เอสเอ็มอี
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการบริการจัดทำบัญชีผ่านสำนักงานบัญชีได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะสำคัญต่อภาคธุรกิจอย่างมาก กรมฯในฐานะเป็นหน่วยงานส่งเสริมพัฒนาด้านการจัดทำบัญชีของภาคธุรกิจ จึงส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจสำนักงานบัญชีมีการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพเป็นที่น่าเชื่อถือ และนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้อย่างเหมาะสม พร้อมจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ สร้างต้นแบบทางธุรกิจแนวใหม่ สร้างเครือข่ายสำนักงานบัญชีในระดับนานาชาติ และยกระดับสู่เกณฑ์มาตรฐานสากล เพื่อให้แข่งขันได้ในระดับสากล โดยสำนักงานบัญชีที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจากกรมฯแล้ว 142 ราย ในปี 2558 และลูกค้าเอสเอ็มอีที่มาใช้บริการสำนักงานบัญชีมี 9,600 ราย สร้างรายได้ให้กับสำนักบัญชีรวม 576 ล้านบาท ส่วนปี 2559 มีเอสเอ็มอีใช้บริการสำนักงานบัญชี 12,500 ราย สร้างรายได้ให้กับสำนักงานบัญชีรวม 750 ล้านบาท คาดปี 2560 จะมีเอสเอ็มอีใช้บริการ 16,250 ราย สำนักงานบัญชีมีรายได้ 975 ล้านบาท ทั้งนี้ วันที่ 9-10 กุมภาพันธ์นี้ กรมฯจะจัดสัมมนาพัฒนานักบัญชีอาเซียนสู่ตลาดการค้าชายแดน ภ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์การขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (เอสเอ็มอาร์เจ) โดยจะเน้นความร่วมมือในด้านสำคัญ อาทิ กระทรวงต้องการให้ผู้ประกอบการระหว่างไทยและญี่ปุ่นจับคู่ธุรกิจกันในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อให้เกิดการต่อยอดอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะใช้กลไกกองทุน 2 หมื่นล้านบาทของรัฐบาลเข้ามาช่วยสนับสนุนตามแนวทางกลไกประชารัฐเพื่อให้เกิดการลงทุนมากขึ้น “ในญี่ปุ่นมีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับเอสเอ็มอีอยู่แล้วคือ เจกู๊ดเทค โดยในนั้นมีผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้าร่วมประมาณ 4,000 ราย จากต่างประเทศ 2,500 ราย ซึ่งในนั้นเป็นของไทย 1,000 ราย การเข้าไปมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มดังกล่าวทำให้เกิดโอกาสมากมายในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งไทยจะต้องหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ พาณิชย์และดิจทัลฯ เพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยให้เข้าร่วมมากขึ้น ซึ่งน่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในปีนี้”นายอุตตมกล่าว นายฮิโรชิ ทาคาดะ ประธานเอสเอ็มอาร์เจ กล่าวว่า เอสเอ็มอาร์เจจะเน้นขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น เนื่องจากเป็นตล
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะหารือกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อบูรณาการการทำงานในการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยจะพิจารณาลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันของหน่วยงานสำหรับโครงการใหม่ ส่วนโครงการเดิมที่ทำอยู่แล้วก็จะทำต่อเนื่องเหมือนเดิม นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมพัมนาธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นกรมที่พัฒนาและส่งเสริมเอสเอ็มอี และส่งเสริมอี-คอมเมิร์ซ รวบรวมโครงการและแผนงานที่มีอยู่เพื่อดูว่าจะเสริมกับหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมได้อย่างไรให้การทำงานใกล้ชิดและดีขึ้น เพราะกระทรวงพาณิชย์เน้นเรื่องตลาด อยู่ปลายน้ำ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่กลางน้ำ ดูมาตรฐานการผลิต เป็นต้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของกรมการค้าภายใน ได้มอบหมายให้จัดทำข้อมูลเปรียบเทียบต้นทุนและราคาสินค้าพื้นฐานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันพืช น้ำตาล อาหารจานด่วน เป็นต้น เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อใช้ในจัดทำกรอบและมาตรการการดูแลราคาสินค้า ก
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวง จัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ New Economy Academy (NEA) มุ่งสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอียุคใหม่ ที่กำลังก้าวสู้การพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยยกระดับการเข้าถึงองค์ความรู้ให้กระจายทั่วทั้งประเทศ สร้างเศรษฐกิจในชุมชนให้เข้มแข็งตั้งแต่ฐานรากเชื่อมไปสู่ตลาดโลกอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัล และ การค้าออนไลน์ “สถาบันนี้เกิดจากความร่วมมือกับทางอาลีบาบากรุ๊ป ภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้แทนไทยเยือนสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา ณ เมืองหังโจว ประเทสจีน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้เรียนรู้โครงการ Rural Taobao ที่อาลีบาบาประสบความสำเร็จ ในการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการรายเล็กมากๆ ในชุมชนอันห่างไกลในหลายมณฑลของจีนให้ทำการค้าออนไลน์ได้โดยใช้เครื่องมือดิจิทัล และ ให้ความรู้เพื่อสร้างอาสาสมัครในชุมชนเป็นผู้ช่วยเกษตรกรอีกด้วย ซึ่งทางอาลีบาบากรุ๊ปจะนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ และเทคนิคเชิงลึกการทำการค้าออนไลน์ มาถ่ายทอดเอสเอ็มอีไทย “ นางอภิรดี กล่าว นางอภิ
หนี้เสีย”เอสเอ็มอี”พุ่ง-เริ่มชักดาบ นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในภาคธุรกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2560 โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากขณะนี้สภาพคล่องเอสเอ็มอีตึงตัวมาก เพราะการส่งออกปี 2559 ติดลบหรืออาจโต 0% ขณะที่แรงซื้อภายในประเทศยังคงซึมยาวด้วยหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยราคาข้าวที่ตกต่ำจนกระทบเป็นห่วงโซ่ไปยังภาคการผลิตอื่น “ขณะนี้ยังไม่มีใครพูดถึงเอ็นพีแอลในภาคธุรกิจที่กำลังเป็นปัญหาโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ล่าสุดมีสัญญาณที่ชัดเจนว่า วงการค้ามีการขยายเครดิตจาก 30-90 วันเป็น 90-120 วันและบางส่วนเริ่มชักดาบจนมีการฟ้องร้องแล้ว” นายธนิตกล่าว นายธนิตกล่าวว่า ทิศทางการลงทุนของภาคเอกชนคาดว่าจะยังทรงตัวไปจนถึงกลางปี 2560 เนื่องจากอัตรากำลังการผลิตภายในประเทศยังคงมีเหลืออยู่เฉลี่ย 30% ขณะเดียวกันกำลังซื้อในประเทศคาดว่าจะยังซึมและทรงตัวไปอีกระยะหนึ่ง และเอกชนบางส่วนรอทิศทางชัดเจนการเลือกตั้งของไทย แต่อาจมีเอกชนที่วางแผนและลงทุนไปแล้วล่วงหน้า ส่วนการส่งออก
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ก้าวสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซระดับสากล นายสมชาย กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยมี 4 หน่วยงาน ทั้งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ธพว. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมผลักดันให้เอสเอ็มอีสามารถทำธุรกิจในรูปแบบอีคอมเมิร์ซกับทางอาลีบาบาดอทคอม อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ภายหลังนายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการร่วมผลักดันเอสเอ็มอีไทยให้เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผย