เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร กรรมการ บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด กล่าวว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายเพื่อต้องการยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยให้มีคุณภาพสูงขึ้นเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยล่าสุดกรมการขนส่งทางบกได้ยกระดับด้วยการเปิดตัวโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP นั้น บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด ได้ร่วมสนองตอบนโยบายภาครัฐด้วยการเปิดตัวบริการรูปแบบใหม่ ALL THAI TAXI ให้บริการด้วยรถ TOYOTA Prius Hybrid ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ ออลไทยแท็กซี่ ยังคงยืนยันและมุ่งมั่นดำเนินตามวัตถุประสงค์หลัก ด้วยการเปิดโอกาสให้คนไทยได้นั่งรถรับจ้างที่ดีที่สุด และเป็นรถที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย จึงได้เลือกใช้รถยนต์Mercedes – Benz โดยกำหนดพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ณ กรมการขนส่งทางบก เพื่อร่วมเคียงข้างสนองนโยบายภาครัฐสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ
“ออลไทยแท็กซี่” เลือกรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น C350e Avantgarde มาให้บริการในรูปแบบ TAXI VIP เนื่องจากเป็นรถยนต์สมรรถสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ อีกทั้งยังเป็นรถที่มีคุณสมบัติถูกต้องสามารถจดทะเบียนเป็นรถ TAXI VIP ได้ตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกเป็นรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบพิเศษ มีสมรรถนสูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป คุณสมบัติเด่น มีเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ช่วยประหยัดพลังงานลดการใช้น้ำมันเขื้อเพลิง มีระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC พร้อมช่วงล่างที่นิ่มนวลเป็นพิเศษ โดยช่วงล่างจะปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบการขับขี่ ตอบสนองการขับขี่ที่ให้ความนุ่มนวล และการควบคุมที่ยอดเยี่ยม เสริมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบจะทำหน้าที่ตรวจจับระยะห่าง ระหว่างรถกับรถคันหน้าตลอดเวลาโดยใช้สัญญาณเรดาร์ แจ้งเตือนด้วยเสียงเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชน และช่วยเพิ่มแรงดันในระบบเบรกให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการชนในสถานการณ์ไม่คาดคิด

ในส่วนของมาตรฐานความปลอดภัย ตัวรถ TAXI VIP ที่จะนำมาให้บริการนั้นกำหนดติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเหมือนกับTAXI OK ประกอบด้วย การติดตั้งระบบ GPS Tracking, ติดตั้ง CCTV 360 องศา ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสารอย่างน้อย 1 จุด ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้และใช้งานสะดวก รูปแบบการให้บริการมี น้ำดื่มฟรี, หนังสือพิมพ์, ผ้าเย็น, บริการฟรี WI-FI, ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ สำหรับค่าบริการTaxi VIP เริ่มต้นที่ 150 บาท (2 กิโลเมตรแรก) กิโลเมตรต่อไป คิดที่กิโลเมตรละ 16 บาท) กรณีรถติด คิดนาทีละ 6 บาท สามารถเรียกใช้บริการ 3 ช่องทางได้แก่ ผ่านแอปพลิเคชั่น ALL THAI TAXI, ผ่านLine @allthaitaxi และ Call Center 0-2018-9799 ซึ่งมีค่าเรียกใช้บริการครั้งละ 100 บาท บวกด้วยค่าโดยสารตามมิเตอร์ Taxi VIP และการจองล่วงหน้าเกินกว่า 1 ชั่วโมง มีค่าบริการครั้งละ 200 บาท บวกด้วยค่าโดยสารตามมิเตอร์ Taxi VIP เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถแน่นอน ที่ให้ความมั่นใจสูงสุด เช่น เดินทางไปกลับสนามบิน และสำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจ, ธุรกิจโรงแรม, นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ที่ต้องการบริการระดับพรีเมี่ยม ซึ่งในระยะแรกออลไทยแท็กซี่จะนำรถมาวิ่งให้บริการ 100 คัน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มวิ่งให้บริการ 15 คันแรกในวันที่ 1 มิ.ย.61นี้

นางเครือวัลย์ กล่าวต่อไปว่า ในระยะแรกจะใช้จุดจอด หรือจุดพักรถ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเขตเมืองชั้นในย่านเศรษฐกิจ เพื่อสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมศูนย์ให้บริการลูกค้า (Contact Center) ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับพนักงานขับรถออลไทยแท็กซี่ จะมีการฝึกอบรมให้ความรู้ในด้านต่างๆเพิ่มเติม เช่น ความรู้ด้านภาษาอังกฤษ, ความรู้เบื้องต้นในการซ่อมบำรุงรักษารถ เป็นต้น มีความเชี่ยวชาญชำนาญในการขับขี่ที่ดี ปฏิบัติงานด้วยการให้บริการที่มีคุณภาพ มีระเบียบวินัย สุภาพเรียบร้อย และปฏิบัติตามกฎหมาย ตามมาตรฐานรถออลไทยแท็กซี่ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบขนส่งสาธารณะต่อไป
Latest Posts
อากาศร้อนๆ แบบนี้ หนึ่งในเมนูที่ขายดีคงหนีไม่พ้นเหล่าหวานเย็น น้ำแข็งไส น้ำชงต่างๆ แต่อีกหนึ่งเมนูที่ขายดี นั่นคือ “ชาผลไม้” ที่จะรวมผลไม้หลากหลายชนิด ผสมกับชามะลิหรือชาอู่หลง ใช้วิธีแช่เย็นแทนการใส่น้ำแข็ง เมื่อทานผลไม้เข้าไปแล้วจะทำให้สดชื่นและคลายร้อนได้ วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของร้าน “TEA MO ชาสดชื่น” ร้านชาผลไม้ที่เกิดจากความตั้งใจของ คุณแบงกิ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง จากช่อง BANKII และ คุณโม-วรรณวิภา เหมะ เจ้าของเพจ เที่ยวไหนพัทยา ที่เธอนั้นได้ทำการซื้อเครื่องซีลกระป๋อง และนำมาลองทำเมนูน้ำลำไยกระป๋องดู เมื่อลองทำให้เพื่อนชิมก็รู้สึกว่าต่อยอดได้ จึงนำไปออกบูธขายตามงานอีเวนต์ต่างๆ จนปัจจุบันได้กลายเป็นร้านชาผลไม้ที่ลูกค้าต่อคิวแน่น ขายดีพีกสุด หมดภายใน 1 ชั่วโมง จุดเริ่มต้นจากความชอบ คุณโม เล่าว่า เริ่มแรกได้มีการซื้อเครื่องซีลกระป๋องมาลองทำเล่นๆ บวกกับช่วงนั้นมีกระแสน้ำลำไยมาพอดี แรกๆ จึงลองทำเพียงน้ำลำไย และให้เพื่อนชิม จนกระทั่งได้ไปออกงานอีเวนต์ ผลปรากฏว่าขายหมดภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากประสบความสำเร็จกับน้ำลำไย คุณโมก็ไม่ได้หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ “พอทำไปสักพักก็
‘กะละแม’ เป็นขนมโบราณที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในจังหวัดนครพนม แม้จะได้รับความนิยมในพื้นที่ แต่กลับไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับประเทศและระดับสากลได้ แต่วันนี้ ขนมพื้นบ้านชนิดนี้กำลังถูกพลิกโฉมครั้งใหญ่ ผ่านโครงการ “การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตลอดสายโซ่ผลิตภัณฑ์กะละแมโบราณนครพนม ด้วยกลไกขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าใหม่บนฐานทุนทรัพยากรพื้นถิ่น” โดยการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คมศักดิ์ หารไชย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย เล่าว่า หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือ การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการท้องถิ่นให้เห็นถึงศักยภาพของตนเอง และโอกาสที่กะละแมโบราณของจังหวัดนครพนมจะสามารถยกระดับไปได้ไกลกว่าที่เคย ผ่านการพัฒนากระบวนการผลิต การยกระดับมาตรฐาน และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้กะละแมโบราณนครพนมเป็นสินค้าคุณภาพที่สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน ในช่วงปีแรกของโครงการ ทีมวิ
ร้านกาแฟสเปเชียลตี้คอฟฟี่ชั้นนำจากฮ่องกง “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ภายใต้การบริหารงานของอิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมมอบความสดชื่นรับหน้าร้อนด้วยการเปิดตัวเมนูพิเศษประจำฤดูกาล ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568 เอาใจคนรักสุขภาพด้วย 2 เมนูอาหารใหม่ล่าสุดที่รังสรรค์มาเพื่อเติมความสดใส ได้แก่ The Summer Crush Salad (ราคาเริ่มต้น 180++ บาท) สลัดแตงโมคลายร้อนที่ผสานความหวานฉ่ำของแตงโมสดกับมะเขือเทศ ผักร็อกเก็ต หอมแดง แตงกวาญี่ปุ่น และเฟต้าชีส ราดด้วยน้ำสลัดมะยงชิดและบัลซามิกอย่างลงตัว สำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษยิ่งขึ้น ขอแนะนำ The Summer Crush Salad with Serrano (ราคาเริ่มต้น 220++ บาท) สลัดแตงโมรสเลิศที่เพิ่มความหรูหราด้วยแฮมเซอราโน่คุณภาพเยี่ยมจากสเปน นอกจากเมนูอาหารแล้ว “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ยังได้คิดค้น 2 เมนูเครื่องดื่มที่จะช่วยดับกระหายคลายร้อน เริ่มต้นด้วย Mango Paradise (ราคาเริ่มต้น 220++ บาท) กาแฟไทยแลนด์เฮ้าส์เบลนด์ที่ผสมผสานกับพิวเร่มะม่วง น้ำส้มโอและองุ่น เพิ่มความละมุนด้วยโฟมนมและน้ำมะม่วงสด ปิดท้ายด้วย Sunrise Earl Grey (ราคาเริ่มต้น 180++ บาท) ชาเอิร์ลเกรย์หอมกรุ่นที่เข้ากัน
วัน แบงค็อก ร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ปี 68 กับงาน “One Bangkok, One Lagoon Splashing Songkran Rhythms” ภายใต้การสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เนรมิตโอเอซิสแห่งความสุขใจกลางกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานความชุ่มฉ่ำของสายน้ำและศิลปวัฒนธรรมไทยในรูปแบบร่วมสมัยอย่างกลมกลืนลงตัวและมีเอกลักษณ์ เพลิดเพลินกับกิจกรรมสนุกสนาน ชิมช้อปพร้อมรับโปรโมชันสุดเร้าใจมากมาย และพลาดไม่ได้กับมหกรรมความบันเทิงเต็มพิกัดไปกับมินิคอนเสิร์ตจาก 16 ศิลปินไทยสุดฮอต จัดเต็มความสนุก 6 วันต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้ – 15 เมษายน ที่ผ่านมา 4 โซนไฮไลต์ฉลองสงกรานต์ที่ วัน แบงค็อก เปิดฉากสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ที่ วัน แบงค็อก วันที่ 10 เมษายน 2568 พิธีเปิดเทศกาลสงกรานต์ที่ วัน แบงค็อก อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เมษายน 2568 โดยมี วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก และ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเปิดงาน พร้อมการแสดงชุดพิเศษ “Rhythm of One Lagoon Celebration Show” ที่พาผู้ชมเดินทางผ่านเรื่องราวการกำเนิดของ “ลากูน” อันงดงาม จากความเงียบสงบสู่ความมีชีวิตชีวา กับการแสดงซึ่งแบ่งออ
บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ เขาใหญ่ คว้าสุดยอดรางวัล Best Development Marketing จากเวที International Property Awards ประจำปี 2024-25 ตอกย้ำความสำเร็จระดับโลกของเมกะโปรเจ็กต์ใจกลางทำเลเขาใหญ่ หลังคว้ารางวัลถึง 7 สาขา จากเวที Asia Pacific Property Awards เมื่อปีที่ผ่านมา บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ เขาใหญ่ โปรเจ็กต์ Branded Residence ระดับลักชูรีแห่งแรกบนทำเลติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติที่รับรองโดยองค์การยูเนสโก คว้ารางวัลในสาขา Best International Development Marketing จากเวที International Property Awards ประจำปี 2024-2025 ที่สุดแห่งงานประกาศรางวัลอสังหาฯ ระดับเวิลด์คลาสที่ยกย่องบริษัทอสังหาฯ ที่มีผลงานโดดเด่นจากทั่วโลก ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์คุณภาพหลังจากที่โครงการประสบความสำเร็จจากการกวาดรางวัลถึง 7 สาขาจากเวที Asia Pacific Property Awards เมื่อปีที่ผ่านมา บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง “บันยันกรุ๊ป” กลุ่มธุรกิจบริการชื่อดังที่บริหารแบรนด์โรงแรมในเครือมากมาย และ