เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Exclusive Featured

กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย “ขนมจีบป้าพิณ ลำภูรา” OTOP 5 ดาวเมืองตรัง ทำอย่างไร? ให้ขายได้หมื่นชิ้น/วัน!

กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย “ขนมจีบป้าพิณ ลำภูรา” OTOP 5 ดาวเมืองตรัง ทำอย่างไร? ให้ขายได้หมื่นชิ้น/วัน!

หากพูดถึงขนมจีบ หลายต่อหลายคน รวมถึงเราด้วย ก็ต้องนึกถึงของกินเล่นชนิดหนึ่ง ที่ทำมาจากแผ่นเกี๊ยวหรือแผ่นแป้งมาห่อด้วยไส้หมูสับ กุ้ง หรือปู แต่คำว่าขนมจีบในจังหวัดตรัง ไม่ได้หมายถึงสิ่งสิ่งนั้น แต่จะหมายถึงขนมจีบที่เป็นขนมกินเล่นในท้องถิ่น 

เรียกได้ว่าเปิดประสบการณ์ใหม่เลยทีเดียว เพราะเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ได้ไปเยือนถิ่นเมืองตรัง และมีโอกาสได้ลองชิมขนมจีบพร้อมพูดคุยกับ คุณโจ๊ก-ดร.ณัฐวัตร ตัณศิริเสถียร วัย 50 ปี เจ้าของร้านขนมจีบป้าพิณ ลำภูรา 

คุณโจ๊ก-ดร.ณัฐวัตร ตัณศิริเสถียร
คุณโจ๊ก-ดร.ณัฐวัตร ตัณศิริเสถียร

คุณโจ๊ก เล่าว่า ของดีเมืองตรังที่เป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คน ต้องยกให้กับ “เค้กหมูย่าง” แต่ขนมจีบนี้เป็นเพียงขนมที่คนในตำบลลำภูราคุ้นชิน และมักใช้กินในตอนที่ไปกรีดยางยามฝนตก จนมาปี พ.ศ. 2539 ทางร้านเลยคิดว่า ขนมจีบนี้มีแค่ในเฉพาะตรัง เลยเกิดไอเดียที่จะทำขึ้นมา 

ในช่วงแรกที่ลองทำขาย คนไม่เห็นด้วยค่อนข้างเยอะ เพราะโดยส่วนมากคนมักจะซื้อเค้กเป็นของฝาก แต่เขาเชื่อว่า ด้วยความเป็นขนมจีบนี้เป็นอัตลักษณ์ และคิดว่าไปต่อได้  

แรกๆ ทำเพียงแค่หลักสิบชิ้นเท่านั้น และฝากขายตามร้านค้าต่างๆ เพราะคิดว่าคนน่าจะยังไม่มาซื้อที่หน้าร้านของตัวเองแน่นอน จากนั้นก็ทำขายมาเรื่อยๆ จน พ.ศ. 2547 ได้มาเจอกับนโยบายของทางรัฐบาล โดยกรมพัฒนาชุมชน ได้เปิดรับขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการสินค้าภูมิปัญญาไทย OTOP ทางร้านคิดว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของนโยบายนี้ จึงได้ลองขึ้นทะเบียน

หลักจากนั้น ทางกรมพัฒนาชุมชนก็ได้ให้ความรู้และอบรม ทางร้านก็ได้นำประสบการณ์ความรู้จากตรงนี้มาปรับใช้ จากขายแค่วันละ 20 ชิ้น จนเติบโตมาเป็นหมื่นชิ้นต่อวัน และกลายเป็นขนมขึ้นชื่อ หากใครไปเยือนจังหวัดตรัง ก็ต้องไม่พลาดที่จะซื้อกลับมาเป็นของขวัญของฝาก

ปลดล็อกสกิลการขายบน TikTok Shop ให้ปัง! ด้วย Shopping Center ผู้ช่วยร้านค้าปั้นยอดทะลุเป้า

เรารู้เรื่องราวความเป็นมาของขนมจีบป้าพิณไปแล้ว มารู้เรื่องของคุณภาพและวิธีการปรับตัวของแบรนด์กันบ้าง 

สำหรับเรื่อง คุณภาพ คุณโจ๊กให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะการเลือกใช้วัตถุดิบ อย่างไข่เป็ด จะเลือกใช้ไข่เป็ดไล่ทุ่ง แป้งสาลีคุณภาพดี และส่วนผสมต่างๆ แต่ถึงแม้ราคาวัตถุดิบจะมีการปรับขึ้นปรับลง แต่ทางร้านไม่เคยลดส่วนผสมเลยแม้แต่นิดเดียว

“เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ “คุณภาพต่อรองไม่ได้” ห้ามลดส่วนผสม เพื่อคงคุณภาพ นี่เป็นคำสั่งของป้าพิณ” คุณโจ๊ก กล่าว

ในตอนนี้ กำลังการผลิตอยู่ที่ 3,500-4,000 ชิ้นต่อวัน แต่มีเป้าหมายจะไปให้ถึง 10,000 ชิ้นต่อวัน ซึ่งขั้นตอนการผลิต เดิมมีการใช้คนในการผลิตทั้งหมด แต่ตอนนี้มีการปรับเปลี่ยน มีการใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยเพื่อลดเวลา แต่หลักๆ ยังคงเป็นคนอยู่

“การทำสังขยาเรายังใช้ถ่าน จริงๆ เราสามารถใช้แก๊สได้ แต่รุ่นอากง อาม่า รุ่นแม่เราใช้ถ่านมา เพื่อความเป็นตัวตนของป้าพิณยังคงอยู่” เขากล่าว    

อีกทั้งยังกล่าวเสริมว่า

“เพราะคำว่า Local หรือความเป็นสินค้าท้องถิ่น สินค้าชุมชนที่เราเป็น เราอยากรักษาอัตลักษณ์นี้ไว้ อยากให้คนกินขนมป้าพิณเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กินวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม”   

จากที่ได้ฟังมา เครื่องมือที่ใช้ในการผลิตหลักๆ คือ ถ่าน เลยมีคำถามว่า ทางร้านมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง เพราะถ่านนี้ใช้แล้วหมดไป ทางคุณโจ๊กก็ตอบมาทันทีว่า มันมีชุมชนที่มันเป็นป่าเสื่อมโทรม จึงต้องแปรรูปมาเป็นกระบวนการทำถ่าน คือทำมาจากกะลา ซึ่งเป็นตัวสำรองของร้านอีกตัวหนึ่ง

“ทางร้านคิดไว้เผื่อแล้ว วันนี้ยังมี แต่อีก 4-5 ปี ถ้าถ่านไม้ไม่มี ก็ต้องใช้ตัวนี้แทน” เขากล่าว

มาถึงการทำการตลาดของแบรนด์ ในเมื่อก่อนแบ่งออกเป็น หน้าร้าน 80% ออกงานขาย 20% แต่ในปัจจุบันนี้ผ่านมา 20 ปี หน้าร้าน 60% ออกงานขายและออนไลน์ 40% แต่ถ้าเปรียบเทียบ ออนไลน์ในตอนนี้ 10% ซึ่งสินค้าท้องถิ่นคนที่มาซื้อ เขาต้องตั้งใจมาแล้วซื้อ 

คุณโจ๊ก บอกว่า การขายของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนอายุมากๆ แต่พอได้มีโอกาสอบรมจาก TikTok ที่จับมือกับ กรมพัฒนาชุมชน พร้อมเสริมองค์ความรู้ด้านดิจิทัล ช่วยผลักดันสินค้า OTOP สู่ TikTok Shop ที่จะสอนในเรื่องของการทำคอนเทนต์อย่างไร ไลฟ์แบบไหน ตัดต่ออย่างไร จึงทำให้เริ่มมีความสนุก และเกิดความอยากที่จะทำออนไลน์ต่อ    

จากนั้นก็เริ่มมีการทดลอง ไลฟ์ขายของ ครั้งแรก เรียกได้ว่ามาถูกทาง เพราะจำนวนที่กดสั่งได้ถึง 20 ตะกร้าเลยทีเดียว คุณโจ๊ก บอกเคล็ดลับให้กับเราฟังว่า

“เรื่องราวของสินค้า เป็นสิ่งที่คนอยากจะรู้ และการตัดสินใจซื้อจะตามมา”

สุดท้ายนี้ คุณโจ๊ก ฝากไปถึงกลุ่มคนที่มีอายุ กลุ่มคนเกษียณ กับโซเชียลว่า

“ออนไลน์สำหรับคนตั้งแต่ 40 ไปจนถึง 70 ในมิติแรกมองว่ายาก แต่อยากจะบอกว่า เปิดใจ เรียนรู้ในกระบวนการทุกอย่าง แล้วลงมือทำ ศึกษาอย่างเดียว ไม่ลงมือทำ เท่ากับ ไม่รอด เราอาจจะช้ากว่าเด็กๆ หน่อย แต่ถ้าเราทำซ้ำๆ ทำจนรู้ มันสามารถทำได้จริงๆ”   

หากใครสนใจอยากไปลิ้มลองขนมจีบป้าพิณ สามารถเข้าไปติดต่อสอบถามได้ที่ 

Facebook ขนมป้าพิณตรังของฝากตรัง ของดีเมือง ตรัง ของกินเมืองตรัง

Related Posts

จากนักเรียนไทยในแดนมังกร หิ้วสินค้าไทยไปขาย สู่นักไลฟ์สดมือโปร กวาดเงิน 5 ล้านบาท ใน 2 ชั่วโมง