“กาละแมร์” พัชรศรี เบญจมาศ โผล่แจงกรรมาธิการ สธ. ยันรีวิวตามประสบการณ์ ทำของดี ใช้เองขายเอง รับไม่รู้ข้อกฎหมาย-ประกาศอย.
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เวลา 09.30 น. วันที่ 28 ม.ค.64 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ประชุมพิจารณาศึกษาสรรพคุณและผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเชิญตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คณบดีคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย รวมถึงน.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรชื่อดัง เข้ามาชี้แจงให้ข้อมูลกรณีเป็นผู้ประกอบการอาหารเสริม
- อ่านข่าว : ชาวเน็ต ตั้งคำถาม กาละแมร์ มีคดีกับ อย. มีผลกับความน่าเชื่อถือรายการหรือไม่
- อ่านข่าว : โซเชียลเดือด! จวกยับ กาละแมร์ รีวิวอาหารเสริม ‘โควิด-มะเร็ง’ หาย ท้าเปิดชื่อคนใช้
- อ่านข่าว : อย.เชือด กาละแมร์ รีวิวโอ้อวดเกินจริง เผยโดนมาแล้ว 7 คดี
จากนั้นเวลา 12.30 น. น.ส.พัชรศรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ ว่า ทาง กรรมาธิการฯ เชิญมาให้ข้อมูลในฐานะเป็นผู้ประกอบการ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็น และหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควรจะทำอย่างไรดี เพราะตนก็ไม่เคยรู้เรื่องประกาศ อย.
แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมายมาก จึงต้องมาหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกคน ตอนนี้ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ก่อนหน้านี้เราไม่รู้ว่าเราไม่สามารถพูดในแง่ความรู้สึกของเรา
เช่น ถ้ามีคนทักเราว่าทำไมสวยขึ้น ทำไมตาสองชั้น ทำไมหน้าเรียวต่างๆ นานา ก็คิดว่าเราสามารถพูดได้ตามประสบการณ์ตรง และความรู้สึกของเรา รวมถึงรวบรวมรีวิวประสบการณ์ตรงของลูกค้าที่มีตัวตนจริง ว่ารับประทานแล้วรู้สึกอย่างไร ตนก็ไม่ทราบว่า พูดไม่ได้ ซึ่งมีอีกหลายเรื่องมากที่ตนไม่รู้ แต่วันนี้ได้ทำความเข้าใจร่วมกันว่าสิ่งใดทำได้บ้าง
“เราเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน และทำผลิตภัณฑ์ที่ดีให้คน แต่ไม่ทราบแง่กฎหมาย วันนี้จึงมาพบคณะกรรมาธิการ และได้ความรู้มากขึ้น รวมถึงได้เสนอแนะการทำโครงการต่างๆ เช่น ถ้าต่อไป อย.จะอบรมผู้ประกอบการอาหารเสริมจะดีมาก เพราะหลายคนไม่รู้ ยินดีช่วย อย. และสคบ.ทุกอย่าง เพราะมีประสบการณ์
และไม่อยากให้ใครมาโดนเหมือนเราอีก เราไม่อยากทำผิดซ้ำ รวมถึงประชาชนผู้บริโภคจะได้รู้ข้อกฎหมายต่างๆ เหล่านี้ ส่วนเรื่องคดีความตั้งแต่มีหมายเรียกมายังไม่เคยได้รับโทรศัพท์ เมื่อได้หมายเรียกปุ๊บ ก็ให้ทนายความเป็นผู้จัดการและติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา ซึ่งวันนี้ก็ได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ว่าติดภารกิจมาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ จึงขอเลื่อนพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปก่อน ยืนยันว่าไม่ได้เพิกเฉย”น.ส.พัชรศรีกล่าว
เมื่อถามว่าทำไมจึงเลือกมาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ แทนที่จะเข้าพบตำรวจที่มีหมายเรียก น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า อยากชี้แจงในส่วนของตนด้วย ในส่วนของตำรวจมีทนายความพูดคุยอยู่ตลอดแล้ว เราเคารพกฎหมาย ถ้าตำรวจมีหมายเรียกมา เราก็มีทนายความเข้าไปประสานงาน และติดต่ออยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ก.พ. น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้
เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีการรีวิว ว่าเมื่อรับประทานแล้วเป็นโควิด-19 ก็หาย น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า กรณีนี้มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งรีวิวบอกเล่าเรื่องสามี เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น จึงอยากรู้รายละเอียด และได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าตัว ที่เขามีตัวตนจริงๆ และเล่าเหตุการณ์ว่าเขาป่วยไม่สบาย และเมื่อรับประทานแล้วค่าต่างๆ ลดลงจนสามารถกลับบ้านได้ ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ทำให้ขาดความรอบคอบ และต้องการบอกเล่า
เมื่อถามว่าจะยังเดินหน้าทำผลิตภัณฑ์ต่อหรือไม่ น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ตนก็เป็นแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่งที่มีเจตนาที่ดีในการทำผลิตภัณฑ์ เลือกวัตถุดิบที่ดีทุกอย่าง เพราะกินเอง ขายเอง รีวิวเอง และยังมีพนักงานอีกกว่า 100 ชีวิต เราก็ทำต่อไป ครั้งนี้จะไปปรับปรุงองค์กรและทำทุกอย่างให้ดีขึ้น พัฒนาตนเอง ผลิตภัณฑ์ การบริการและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อะไรที่ต้องปรับปรุงเราก็จะทำเต็มที่
ด้านนายนิติธร แก้วโต หรือนายเจมส์ ทนายความ กล่าวว่า เรื่องหมายเรียกนั้น ยืนยันว่าจะไปตามหมายเรียก คงไม่รอให้มีหมายเรียกครั้งที่ 2 เพราะจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อน โดยประสานไว้หมดแล้ว แต่ขอเลื่อนไประยะเวลาหนึ่งเพื่อจัดคิวก่อน
เมื่อถามว่าระหว่างคิวหมายเรียกของตำรวจ กับการเชิญของกรรมาธิการการสาธารณสุขคิวไหนมาก่อน นายนิติธร กล่าวว่า หมายเรียกตำรวจมาก่อน แต่เราเลือกที่จะมาชี้แจงกรรมาธิการฯ เพราะมองว่าเวลาเราคุยกับตำรวจ เราจะรู้และทราบข้อกล่าวหา แต่เราไม่รู้รายละเอียด แต่วันนี้เราอาจจะรู้รายละเอียดได้ เพราะกรรมาธิการฯ เชิญหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา เราจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อจะได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการเรื่องคดีได้ถูก
ส่วนเรื่องรับประทานแล้วหายป่วยจากโควิด-19 นั้น ยืนยันไม่มีเรื่องการหลอกลวงแน่นอน แต่ขาดความรอบคอบในการศึกษาข้อกฎหมายนั้น น.ส.พัชรศรี ก็ยอมรับในตรงนี้ และในส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่มีคนไข้ที่บอกว่ากินแล้วหายจากโควิด-19 เราคงต้องไปนำลูกค้ารายนี้มาเป็นพยานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่เราพูดไปว่ามีเกิดขึ้นจริง