

ในช่วงเวลาที่โรคระบาดโควิด-19 กำลังแพร่กระจาย ผู้ประกอบการทั่วโลกต่างหาทางรอดจากสมรภูมินี้กันอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการไทย หรือผู้ประกอบการในต่างประเทศ ซึ่งหลายๆ คน อาจไม่ได้มองสถานการณ์นี้ว่า “วิกฤต” แต่มองว่านี่อาจเป็น “โอกาส” ของธุรกิจก็ย่อมได้ เรื่องราวของ นิคกี้ ซีแมน หญิงสาววัย 29 ปี จากแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้ตนจะเผชิญกับวิกฤต แต่ก็ก้าวข้ามผ่านและได้พลิกวิกฤตช่วงโควิด-19 ให้เป็นโอกาสทอง สร้างแบรนด์มะกอก Freestyle Snacks ที่ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาให้คนรักมะกอก แต่ยังสร้างยอดขายถล่มทลาย และเปลี่ยนใจคนที่ไม่ชอบมะกอก ให้หันมาหลงรัก จุดเริ่มต้นจากช่วงล็อกดาวน์ ก่อนที่จะก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการเต็มตัว นิคกี้เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการให้กับ Bain & Company และได้ไปฝึกงานพิเศษที่ Whisps Cheese Crisps แนวคิดของ Freestyle Snacks เริ่มต้นขึ้นในปี 2021 ในช่วงที่โรคระบาดทำให้บาร์มะกอกสดในร้านขายของชำต้องปิดตัวลง เธอซึ่งเป็นคนชอบมะกอกมากๆ อยู่แล้ว พบว่า มะกอกในขวดโหลแบบเดิมๆ ทั้งคุณภาพและความสะดวกสบายไม่ตอบโจทย์ เธอเลยตัดสินใจสร้า
“มีใครเติบโตมา โดยไม่เคยฟังนิทานบ้าง” ผมฟันธงว่าคงไม่มี… นิทาน คือเรื่องเล่าชนิดหนึ่ง ที่กล่อมเกลาจิตใจผู้คน ทั้งในมุมของความบันเทิงยามเด็ก บางคนอาจตกผลึกแง่คิด ที่กลายเป็นบทเรียนสอนใจไปทั้งชีวิต อิทธิพลของเรื่องเล่าถูกนำมาใช้ในธุรกิจ ในการตลาด มาแสนนาน จนมีคนสรุปเป็นบทเรียน เป็นศาสตร์ให้เรียนรู้กันมาพักใหญ่แล้ว แต่ผมอยากหยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง สาเหตุที่อยากหยิบเรื่องนี้มาคุย เพราะก่อนหน้านี้ กระแสของซีรีส์ “สงคราม ส่งด่วน” ร้อนแรงเหลือเกิน มีการหยิบยกแง่มุมทางธุรกิจ ทางการตลาด จากในเรื่องเอามาวิเคราะห์ เอามาเป็นบทเรียนกันมากมายหลายมุม แต่อีกมุม ที่ผมไม่เห็นใครพูดถึง คือ “เรื่องเล่า” เชื่อไหมครับว่า ความสำเร็จของพระเอกในซีรีส์เรื่องนี้ มาจาก “พลังของเรื่องเล่า” ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับเรื่องเล่ากันก่อนครับ เราคงคุ้นเคยกับคำว่า Storytelling กันนะครับ ซึ่งแปลเป็นไทยก็คือ “เรื่องเล่า” นั่นเอง กับอีกคำที่เราคุ้นเคยเช่นกันคือ Content ซึ่งแปลว่า เนื้อหา แต่เรามักพูดทับศัพท์ว่า “คอนเทนต์” ทุกการสื่อสารต้องมีคอนเทนต์เสมอ โดยจะอยู่ในรูปของคำพูด ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือผสมผสานก็ได้
รับทรัพย์ 18 ล้านบาทต่อปี! ชายวัย 32 ทำอาชีพเสริมเกี่ยวกับตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ สร้างรายได้ปังๆ ด้วย 5 ข้อนี้ Marcus Gram ชายหนุ่มวัย 32 ปี ที่เคยทำงานประจำเป็นผู้จัดการและมีรายได้ทั่วไป แต่เขาคิดว่าต้องหาอะไรทำเพื่อสร้างเงินให้กับตัวเองได้มากกว่างานประจำ ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาอยู่กับคุณแม่ที่เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ทำงานเป็นผู้จัดการ รายได้ชั่วโมงละ 17 ดอลลาร์ หรือประมาณ 600 บาทต่อชั่วโมง แต่เมื่อปี 2018 ก็มีเพื่อนคนหนึ่งได้จุดประกายไฟในตัวเขา ทำให้อยากย้ายไปที่ฟิลาเดลเฟียเพื่อเริ่มธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ Marcus Gram ใช้เงินเก็บ 10,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.6 แสนบาท ซื้อตู้ขนม ตู้เครื่องดื่ม เครื่องรูดบัตรเครดิต 2 เครื่อง ในปีแรก ธุรกิจนี้เป็นเพียงงานเสริมที่สร้างรายได้เพียง 5,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2 แสนบาท ในปี 2021 มียอดขาย 300,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10 ล้านบาท และในปี 2022 เขามียอดขายแตะ 500,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 18 ล้านบาท ในปัจจุบัน เขามีตู้จำหน่ายสินค้ากระจายอยู่ 6 รัฐด้วยกัน จากการทำธุรกิจนี้ Marcus Gram ได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย และได้บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับ
ถูกยกให้เป็น “ไอดอลเชฟ” ของใครหลายคน สำหรับ เชฟอาร์ – ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ เมื่อมีโอกาสพูดคุยกัน “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จึงขอให้ชี้แนะแนวทางสู่สายอาชีพให้กับคนที่อยากเจริญรอยตามเขาบ้าง เชฟหนุ่ม อารมณ์ดี บอกว่า “อาชีพเชฟ ไม่ใช่อาชีพที่ขี้เหร่ นะ ปัจจุบันกระแสดีอยู่แล้ว ผมว่าเป็นอาชีพที่รายได้สูง แต่ก่อนจะรายได้สูง ก็คงเหมือนกับทุกอาชีพ ต้องเริ่มต้นจากการสร้างตัวเองให้มีคุณค่าพอ หรือมี Value ที่เพียงพอกับรายได้ที่คุณจะได้รับก่อน เพราะสิ่งนี้มันเป็นกฎของธรรมชาติ” ก่อนบอกอีกว่า “เส้นทางของอาชีพเชฟ นี้ มีเยอะมากนะตอนนี้ ถ้าตัดเรื่องของ Part โรงแรม ที่คุณจะต้องเริ่มต้นเงินเดือนตั้งแต่ 1.2 หมื่นบาท ไปจนกว่าจะถึง Executive Chef คุณต้องใช้เวลา 15 ปี ถึงจะได้เงินเดือนแสนกว่า ตัดไปก่อนนะ ธุรกิจอาหาร ก็สามารถเข้าไปได้ แต่วงการร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านกาแฟ เปิดง่าย แค่มีทุนมีเงิน ทำอาหารอร่อย ก็เปิดได้แล้ว แต่เปิดแล้วทำให้อยู่ได้ อยู่ให้ลูกค้าติด ไม่ขาดทุน อยู่ยังไงให้ยั่งยืน อันนี้เรื่องยากมาก” “นอกจากนี้ ก็เหลือการเป็นที่ปรึกษา เป็นคนพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สินค้าต่างๆ แบบผม ซึ่
นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เผยเมื่อเร็วๆ นี้ ภายหลังการยื่นข้อเสนอพร้อมร่างประกาศ สธ. เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ฉบับเขียนอนาคตกัญชาไทย ถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทุน รมว.สาธารณสุข โดยหลักการคือ ขอให้ยกเลิกประกาศ สธ. เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 23 มิ.ย. 2568 เนื่องจากมีช่องโหว่ โดยเฉพาะการกำหนดต้องมีใบสั่งจ่ายยา และการรับรองมาตรฐานการปลูกและเก็บที่ดีของพืชกัญชา หรือ GACP ซึ่งอาจนำไปสู่การทุจริตก่อให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์และก่อความไร้ประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้บริโภคได้ โดย นายประสิทธิ์ชัย ระบุว่า ขณะนี้เริ่มมีการซื้อขายใบสั่งจ่ายยาแล้ว จึงเสนอให้มีคณะอนุกรรมการร่วมระหว่างหน่วยงานรัฐและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ต้องฟังเสียง ได้เข้ามาร่วมกำหนดมาตรการต่างๆ และให้พิจารณาร่างประกาศ สธ. เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ฉบับเขียนอนาคตกัญชาไทย เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 29 ก.ค. นี้ ทางเครือข่ายฯ จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนา
เมื่อเร็วๆนี้ นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือ อีอีซี เป็นประธานในพิธีมอบตรารับรองผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบประเภทบริการ หรือ EEC Select Best Service ประจำปี 2025 ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 25 ราย ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ที่การบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อการบริการ มีมาตรฐาน สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดดเด่น มีนวัตกรรม สนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่นและการจ้างงานในพื้นที่อีอีซี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด EEC Select Best Service = Service + SMART & SMILE โอกาสนี้ นายจุฬา ซี กล่าวว่า EEC Select Best Service คือ กลไกยกระดับสินค้าและบริการของชุมชนในพื้นที่อีอีซีสู่สากล ตามแนวคิด LOCAL ROOTS to GLOBAL REACH ซึ่งคาดหวังว่า ผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบประเภทบริการ หรือ EEC Select Best Service ของผู้ประกอบการทั้ง 25 รายในปีนี้ จะเป็นที่รู้จัก ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถขยายช่องทางการตลาดและโอกาสในการทำธุรกิจการค้าให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ ๆ เสริมสร้างความเชื
ในวันที่โลกหมุนเร็วเกินจะคาดเดา ความไม่แน่นอนกลายเป็นเพื่อนร่วมทางของทุกธุรกิจ ลูกค้าพร้อมเปลี่ยนใจในเสี้ยววินาที ขณะที่ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุด วันนี้ การรักษาหัวใจของลูกค้าเดิมจึงไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือ “ภารกิจสำคัญ” ที่จะตัดสินอนาคตของแบรนด์ LINE ในฐานะแพลตฟอร์มสื่อสารอันดับ 1 ที่อยู่เคียงข้างธุรกิจไทย มุ่งมั่นสนับสนุนธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย LINE for Business โซลูชันการตลาดแบบครบวงจร ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่เครื่องมือ แต่คือพลังที่ช่วยแบรนด์ฝ่าฟันทุกความเปลี่ยนแปลง ด้วยกลยุทธ์ “4Cs” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างภาพจำในใจลูกค้าอย่างยั่งยืน ที่จะช่วยให้ทุกแบรนด์สร้างประสบการณ์ที่ตรงใจ และอยู่ในความทรงจำของลูกค้าแม้ในวันที่โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คุณสกุลรัตน์ ตันยงศิริ ผู้อำนวยการธุรกิจ LINE Official Account จาก LINE ประเทศไทย ได้กล่าวถึงเทคนิคการสร้างภาพจำของแบรนด์ในงาน Marketing Oops! Summit 2025 ไว้ว่า ในยุคที่ลูกค้าเลือกแบรนด์ได้ภายในไม่กี่วินาที สิ่งที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญไม่ใช่แค่การเข้าถึง แต่คือการสร้างความรู้สึกผูกพันที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื
ข่าวแจ้งว่า ช่วงเวลา 09.30 – 12.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ค.นี้ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) กำหนดจัดงานแถลงข่าว เรื่อง “การบินไทย เตรียมพร้อมกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” ที่ห้องออดิทอเรียม อาคาร 2 ชั้น 93 สำนักงานใหญ่ บมจ.การบินไทย โดยหลังจากการชม วีดีทัศน์สรุปความสำเร็จการฟื้นฟูกิจการ แล้ว จะเป็นขั้นตอนเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลประกอบด้วย นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการและอดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี จากนั้นจะมีนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุด FLY FOR THE NEW HIGH…TOGETHER ให้ผู้เข้าร่วมงานแถลงข่าวรับชมพร้อมกันด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกพ็อกเก็ตบุ๊ก “พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย” ดำเนินการผลิตโดยฝ่าย Matichon Premium Print บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ซึ่งบทหนึ่งในพ็อกเก็ตบุ๊กดังกล่าว ได้ระบุถ
LINE MAN Wongnai เผยภาพรวมธุรกิจร้านอาหารไทย ในงาน Thailand Coffee Fest 2025 ว่า ยอดขายของร้านอาหาร ลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง สวนทางกับตลาดกาแฟที่ยังเติบโต โดยเฉพาะร้านกาแฟ Specialty ราคาจับต้องได้ (Affordable Specialty Coffee) ที่มีราคาต่อบิลต่ำกว่า 100 บาท กลายเป็นสัดส่วนตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด โดยในกรุงเทพฯ เติบโตสูงถึง 46% และในต่างจังหวัดเติบโต 19% แม้จำนวนร้านกาแฟเปิดใหม่ในปีนี้จะลดลงจาก 7,000 ร้านในช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อน เหลือเพียง 5,000 ร้าน แต่ร้านกาแฟยังคงมีอัตราอยู่รอดในปีแรกสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป โดยร้านกาแฟมีอัตราการปิดตัวในปีแรกอยู่ที่ 43% เทียบกับร้านอาหารทั่วไปที่ปิดตัวสูงกว่าในปีแรกถึง 50% นอกจากนี้ ตลาดมัทฉะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยยอดขายร้านมัทฉะเดิมเติบโตถึง 28% ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai ยังพบว่า Specialty Coffee มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่กว่ากาแฟทั่วไป โดยมีสัดส่วนยอดขายทั่วประเทศ 56% และในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงถึง 66% อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้เปลี่ยนแปลงไป โดยลูกค้าต้องการความรวดเร็ว ช่องทางการสั่งซื้อและช
หลังสร้างความประทับใจกับความสำเร็จไปเมื่อปีที่ผ่านมา เทศกาลสุดคัลท์ที่รวมเอาเสน่ห์แห่งปักษ์ใต้มาไว้ในเมืองกรุงอย่าง “อัยยะ ปักษ์ใต้ 2 FLY 2 SOUTH NOW FESTIVAL II” ได้กลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง ณ ช่างชุ่ย Creative Park ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้ชาวกรุงได้ “ชิม-ช้อป-ชม-แชะ-สนุก” ไปกับแฟชั่น ศิลปะ ดนตรี ไอเทมเด็ด และอาหารใต้แท้ๆ ในแบบหรอยแรง จับมือครั้งสำคัญเพื่อภาคใต้ การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของเทศกาลครั้งนี้ มาจากความร่วมมือร่วมใจระหว่าง Flynowiii ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ความปังเมื่อปีที่แล้ว กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคใต้ และช่างชุ่ย Creative Park เพื่อต้อนรับชาวกรุงทั่วพระนครให้มาเอนจอยกับสีสันและมนต์เสน่ห์แดนใต้ วัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. กล่าวถึงความตั้งใจของการจัดงานนี้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ว่า ททท. มีเป้าหมายในการประชาสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของภาคใต้ โดยเฉพาะด้านแฟชั่นผ้า ผ่านกิจกรรมเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม ทั้งการสาธิต การแสดงทางวัฒนธรรม และอาหารพื้นเมืองภาคใต้ที่สามารถสืบค้นกลับไปยังต้นกำเนิด สู่ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจน