เลือกตั้ง62
เครือข่ายทรัพยากรอีสาน ชี้ 5 ปีคสช. รับใช้นายทุน คนจนทุกข์หนัก ถูกข่มขู่-ปิดปาก จี้แก้รธน. เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 มี.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสานร่วมอ่านแถลงการณ์ “แก้รัฐธรรมนูญ คืนอำนาจให้ประชาชนอีสานกำหนดอนาคตของตนเอง” ความว่า นับแต่รัฐบาล คสช. เข้ามายึดอำนาจ เป็นเวลากว่า 5 ปี และมีแนวโน้มจะสืบทอดอำนาจต่อ พี่น้องอีสานบ้านเราต่างถูกปิดปาก ถูกข่มขู่คุกคาม ข่มเหง ไม่ให้ส่งเสียง ในขณะที่รัฐบาล คสช. สถาปนาให้นายทุนใช้การเมืองและนโยบายประชารัฐเป็นเครื่องมือ พวกเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังในการแก้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายนับร้อยๆ ฉบับ ผลิตแผนการและนโยบายจากศูนย์กลางอำนาจเพื่อเปิดทางเข้าช่วงชิงทรัพยากรของอีสานมาสนองความโลภของนายทุน พวกเขาหมายมั่นปั้นมือจะสร้างฐานอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์ระยะยาวจากฐานทรัพยากรทุกอย่างที่อีสานเรามี เพื่อสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยเปิดทางให้นายทุนตั้งโรงงานน้ำตาล 29 โรงงานพ่วงโรงไฟฟ้าชีวมวล และพ่วงด้วยอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ อีกหลายประเภทในอีสานทั้ง 13 จังหวัด แต่อุตสาหกรรมชีวภาพเป็นเพียงการหยั่งรากขั้น
‘ณัฏฐพล’ ชี้ อย่าพยายามนำ ‘คะแนนเพิ่ม’ มาเป็นประเด็นการเมือง เผย ‘พปชร.’ ได้น้อยกว่า พปชร. – วันที่ 30 มี.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสเฟซบุ๊กส่วนตัวให้ความเห็นกรณีการประกาศผลการนับคะแนนล่าสุดของ กกต. ว่า โดยปกติ พรรคการเมืองใหญ่แทบทุกพรรค และ ส.ส. ที่ลงสมัครในเขตนั้นๆ ลงทุนลงแรงมากในการหาเสียงแต่ละครั้ง ดังนั้น ทุกครั้งหลังการลงคะแนนเสียง ปิดหีบ ก็จะมีการส่งคนหรือตัวแทน ไปเฝ้าดูการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย แบบไม่กระพริบตา เฝ้าจดคะแนนและแทบจะเป็นคะแนนที่ส่งเข้าพรรคในทันที ดังนั้น จะแพ้ หรือ ชนะ น่าจะทราบและเห็นผลกันชัดเจนในระดับหน่วยเลือกตั้งย่อยนั้นๆ โดยข้อมูลทั่วไป ก็จะมีใครได้คะแนนเท่าไหร่ มีคนมาใช้สิทธิ์ บัตรดี บัตรเสีย นี่คือคะแนนดิบระดับหน่วยเลือกตั้ง ที่คนจากทางแต่ละพรรค กับ กกต.เขตตรงกัน หรือคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงเห็นว่าทุกพรรคการเมือง ก็จะมีคะแนนที่ใกล้เคียงกับ กกต. อย่างไม่ต้องสงสัย ยกเว้น เขตที่คะแนนพรรคที่ส่งเข้ามามี ชนะกลายเป็นแพ้ ทาง ส.ส. ผู้สมัคร และ พรรคนั้นๆ ก็จะร้องเรียนทันทีเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ หลังปิดหีบล
‘อุตตม’ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล หารือพรรคอุดมการณ์เดียวกัน พาประเทศสู่ ‘ความสงบสุข’ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล – วันที่ 30 มี.ค. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงแนวทางการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเป็นแกนนำ ว่า พรรคมีความตั้งใจพัฒนาพรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นพรรคการเมืองถาวร เพื่อปฏิบัติตามเจตนารมย์ที่พี่น้องประชาชนเลือกพวกเราเข้ามาทำหน้าที่ การรวมเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อดำเนินการไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล พรรคมีจุดยืนชัดเจนที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งฝ่าย นำประเทศสู่ความสงบสุข ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ ต้องดำเนินการหารือกับพรรคอื่นที่มีอุดมการณ์เดียวกัน โดยพรรคเราเชื่อว่ายังมีเวลาที่จะเดินสายหารือ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
จ่านิว เปิดโต๊ะล่าล้านชื่อ ถอดถอน 7 กกต. จัดเลือกตั้งไม่ชอบธรรม! ชี้ เพื่อไทย ชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล เย้ย “บิ๊กตู่” ได้เป็นต่อเพราะงูเห่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่สกายวอล์กบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม และ นายธนวัฒน์ วงศ์ไชยนิสิตจุฬาลงกรณ์ เดินทางมาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อถอดถอน 7 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มแนวร่วม เชิญชวนให้ประชาชนที่สนใจ ร่วมกันลงชื่อเป็นผู้ร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ถอดถอน กกต. ว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ พร้อมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตราฐานจริยธรรม อย่างร้ายแรง พร้อมเปิดโต๊ะรับลงชื่อถอดถอนเพื่อประชาสัมพันธ์กับประชาชนที่ใช้บริการบีทีเอส ซึ่งขณะนี้มีแนวร่วมนักศึกษาจาก 18 มหาวิทยาลัย นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันตนขอเชิญชวนประชาชนลงชื่อในแบบรณรงค์เว็บไซต์ Change.org ในแคมเปญ “ร่วมกันลงชื่อถอดถอน กกต.” ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 8 แสนคน โดยแนวร่วมฯตั้งเป้าให้ได้ถึง 1 ล้าน
กกต. แจงข้อสงสัย ขานคะแนน บัตรเสียเป็นบัตรดี นับถูกต้อง ตามระเบียบกฎหมายทุกประการ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชี้แจงประเด็นข้อสงสัยทางสื่อสังคมออนไลน์ 2 กรณี โดยกรณี 1 ตามที่ข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์เป็นภาพการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้งไม่ทราบสถานที่ใด โดยกรรมการที่ขานคะแนนไม่ได้ยกบัตรเลือกตั้งขึ้นแสดงให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้เห็นอย่างชัดเจน สำนักงาน กกต. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดสระแก้วแล้วทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งที่ 12 ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ซึ่งได้ตรวจมูลกรณีเบื้องต้น ทราบว่าการกระทำอาจไม่เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต่อมามีผู้ยื่นคำร้องกรณีดังกล่าวด้วย จึงดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปในคราวเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะถึงขั้นไม่สุจริต หรือเที่ยงธรรมหรือไม่นั่นอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทราบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป กรณีที่ 2 กรณีที่มีภาพปรากฏตามสื่อโซเชียลและปรากฏเป็นคลิปการขานคะแนนเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 5 และหน่วยเลือกตั้งที่ 2 แขวง
จตุพร ประกาศลาออก ช่วยเพื่อชาติ หาเสียง อารี ลั่น 50 ล้าน ก็ไม่ไปอยู่ด้วย! เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 30 มี.ค. 2562 ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 5 อิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ แถลงข่าว ท่าที และสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ว่า ขอประกาศยุติบทบาทการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อชาติและกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ซึ่งตนได้แจ้งต่อหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรคให้รู้แล้วตั้งแต่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามภารกิจของตนที่ประกาศไว้คือการรวบรวมเสียงฝั่งประชาธิปไตยให้ไปเทรวมในวันเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อพรรคเพื่อชาติแถลงจุดยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย จึงถือว่าภารกิจตนเสร็จสิ้น ดังนั้นต่อไปนี้ตนจึงเหลือสถานะเดียวคือประธาน นปช. นายจตุพร กล่าวว่า การไปยื่นยุบพรรคเพื่อชาติของผู้กองปูเค็ม หรือร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล ในประเด็นครอบงำพรรคเพื่อชาตินั้น ถือเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติและฝ่ายกฎหมายที่ต้องไปชี้แจงต่อ กกต. อย่างไรก็ตาม ผู้กองปูเค็มตนก็ไม่ทราบสถานะที่ชัดเจนว่าพ้นตำแหน่งราชการแล้วหรือยัง ขณะที่เจ้าตัวประกาศว่าพ้นแล้ว แต่ทางการข่าวยังมีข้อสงสัยกันอยู่ ผู้ก
“อุทัย” ติวว่าที่ส.ส. อนาคตใหม่ เล่าวินาทีข่มใจ ปัดเงิน-รถหรูเผด็จการ ยอมเป็นฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ จ.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่จัดสัมมนาว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดย นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวเปิดงานในหัวข้อ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ว่า การเข้ามาเป็น ส.ส. สิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงและต้องท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ คือ การที่เราเข้ามาอยู่ในจุดนี้จะทำประโยชน์เพื่อใคร นอกจากนี้ ต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างเข้มข้นมาก ยิ่งสถาการณ์บ้านเมืองขณะนี้ที่ชัดเจนว่ามีการยึดอำนาจแล้วผู้ที่ยึดอำนาจเขาอยากจะอยู่ครอบครองต่อ จึงมีการออกแบบกฎกติกาต่างๆ เพื่อให้ตนเองอยู่ต่อได้ด้วย เช่น การให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นต้นและที่ตอนนี้มีการพูดถึงอย่างมากคือสิ่งที่เรียกว่างูเห่า ซึ่งอาจจะมี ส.ส. ย้ายพรรค ฝืนมติพรรค โดยในสมัยของตนนั้นเรียกว่าช็อกกะรี หรือ ขายตัว การที่มีผู้มาเสนอผลประโยชน์ให้นั้น ราวปี 2512 ตนอยู่ฝ่ายค้าน เคยมีลูกน้องของนายทหารฝ่ายสืบทอดอำนาจมาหา บอกว่าเจ้านายอยากได้ตัว คนอื่นๆ รับไป 3.5 แสน กับรถแลนด์ โรเวอร์ ช่วงสั้น ขณะที่ตนเ
มงคลกิตติ์ ลั่นไม่ร่วมจับขั้วเพื่อไทย เสนอเก้าอี้ รมต.ให้ก็ไม่เอา ชี้อุดมการณ์ไม่ตรงกัน วันที่ 30 มี.ค. มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวในเรื่องการจับขั้วรัฐบาลว่า ขณะนี้ผลคะแนนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศ ยังไม่นิ่ง แต่คาดว่าทางพรรคไทยศรีวิไลย์จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง ซึ่งทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) เข้ามาทาบทามให้ร่วมรัฐบาลทั้งคู่ แต่ในส่วนของพรรคไทยศิวิไลย์คงไม่สามารถร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยได้แน่นอน เพราะตนเป็นโจทย์ดำเนินคดีเรื่องจำนำข้าวกับแกนนำเพื่อไทย ต่อให้เสนอตำแหน่งรัฐมนตรีให้ ก็คงไม่เข้าร่วม เนื่องจากนโยบายของ เพื่อไทยขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคไทยศรีวิไลย์ อีกทั้ง ยังคิดว่า เพื่อไทยเองคงไม่เอาตนไปเป็นหอกข้างแคร่ เพราะตนยังมีตำแหน่งเป็น เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (มตช) ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตต่างๆ ด้วย “หากมีที่นั่ง ส.ส.ในสภา ค่อนข้าง 100% ว่าผมจะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พปชร. ภายใต้ข้อแม้ว่า พปชร.จะต้องนำนโยบายที่ผมหาเสียงกับประชาชนไปดำเนินการบ้าง 2-3 เรื่อง ทั้งกา
กกต. ชี้ไม่นับ บัตรเลือกตั้ง จากนิวซีแลนด์ คิดดีแล้ว โอดใจจริงไม่อยากทำแบบนี้ กกต. – เมื่อเวลา 16.20 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกฤช เอื้อวงศ์รองเลขาธิการ กกต. ได้มีการแถลงข้อเท็จจริง เกี่ยกับปมหลังเลือกตั้งที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ นายกฤช เผยถึงการที่ สั่งไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้ง 1,542 ใบ จากนิวซีแลนด์ ว่า กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 114 ได้เขียนบังคับให้กกต. ต้องวินิจฉัยอย่างนั้น เรื่องนี้ กกต. เข้าใจเรื่องสิทธิของประชาชนและไม่อยากทำอย่างนั้น แต่ได้พิจารณารอบคอบแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 เม.ย. จะทราบว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่ากกต.ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ
ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ผู้พิการหนึ่งเดียวเข้าสู่สภา : ข่าวทะลุคน ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ : พรรคอนาคตใหม่ ภายใต้การนำของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกคาดหมายจะได้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ มากถึง 50 คน ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ หรือ เม่น ไทยแลนด์ ในฐานะผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 23 จะได้ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้พิการเพียงคนเดียวที่จะได้เข้าสภาในการเลือกตั้งครั้งนี้ วัย 43 ปี ชาว ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย เคยรวมทีมลงสมัครการเมืองท้องถิ่น ในเทศบาล ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน เสนอตัวเป็นรองนายกเทศมนตรี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ มีผลงานระดับนาชาชาติหลายรายการ อาทิ คว้าเหรียญทองแดง ในเอเชียนพาราเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้ คว้าเหรียญเงิน เอเชียนพาราเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย เมื่อต.ค. 2561 ได้รับโล่เกียรติบัตรคนพิการต้นแบบระดับประเทศ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อปี 2561 สมัครเข้าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนได้รับเลือกเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ประกาศจะต่อสู้เพื่อพัฒนาสังคมผู้พิการอย่างเต็มที่ และสร้างกติกาที่เป็นธรรม เร่งพัฒนาจ.ตรัง ที่ล้าหลังจังหว