ต่อยอดขนมของแม่ สู่ ปันบัน ขนมปังเนยสดอบกรอบ ดังไกลต่างประเทศ ส่งออกเดือนละกว่าหลักแสนถุง เติบโตอีกขั้น เปิดหน้าร้าน-รับตัวแทนขาย
ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสจนล็อกดาวน์ ถือเป็นช่วง HotHit สุดๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับ ปันบัน ขนมปังเนยสดอบกรอบ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะ ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น รู้จักกันดี
เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ คุณเหมย-ทักษพร ฉายาวิจิตรศิลป์ วัย 28 ปี เจ้าของ ปันบัน ขนมปังเนยสดอบกรอบเจ้าดัง ที่เล่าว่า เดิมทีขนมปังเนยสดอบกรอบนี้ เป็นหนึ่งในขนมที่คุณแม่เรียนรู้วิธีการทำเบเกอรี่มาจากพี่สาวของท่านและเอามาปรับสูตรเอง ซึ่งคุณแม่มักจะทำให้เธอและบรรดาพี่ชายทานเล่นกันที่บ้าน เมื่อสมัยตอนที่ยังเด็กๆ
อีกทั้งชอบทำไปฝากบรรดาเพื่อนผู้ปกครองที่โรงเรียนของลูกๆ จนหลายคนติดอกติดใจ อยากซื้อไปทานไปฝากคนรอบข้างอีกต่อ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณแม่ของคุณเหมยต่อยอดขึ้นมาเป็นธุรกิจเล็กๆ ช่วยกันทำ 6 คนแม่ลูก
“คุณแม่ชอบทำให้ทาน แล้วก็ชอบทำไปแจกเพื่อนผู้ปกครองที่โรงเรียน ทีนี้เขาก็เกรงใจและอยากซื้อไปทานเองด้วยก็บอกให้คุณแม่ทำขาย เหมยกับพี่ก็เลยพลอยได้ช่วยแม่ทำไปด้วย คือตื่นเช้ามาก็เห็นแม่เตรียมของไว้ทำขนม ไปส่งพวกเราเสร็จก็กลับมาทำ พอกลับบ้านมาคุณแม่ก็เอาของไปส่งตามร้านกาแฟ ร้านขายขนมทั่วไป เย็นๆ ก็ไปซื้อวัตถุดิบมาเตรียมทำของวันรุ่งขึ้น ช่วงปิดเทอมเราก็นั่งรถไปส่งของกับคุณแม่ด้วย เลยรู้ว่าต้องทำยังไง ใช้อะไร ลูกค้าแม่คือใครบ้าง รวมๆ แล้วก็เป็นเวลากว่า 20 ปีที่คุณแม่ยึดอาชีพขายขนมปังเนยสดอบกรอบมา” คุณเหมย เล่า
ธุรกิจดำเนินไปด้วยดี บรรดาลูกๆ ก็เติบใหญ่ขึ้น แต่หัวเรี่ยวหัวแรงหลักอย่าง คุณแม่ เริ่มอายุมากขึ้น อีกทั้งได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งซึ่งอยู่ในขั้นที่ไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป คุณเหมยที่ถือได้ว่าเป็นลูกคนเล็กที่สนิทกับแม่มาก จึงเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจเล็กๆ ของคุณแม่
“พอคุณแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เราก็มาสานต่อธุรกิจท่านเพราะเราก็ไม่อยากให้ขนมของแม่เราหายไป แล้วก่อนหน้านั้นคุณแม่เคยพูดว่า ท่านอยากเห็นขนมปังกรอบของท่านส่งออกไปต่างประเทศ เรียกว่าเป็นความฝันของเขาที่เราจำขึ้นใจเลย พอท่านจากไป เราก็เรียนจบพอดีก็ทำงานออฟฟิศค่ะ แล้วอีกขาหนึ่งเราก็มาสานต่อร้านขนมแม่ รีแบรนด์ใหม่เป็น ปันบัน ชื่อก็ตรงตัวเลยว่าเราอยากแบ่งปันขนมปังเนยสดอบกรอบอร่อยๆ สูตรของคุณแม่ให้คนอื่นได้ลองทาน รีแบรนด์เสร็จก็เริ่มทำออกขายตามบู๊ธ”
“พอรีแบรนด์แล้วไปขายตามบู๊ธ ก็ขายได้มากขึ้นค่ะ เพราะเรามาเจอลูกค้าหลากหลายกว่าเดิม โดยเฉพาะในห้างที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาซื้อของเราไปทานแล้วเขาชอบ พอเห็นว่าสินค้ามันไปได้ โอกาสมันมี ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานแล้วมาลุยธุรกิจของแม่เลย ทีนี้ครั้งที่ไปขายที่ห้างครั้งหนึ่ง มีต่างชาติคนหนึ่งมาซื้อทานแล้วชอบมาก เขาก็ติดต่อเรามาหลังไมค์ว่าอยากจะเอาขนมของเราส่งออกไปประเทศเขา” คุณเหมย เล่าอย่างนั้น
เมื่อได้รับการติดต่อให้นำสินค้าขายส่งออก คุณเหมยก็ไม่รอช้า พัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงการผลิตให้ได้มาตรฐานในการส่งออก โดยคุณเหมย เผยว่า มีทั้งประเทศเกาหลีใต้ ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น ที่ติดต่อเข้ามาเรื่องการส่งออก ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น ปันบัน ถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่เป็นขนมทานเล่นจากไทยที่ไปขายที่นั่น
“เหมยเข้ามารับช่วงต่อได้ประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ ก็คิดมาตลอดค่ะว่า จะพัฒนาสินค้าของเรายังไงให้เติบโตไปได้ยังไงอีก ก็คงความเป็นออริจินอลความอร่อยของแม่เอาไว้ แล้วเราก็มาครีเอตว่า จะทำยังไงให้สินค้าเป็นที่สนใจ มานั่งรีแบรนด์ คิดแพ็กเกจใหม่ จัดการระบบนั่นนี่ ก็เริ่มจากศูนย์จริงๆ จนตอนนี้สินค้ามีมาตรฐานมากขึ้นและส่งออกได้สำเร็จแล้ว ยอดผลิตต่อเดือนของปันบันประมาณ 2 แสนถุงค่ะ”
“ออร์เดอร์ส่งออกไปฮ่องกง เกาหลีใต้ แล้วก็ญี่ปุ่น รวมกันแล้วก็ประมาณหลักแสนกว่าถุงต่อเดือนเลยค่ะ ที่ไทยก็ผลิตขายประมาณ 5 หมื่นถุงต่อเดือน ถามว่าโควิดกระทบไหม ไม่ค่อยกระทบมาก เพราะคนอยู่บ้านกันมากขึ้น เขาก็ซื้อของเราไปตุนกินกันที่บ้าน ยอดเลยโตขึ้น 4-5 เท่าเลยค่ะ ในอนาคตก็วางแผนว่าจะส่งออกให้มากขึ้นและมีสินค้าอื่นๆ ออกมาด้วย” คุณเหมย ว่าอย่างนั้น
ขนมปังเนยสดอบกรอบ แบรนด์ ปันบัน มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินอล รสกระเทียม และ รสงาดำ มีทั้งหมด 2 ขนาด คือ ถุงเล็ก 35 บาท และ ถุงใหญ่ 50 บาท
“ขนมปังอบกรอบมีคนทำขายเยอะ แม้ของเราจะราคาสูงกว่าทั่วไป แต่รับประกันได้เลยว่าเราใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น เนยสดแท้ไม่มีไขมันทรานส์ ขนมปังก็ให้รสสัมผัสกรุบกรอบแต่ฉ่ำ ไม่แข็งกระด้าง นอกจากนั้นเราก็ต่อยอดเปิดหน้าร้านอยู่ที่ประชานิเวศน์ 3 ทำทอฟฟี่โทสต์ขายและก็ที่เทอร์มินอล 21 ด้วย นอกเหนือจากนั้น เรามีรับทำ OEM เบเกอรี่ด้วยภายใต้ชื่อบริษัท ไทย เบเกอรี่ กรุ๊ป และเราก็มีเปิดรับตัวแทนขายขนมปังเนยสดอบกรอบด้วย ถ้าใครสนใจก็ทักมาคุยกันได้ค่ะ” คุณเหมย กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก PunBun เบเกอรี่ ขนมปังเนยสดกรอบ ขนมปังกระเทียม ขนมปังหน้าต่างๆ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ.2565
จากอดีตวิศวกร สู่เจ้าของ ‘หยกสด’ ขนมไทยโบราณ ยอดขายวันแรก 4,000 บาท สู่ 26 สาขาในปัจจุบัน “หยกสด ทำขึ้นเพราะอยากให้คนไทยได้เข้าถึงขนมไทย หยิบตัวขนมที่อาจจะหาทานไม่ได้ทั่วๆ ไป นำมาทำให้รสชาติ และรูปร่างหน้าตา มีความร่วมสมัยมากขึ้น” หยกสด เป็นแบรนด์ขนมไทยที่โด่งดังเรื่องความหอม หวาน และรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมของใบเตย โดยบทความนี้เป็นเรื่องราวของ คุณจ๊าก-มหศักย์ สุรกิจบวร ที่ชีวิตพลิกผันจากอดีตวิศวกร สู่เจ้าของแบรนด์ “หยกสด – ขนมไทยใบเตย 100%” ขนมไทยโบราณหาทานยาก จากวันแรกยอดขายเพียง 4,000 บาท สู่ 26 สาขาในปัจจุบัน จากความชอบ สู่ ธุรกิจจริงจัง คุณจ๊าก เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจขนมไทย คือตอนที่ทำงานประจำเกี่ยวกับ Software แล้วเครียดจากงาน จึงได้ไปบวช และมีโอกาสได้ทาน ‘ขนมเปียกปูนกะทิสด’ ที่ชาวบ้านได้นำมาถวาย จึงเกิดความสนใจ เพราะรสชาติอร่อย ประกอบกับที่เขานั้นไม่เคยทานมาก่อน หลังจากสึกออกมา คุณจ๊ากได้ไปลองหาซื้อขนมเปียกปูนกะทิสด แต่หาไม่ได้ จึงลองทำด้วยตัวเอง เริ่มแรกก็เสิร์ชข้อมูลต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต นำมาพัฒนาปรับปรุงสูตร และลองให้เพื่อนๆ ได้ลองทาน ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับดีเยี่ยม จึง
ขนมไทย ใครว่าโบราณ! แค่ปรับลุกส์ใหม่ ก็ขายดี ขนมไทย ใครว่า โบราณ ขอเถียงขาดใจ! แค่นำมาปรับลุกส์ใหม่ ก็ขายดิบขายดี เช่น 3 ร้านดัง ที่ได้ทายาทรุ่นใหม่ มาสานต่อสูตรเด็ดของครอบครัว ร้านแรก ยายทำให้หลานขาย ใครอยู่ซอยอารีย์จะรู้จักเป็นอย่างดี ร้านนี้มีสูตรเด็ดความอร่อย ส่งต่อจากคุณยาย ที่ขายขนมไทยมากว่า 50 ปี นำมาใส่แพ็กเกจจิ้งหรู ใครเห็นก็อยากกิน ร้านสอง วลักษณ์ ขนมไทย นำขนมไทยโบราณสูตรเด็ดของคุณแม่ มาแต่งตัวใหม่ ด้วยแก้วชานมไข่มุก จนขายคล่องมือ และสุดท้าย ขนมไทยยายปู สานต่อร้านขนมของแม่ที่ขายมากว่า 30 ปี ให้ซื้อง่ายขายคล่อง ด้วยการใส่กระทงใบตองจิ๋ว ยายทำให้หลานขาย ไอเดียธุรกิจ ครอบครัวขนมไทย มีคุณยายเป็นเจ้าของสูตร ทำขายมากว่า 50 ปี ได้หลานคนเก่ง คุณนัท-พัชริดา มะลา อายุ 28 ปี และ คุณปู-อนงค์นาฎ สุหาลา ช่วยทำการตลาด เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่ จากขายตลาดนัด มาเปิดแผงเล็กๆ สับเปลี่ยน วันละ 20 เมนู ราคาเริ่มต้น 25-35 บาท ขายดี วันละหลักหมื่น พิกัด วันพุธกับศุกร์ ขายที่ซอยละลายทรัพย์ วันพฤหัส ขายที่ลาดพร้าว-วังหิน ซอย 14 ส่วนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ขายที่ซอยอารีย์ เปิดร้านตั้งแต่ 06.00-14.00 น.
เมื่อเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรักษาและเพิ่มพูนมูลค่าทรัพย์สินของตนเอง หนึ่งในวิธีการออมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือการลงทุนในทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เติบโต และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มั่นคงและมีมูลค่าในระยะยาว การออมเงินผ่านการฝากธนาคาร หรือการลงทุนในกองทุนรวม ถือเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำ ซึ่งแม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ในการซื้อทองคำ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญนอกเหนือจากราคาทองคำในแต่ละวัน คือ ค่ากำเหน็จ ซึ่งเป็นค่าบริการในการผลิตทองรูปพรรณ เช่น แหวน กำไล หรือสร้อยคอ โดยปกติค่ากำเหน็จจะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย และความประณีตของชิ้นงาน หากซื้อทองคำในรูปแบบการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง ค่ากำเหน็จจะน้อยกว่าทองรูปพรรณหรืออาจไม่มีเลย (ทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ แต
กูรูด้านอาหาร อย่าง อาจารย์ยศพิชา คชาชีวะ เจ้าของคอลัมน์ “ตู้จดหมายพลศรี” มีเรื่องราวน่าสนใจสำหรับ “วงการยำ” มาให้เรียนรู้กัน ดังนี้ … “หนูทำยำไม่เคยอร่อยสักที เดี๋ยวเปรี้ยวไป เดี๋ยวหวานไป อาจารย์มีสูตรไหมคะ ขอหนูหน่อย” คำถามทำนองนี้ผมเจอมาหลายคน หลายครั้ง ทุกครั้งผมเลยให้คาถาสูตรสำเร็จไปท่องให้ขึ้นใจว่า “1-1-ครึ่ง” 1 คือ น้ำปลา 1 ส่วน อีก 1 คือ น้ำมะนาว 1 ส่วน และครึ่ง คือ น้ำตาล ถ้าผสมน้ำยำเริ่มต้นจากสูตรนี้ การปรับเพิ่มเติมอะไรอีกนิดหน่อย ทำให้ลงตัวง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตวงน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ก็ตวงน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนน้ำตาลทรายเหลือ 1 ช้อนโต๊ะ หรือยกตัวอย่างเป็นถ้วย น้ำปลา 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 ถ้วย น้ำตาลครึ่งถ้วย ใช้เป็นชั่งน้ำหนักก็ได้ครับ เช่น น้ำปลา 50 กรัม น้ำมะนาว 50 กรัม น้ำตาลทราย 25 กรัม อาจจะต้องมีการยับยั้งชั่งใจกันเล็กน้อย เช่น ลดน้ำปลาลงนิดหน่อยก่อน เพราะน้ำปลาบางยี่ห้อโคตรเค็ม บางหน้ามะนาวเปรี้ยวมากก็ใส่น้อยลงนิดหนึ่งก่อน แต่ถ้าผสมแล้วเปรี้ยวไปหน่อย เค็มไปนิด ก็เติมส่วนผสมให้พอดีได้ตามใจ น้ำยำ แบบนี้ภาษาการครัวเรียกน้ำยำขาว เป็นยำพื้นฐานของยำไทยๆ เอาไปทำยำหมูยอ ยำวุ้น
