ดวงใครดวงมัน
หมอทรัพย์ สวนพลู (ไม่ได้รับทำนายเป็นการส่วนตัวครับ)
เมษเป็นวันที่เงินทองไหลมา พฤษภได้ลาภจากสตรีผู้ใหญ่ มิถุนไม่ควรโต้แย้งหรือปฏิเสธต่อผู้มีข้อเสนอดีต่อท่าน กรกฎมีญาติมิตรที่อยู่ห่างไกลไปมาหาสู่ สิงห์ท่านได้ลาภทรัพย์สินของแปลก กันย์มีกำลังร่างกายแข็งแรง ตุลไม่ควรพูดเรื่องราวที่สำคัญกับบริวารที่เป็นเพศตรงข้าม พิจิกได้รับข่าวสารที่รอมานาน ธนูกิจการเจริญขึ้นเรื่อยๆ มังกรมีความคิดใหม่ๆ ทางการงาน กุมภ์ความเป็นอยู่รื่นเริงสนุกสนาน มีนมีรายจ่ายที่ไม่ค่อยเต็มใจ
ราศีเมษ เกิดตั้งแต่ 13 เม.ย.-14 พ.ค.
ท่านสบายใจในการเปลี่ยนแปลงทางการงานเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นวันที่เงินทองไหลมาเทมา ผู้ร่วมงานชั้นผู้น้อย หรือบริวารมีความคิดเห็นขัดแย้งกัน แต่พวกที่ทำงานด้วยความเข้มแข็งก็มีอยู่
ราศีพฤษภ เกิดตั้งแต่ 15 พ.ค.-14 มิ.ย.
ท่านได้ลาภจากสตรีชั้นผู้ใหญ่ เช่น พี่ป้าน้าอา ดวงจันทร์ย้ายเข้าราศีพฤษภ 08.00 น. ให้ลาภพิเศษแก่ดวงของท่านเป็นอย่างยิ่ง แต่ท่านมักขาดความระมัดระวังตามสมควร ได้รับข่าวดี
ราศีมิถุน เกิดตั้งแต่ 15 มิ.ย.-15 ก.ค.
ท่านใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ หรืออยู่ในหมู่ชนที่เคร่งครัดต่อขนบ ธรรมเนียมประเพณี ไม่ควรโต้แย้งหรือปฏิเสธต่อผู้มีข้อเสนอต่อท่านในวันนี้ ไม่ควรต้อนรับแขกในบ้านนานๆ
ราศีกรกฎ เกิดตั้งแต่ 16 ก.ค.-16 ส.ค.
ท่านมีญาติมิตรที่อยู่ห่างไกลไปมาหาสู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่นำข่าวดีมาบอก ท่านมีข้อคิดเห็นหรือแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่สังคม ตำแหน่งหน้าที่ทางการงานกว้างขวางยิ่งขึ้น
ราศีสิงห์ เกิดตั้งแต่ 17 ส.ค.-16 ก.ย.
ท่านได้ลาภทรัพย์ สินอันเป็นของแปลกประหลาดต่างๆ หรือมีคุณค่าทางโบราณคดี มักใช้เงินสดแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยดี ไม่ควรไปที่ทำงานในวันหยุด พระเกตุจะให้ลาภ
ราศีกันย์ เกิดตั้งแต่ 17 ก.ย.-16 ต.ค.
ท่านมีกำลังร่างกายแข็งแรงจิตใจเข้มแข็งกล้าหาญ มีการใช้จ่ายอย่างทุ่มเท เช่น ซื้อของขวัญให้คนรักหรือท่านได้รับของขวัญจากผู้อื่น มีเพื่อนสนิทอธิบายความคิดดีๆ แก่ท่าน มักมองอะไรอย่างไม่เที่ยงตรง
ราศีตุล เกิดตั้งแต่ 17 ต.ค.-15 พ.ย.
ท่านจะเสียเวลาให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น รอคอยการนัดหมายอันเหลวไหล ไม่ควรพูดเรื่องราวที่สำคัญกับบริวารที่เป็นเพศตรงข้าม ไม่ควรจีบแฟนหนึ่งวันและไม่ควรเป็นสื่อให้ ผู้อื่นด้วย จะถูกขอยืมเงินสด
ราศีพิจิก เกิดตั้งแต่ 16 พ.ย.-15 ธ.ค.
ท่านมีความคิดเฉลียวฉลาดเฉียบแหลม สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้โดยลำพังตนเอง ได้รับจดหมายหรือข่าวสารที่รอคอยมานานๆ รวมถึงผลประโยชน์ตอบแทนจากการทำงาน ซึ่งต้องได้ตามความเป็นจริง
ราศีธนู เกิดตั้งแต่ 16 ธ.ค.-14 ม.ค.
ท่านอยู่ในหมู่ญาติมิตรที่อ่อนกว่าแต่เฉลียวฉลาดและซื่อตรง เพื่อนบางคนของท่านเป็นเด็กกว่าก็จริงแต่ร่ำรวยมาก กิจการของท่านเจริญขึ้นเรื่อยๆ หมายถึงการสอบเพื่อเลื่อนวิทยฐานะด้วย
ราศีมังกร เกิดตั้งแต่ 15 ม.ค.-12 ก.พ.
ท่านมีพระราหูโคจรอยู่ในราศีตรงข้าม คู่หมั้นคู่สมรสอาจดำเนินชีวิตไปในทางตรงข้ามกับท่าน เช่น ดื่มและเล่นการพนัน ผู้ใหญ่ก็มีความเห็นตรงข้ามกับท่าน มีความคิดใหม่ๆ ทางการงาน
ราศีกุมภ์ เกิดตั้งแต่ 13 ก.พ.-14 มี.ค.
ท่านมีความเป็นอยู่ที่รื่นเริงสนุกสนาน รู้เท่าทันเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า หรือเกิดขึ้นนานมาแล้ว ไม่มีศัตรูใดๆ เพราะท่านกลมเกลียวเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับพวกเขาเหล่านั้น
ราศีมีน เกิดตั้งแต่ 15 มี.ค.-12 เม.ย.
ท่านมีรายจ่ายที่ไม่ค่อยเต็มใจ แต่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่ท่านจำเป็นที่ท่านต้องทำ ไปไหนมักเห็นศัตรูหรือผู้ที่ไม่ถูกชะตากับท่าน บริวารจะนำผู้ใหญ่ของเขามาพบกับท่าน ซึ่งเป็นผลดี
จากอดีตวิศวกร สู่เจ้าของ ‘หยกสด’ ขนมไทยโบราณ ยอดขายวันแรก 4,000 บาท สู่ 26 สาขาในปัจจุบัน “หยกสด ทำขึ้นเพราะอยากให้คนไทยได้เข้าถึงขนมไทย หยิบตัวขนมที่อาจจะหาทานไม่ได้ทั่วๆ ไป นำมาทำให้รสชาติ และรูปร่างหน้าตา มีความร่วมสมัยมากขึ้น” หยกสด เป็นแบรนด์ขนมไทยที่โด่งดังเรื่องความหอม หวาน และรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมของใบเตย โดยบทความนี้เป็นเรื่องราวของ คุณจ๊าก-มหศักย์ สุรกิจบวร ที่ชีวิตพลิกผันจากอดีตวิศวกร สู่เจ้าของแบรนด์ “หยกสด – ขนมไทยใบเตย 100%” ขนมไทยโบราณหาทานยาก จากวันแรกยอดขายเพียง 4,000 บาท สู่ 26 สาขาในปัจจุบัน จากความชอบ สู่ ธุรกิจจริงจัง คุณจ๊าก เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจขนมไทย คือตอนที่ทำงานประจำเกี่ยวกับ Software แล้วเครียดจากงาน จึงได้ไปบวช และมีโอกาสได้ทาน ‘ขนมเปียกปูนกะทิสด’ ที่ชาวบ้านได้นำมาถวาย จึงเกิดความสนใจ เพราะรสชาติอร่อย ประกอบกับที่เขานั้นไม่เคยทานมาก่อน หลังจากสึกออกมา คุณจ๊ากได้ไปลองหาซื้อขนมเปียกปูนกะทิสด แต่หาไม่ได้ จึงลองทำด้วยตัวเอง เริ่มแรกก็เสิร์ชข้อมูลต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต นำมาพัฒนาปรับปรุงสูตร และลองให้เพื่อนๆ ได้ลองทาน ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับดีเยี่ยม จึง
ขนมไทย ใครว่าโบราณ! แค่ปรับลุกส์ใหม่ ก็ขายดี ขนมไทย ใครว่า โบราณ ขอเถียงขาดใจ! แค่นำมาปรับลุกส์ใหม่ ก็ขายดิบขายดี เช่น 3 ร้านดัง ที่ได้ทายาทรุ่นใหม่ มาสานต่อสูตรเด็ดของครอบครัว ร้านแรก ยายทำให้หลานขาย ใครอยู่ซอยอารีย์จะรู้จักเป็นอย่างดี ร้านนี้มีสูตรเด็ดความอร่อย ส่งต่อจากคุณยาย ที่ขายขนมไทยมากว่า 50 ปี นำมาใส่แพ็กเกจจิ้งหรู ใครเห็นก็อยากกิน ร้านสอง วลักษณ์ ขนมไทย นำขนมไทยโบราณสูตรเด็ดของคุณแม่ มาแต่งตัวใหม่ ด้วยแก้วชานมไข่มุก จนขายคล่องมือ และสุดท้าย ขนมไทยยายปู สานต่อร้านขนมของแม่ที่ขายมากว่า 30 ปี ให้ซื้อง่ายขายคล่อง ด้วยการใส่กระทงใบตองจิ๋ว ยายทำให้หลานขาย ไอเดียธุรกิจ ครอบครัวขนมไทย มีคุณยายเป็นเจ้าของสูตร ทำขายมากว่า 50 ปี ได้หลานคนเก่ง คุณนัท-พัชริดา มะลา อายุ 28 ปี และ คุณปู-อนงค์นาฎ สุหาลา ช่วยทำการตลาด เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่ จากขายตลาดนัด มาเปิดแผงเล็กๆ สับเปลี่ยน วันละ 20 เมนู ราคาเริ่มต้น 25-35 บาท ขายดี วันละหลักหมื่น พิกัด วันพุธกับศุกร์ ขายที่ซอยละลายทรัพย์ วันพฤหัส ขายที่ลาดพร้าว-วังหิน ซอย 14 ส่วนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ขายที่ซอยอารีย์ เปิดร้านตั้งแต่ 06.00-14.00 น.
ฟังไว้! ถ้าอยาก “ผัดผักบุ้ง” ให้สีเขียวสด ไม่เหี่ยว น่ารับประทาน เป็นปัญหาสำหรับคุณแม่บ้าน หรือพ่อครัวหลายคน ที่อยากจะผัดผัก โดยเฉพาะผัดผักบุ้ง ให้ออกมาเขียวสดน่ารับประทาน แต่ก็ยากซะเหลือเกิน เพราะเมื่อผักโดนความร้อนสีและรูปร่างก็เปลี่ยนไป เช่นเคยกับ เพจ เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว ได้มาบอกเคล็ดลับการทำผัดผักบุ้ง ให้กับพ่อครัว แม่ครัวทั้งหลาย ไว้ปรับใช้ในครัวเรือน ว่าทำอย่างไร ผักบุ้งจะไม่เหี่ยว แถมยังเขียวสดน่ารับประทานอีกด้วย โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “การแช่ผักบุ้งน้ำในสารละลายเบกกิ้งโซดาก่อนผัด สามารถทำให้ผัดผักบุ้งที่ได้เขียวสวย และไม่เหี่ยวเหนียวได้ด้วย หลายๆ คนคงเคยได้ยินว่าสารละลายเบกกิ้งโซดา เพียงแค่ 1% นั้นสามารถใช้ล้างผักได้ดี นอกจากนั้นก็ยังใช้สำหรับแช่ผักที่ผัดยากอย่างผักบุ้งน้ำ ก่อนผัดด้วย เนื่องจากก้านของเขาแข็งเหนียวสุกยาก ในขณะที่ใบนั้นมีความอ่อนนุ่มสุกง่าย จึงทำให้เป็นผักที่ผัดยากเหลือเกิน เพราะถ้าผัดใช้เวลาสั้นเกินไป ก็จะทำให้ก้านมีกลิ่นเหม็นเขียวและพานจะดำหมองคล้ำง่าย เพราะสุกไม่เต็มที่ ในขณะที่พอผัดนานไปก้านจะเหี่ยวฟีบเหนียว และใบจะเหี่ยวเหนียวไปโดยปริยาย จน
เมื่อเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรักษาและเพิ่มพูนมูลค่าทรัพย์สินของตนเอง หนึ่งในวิธีการออมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือการลงทุนในทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เติบโต และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มั่นคงและมีมูลค่าในระยะยาว การออมเงินผ่านการฝากธนาคาร หรือการลงทุนในกองทุนรวม ถือเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำ ซึ่งแม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ในการซื้อทองคำ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญนอกเหนือจากราคาทองคำในแต่ละวัน คือ ค่ากำเหน็จ ซึ่งเป็นค่าบริการในการผลิตทองรูปพรรณ เช่น แหวน กำไล หรือสร้อยคอ โดยปกติค่ากำเหน็จจะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย และความประณีตของชิ้นงาน หากซื้อทองคำในรูปแบบการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง ค่ากำเหน็จจะน้อยกว่าทองรูปพรรณหรืออาจไม่มีเลย (ทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ แต
