอัญชันสด 100 กรัม แห้วหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 230 กรัม แป้งมัน 300 กรัม น้ำแข็งบด หรือหลอดเล็ก 500 กรัม วิธีทำ บิงซูทับทิมกรอบ 1. ทำน้ำใบเตยเข้มข้น เริ่มจากต้มน้ำเปล่าจนเดือด จากนั้นใส่ใบเตยลงไปต้มจนใบเตยสลด 2. ใส่น้ำตาลลงไปในหม้อ ใส่กลิ่นมะลิตามลงไป ต้มต่อสักพักยกหม้อลงจากเตา 3. นำกะทิอบควันเทียนมาต้ม แล้วใส่เกลือ ต้มจนเกลือละลายดีเป็นอันเ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเพิ่มเติมที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายครัวเรือนให้ปรับเพิ่มขึ้นใน 3 หมวดหลักๆ ได้แก่ 1) ค่าไฟฟ้า ตามปริมาณการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ทำให้คาดว่าค่าไฟฟ้าของครัวเรือนเฉลี่ยในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. ในปี 66 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 974-1,124 บาท/ครัวเรือน เทียบกับช่วงเดือนอื่นๆ ของปี ที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 871 บาท/ครัวเรือน 2) ค่าอาหาร จากราคาวัตถุดิบที่ขยับสูงขึ้นตามสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ประกอบกับธุรกิจร้านอาหารอาจมีต้นทุนส่วนเพิ่มจากการใช้น้ำแข็งและตู้แช่เพื่อเก็บวัตถุดิบที่เน่าเสียง่าย เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ เป็นต้น และ 3) ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ จากการใช้จ่ายเพื่อรักษาโรคที่มากับความร้อน เช่น โรคไมเกรน อาหารเป็นพิษ โรคทางผิวหนัง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 66 ค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนใน 3 หมวดดังกล่าว (สัดส่วนราว 39% ของค่าใช้จ่ายครัวเรือนทั้งหมด) จะคิดเป็นมูลค่าราว 9,666 บาท/เรือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 65 ซึ่งอยู่ที่ราว 8,868 บาท/ครัวเรือน หรือขยายตัวร
วิธีเลือกซื้อไอศกรีม และ น้ำแข็ง ของกินเย็นๆ ช่วยดับร้อน ในช่วงหน้าร้อน ที่บางพื้นที่มีค่าดัชนีความร้อนสูงถึง 50 องศาเซลเซียสแบบนี้ คงต้องหาตัวช่วยมาช่วยดับร้อนกันบ้าง หากนั่งอยู่บ้านก็ต้องเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ แต่ถ้าเรื่องของกินเย็นๆ มาช่วยดับกระหายต้องยกให้ไอศกรีมหรือน้ำแข็ง และเพื่อให้กินได้อย่างสบายใจ เรามาดูวิธีการเลือกซื้อไอศกรีมและน้ำแข็งกันดีกว่า ว่าควรสังเกตอะไรบ้าง วิธีเลือกซื้อไอศกรีม 1. อ่านฉลากอาหารก่อนซื้อ โดยฉลากที่แสดงบนบรรจุภัณฑ์ต้องมีข้อความภาษาไทย และมีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร ส่วนประกอบ ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า วันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่หมดอายุ หรือควรบริโภคก่อน วิธีการเก็บรักษา และข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร เป็นต้น 2. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับอาหารหวาน มัน เค็ม มากเกินไป ที่เป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เนื่องจากกลุ่มไอศกรีมที่ผ่านเกณฑ์สารอาหาร และได้การรับรองให้ใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวต้องมีค่าพลังงานทั้งหมด=130 กิโลแคลอรีต่อหน่วยบริโภค น้ำตาลทั้งหมด ≤20 กรัมต่อ 10
แพทย์ เตือน อากาศแปรปรวน ฝนตก-ร้อนอบอ้าว เสี่ยงเกิดโรค แนะ ปชช. ดูแลสุขภาพ นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สภาพอากาศของประเทศในช่วงนี้มีทั้งฝนตกหนัก และบางวันอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ โดยเฉพาะคนที่ร่างกายอ่อนแออาจล้มป่วยจนต้องนอนพัก แนะนำช่วงหน้าฝนนี้ควรพกร่ม เสื้อกันฝน หรือหมวก ป้องกันตัวเองไม่ให้เปียกฝน โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ ถ้าเปียกฝนก็ใช้ผ้าขนหนูซับผมให้แห้งให้ได้มากที่สุด และควรมีเสื้อผ้าไว้ผลัดเปลี่ยนในกรณีที่จำเป็นต้องลุยฝน เพราะการอยู่ในสภาพเปียกชื้นอาจทำให้ร่างกาย เป็นตะคริว เป็นหวัด ไอ จาม เป็นไข้ และอาจทำให้เกิดอาการปอดบวมแทรกซ้อนได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมขัง เพราะน้ำที่ท่วมขังมีเชื้อโรคอยู่มากมายที่จะนำมาซึ่งอหิวาตกโรค โรคมือเท้าเปื่อย อีกทั้ง ควรล้างมือและเท้าให้สะอาดทุกครั้งเมื่อเข้าบ้าน หรือเมื่อจะกินอาหาร ส่วนน้ำฝนก่อนนำมาดื่มควรผ่านการต้มสุก เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มากับความชื้นในหน้าฝนที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องเสียอย่างรุนแรงได้ และป้องกันยุงด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ในบริเว
‘กรมอุตุฯ’ เตือนทั่วไทยเจอฝนต่อเนื่อง ตกหนัก 60% ทุกภาค กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ระบุว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมามีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จนถึงวันที่ 10 มิ.ย. 63 พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียง