เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
ข่าววันนี้

‘บิ๊กตู่’ เชิญชวนนักธุรกิจเยอรมันมาลงทุนในไทย ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี!

‘บิ๊กตู่’ เชิญชวนนักธุรกิจเยอรมันมาลงทุนในไทย ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี!

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ได้กล่าวสุนทรพจน์ ในกิจกรรม Thai-German Business Forum : Asia-Europe Partnership for the Future ณ โรงแรมฮิลตัน เบอร์ลิน

โดยพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ ประชาสัมพันธ์ถึงโอกาสในทางธุรกิจ และการลงทุนในไทยของภาคเอกชนเยอรมนี ซึ่งกิจกรรมนี้มีบุคคลสำคัญของเยอรมนีเข้าร่วมหลายคน ได้แก่ นายอันเดรียส์ ชอยเออร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและดิจิทัล สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ ดร.ฮูแบร์ท ลีนฮาร์ท ประธานคณะกรรมการธุรกิจเยอรมนี ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสำคัญของเยอรมนี หุ้นส่วนสำคัญของไทยในยุโรปโดยไทยและเยอรมนีมีความสำพันธ์ระหว่างกันมายาวนานถึง 156 ปีเยอรมนีเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในอียู เป็นประเทศผู้ลงทุนลำดับต้นต้นของไทย ลงทุนในไทยกว่า 866 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 28,649 ล้านบาท มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยกระดับศักยภาพทางการผลิตของไทยมาโดยตลอด รัฐบาลไทยประกาศนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงโดยใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการพัฒนาและยกระดับบุคลากรซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของแนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 ของเยอรมนี

นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนนักลงทุนภาคเอกชนเยอรมนี ร่วมลงทุนในไทยตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีโดยเป็นยุทธศาสตร์ที่ให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานมีเป้าหมายให้ไทยเป็นระเบียงเศรษฐกิจแห่งเอเชียโดยเฉพาะการเชื่อมโยงการคมนาคมและขนส่งอย่างไรรอยต่อภายในกลุ่มประเทศอาเซียนบนภาคพื้นทวีปและจะเชื่อมโยงไปสู่เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ในอนาคตอีกทั้งประเทศไทยได้ปฏิรูปกฎหมายและปรับปรุง กฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้การดำเนินธุรกิจ ตลอดจนลดขั้นตอนการขออนุญาตในการลงทุนในไทยจนเห็นผลในการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของธนาคารโลกปี 2562 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 30 จาก 190 ประเทศ

อีกทั้งโอกาสที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 ไทยพร้อมจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางมองไปสู่อนาคตร่วมกัน ปัจจุบันอาเซียนมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับหกของโลกและมีเสถียรภาพจะก้าวไปสู่เศรษฐกิจอันดับ 4 ของโลกในปี 2573 อาเซียนเป็นตลาดขนาดใหญ่มีประชากร 650 ล้านคน มีโครงการที่มีศักยภาพพร้อมรองรับการลงทุน เช่น EEC และมีนโยบายไทยแลนด์ + 1 สนับสนุนให้เอกชนจากมิตรประเทศ ใช้ไทยเป็นฐานในการขยายโอกาส ลู่ทางการค้า การลงทุน จากประเทศเพื่อนบ้าน และ ในขณะเดียวกันรัฐบาลไทยจะสนับสนุนให้เอกชนไทยดำเนินนโยบาย Germany +1 ใช้เยอรมนี เป็นฐานการขยายโอกาสลู่ทางการลงทุน ในกลุ่มอียู และภูมิภาคยุโรปเช่นกัน

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณการจัดงานครั้งนี้ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการให้ความรู้ความเชื่อมั่นแก่เอกชนที่สนใจลงทุนในประเทศไทยซึ่งหวังว่าจะเห็นการเติบโตทางการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างไทยและเยอรมนี

ต่อจากนั้นในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงเบอร์ลิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพบหารือกับผู้บริหารภาคเอกชนเยอรมัน ได้แก่ บริษัท เดมเลอร์ จำกัด บริษัท แดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป สมาคมอุตสาหกรรมรางในเยอรมนี (Verband Deutsche Bahnindustrie: VDB) และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู จำกัด ตามลำดับ ณ โรงแรมฮิลตัน

โดยพล.ท.วีระชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเมืองของไทยที่จะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ไทยพร้อมสนับสนุนความร่วมมือและการขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของทั้งสองฝ่าย โดยได้มีการหารือเป็นรายบริษัท ดังนี้

การหารือกับผู้บริหารบริษัทเดมเลอร์ รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศเชื่อมั่นในศักยภาพ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของบริษัท ยินดีและพร้อมจะให้การสนับสนุนการขยายการลงทุนของบริษัทในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันความนิยมต่อรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของไทยมีเพิ่มขึ้น ผู้บริหารเดมเลอร์ ชื่นชมรัฐบาลไทยในการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยบริษัทให้คำมั่นพร้อมลงทุนในระยะยาวและยินดีให้การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทย

การหารือกับผู้บริหารบริษัท แดร็คเซิลไมเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ แบตเตอรีรถยนต์ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า และอุปกรณ์ภายใน และได้มีฐานการผลิตที่ จ.ระยอง นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณที่ให้ความเชื่อมั่นและเลือกลงทุนในประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ดูแลบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในประเทศไทย และขอได้แจ้งให้ทราบว่าการพิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทยได้รับการอนุมัติแล้ว โดยผู้บริหารแดร็คเซิลไมเออร์ กล่าวชื่นชมการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทยที่อำนวยความสะดวกให้แก่บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และชื่นชมที่มีแรงงานที่มีคุณภาพ

การหารือกับตัวแทนสมาคมอุตสาหกรรมรางในเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้แทนของกลุ่มอุตสาหกรรมรางของเยอรมนี มีสมาชิกกว่า 200 บริษัท ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก เน้นการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นสมาคมฯ ที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาล คณะกรรมาธิการยุโรป และรัฐสภายุโรป โดยทางสมาคมฯ สนใจและต้องการที่จะร่วมมือกับไทย เห็นว่าประเทศไทยและคนไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมอย่างมากในการลงทุน ด้านไทยหวังที่จะเห็นความร่วมมือแบบ PPP ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่ชัดเจนในระยะยาว จึงพร้อมที่จะร่วมมือและหวังที่จะได้รับการสนับสนุนและการพัฒนาในระบบขนส่งของไทย

การหารือกับผู้บริหารบริษัท BMW นายกรัฐมนตรีขอบคุณบริษัท BMW group ที่ได้ลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ EEC โดยรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน และแสดงความชื่นชมที่ BMWให้ความสำคัญ ต่อการพัฒนาบุคลากรไทยโดยสนับสนุนการฝึกอบรมทวิภาคีแก่นักเรียนอาชีวะของไทยในสาขายานยนต์ ผู้แทนบริษัทฯ กล่าวว่ายินดีที่ได้เป็นส่วนในการพัฒนาทักษะทางอาชีพแก่นักเรียนไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการอบรมให้นักเรียนอาชีวะผ่านการอบรมมาตรฐานเดียวกันกับที่เยอรมนี และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ดูแลการลงทุนของบริษัทในไทยอย่างดี ทั้งนี้ ยินดีจะขยายการลงทุนในไทย เพื่อขาย และส่งออกในเอเชีย อย่างต่อเนื่อง

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์

Related Posts