คิดแล้วทำเลย! อาชีพเสริมของคุณแม่ลูกสอง เผยทริกปั้นแบรนด์ให้ปัง จนสร้างรายได้หลายล้านต่อปี
Karen Frederick (คาเรน เฟรเดอริก) อายุ 43 ปี ผู้ก่อตั้ง Kole Jax Designs แบรนด์ออนไลน์ที่จำหน่ายเครื่องประดับและอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบเอง
เมื่อถามว่าตอนนั้นงานประจำหรืออาชีพหลักของเธอคืออะไร เมื่อเริ่มทำอาชีพเสริม เธอเล่าว่า ตอนนั้นเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกชาย 2 คน คนแรกเป็นเด็กเล็ก และอีกคนเป็นวัยหัดเดิน ส่วนสามีของเธอนั้นก็ลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำงานที่ Kole Jax เป็นเวลา 5 ปีแล้ว และออฟฟิศเก่าของเขา ก็คือสำนักงานใหญ่ของ Kole Jax Designs ในปัจจุบัน
แบรนด์ Kole Jax Designs ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2012 โดยชื่อ Kole Jax มาจากชื่อกลางของลูกชายเธอ นั่นคือ Grayson Kole และ Tucker Jax
ช่วงแรกในการเริ่มต้นทำธุรกิจเสริม เธอสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ และฝึกทำด้วยตัวเอง โดยการดูวิดีโอในยูทูบ และรับออร์เดอร์ผ่านเพจ Kole Jax Designs ซึ่งเริ่มแรกเธอจะโพสต์งานที่ออกแบบใหม่ทุกชิ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก มีผู้ติดตามถึง 10,000 คนอย่างรวดเร็ว โดยการใช้โฆษณาของ Meta เพื่อโปรโมตเพจ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 5.5 แสนคน
เธอเล่าต่อว่า “การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการหาลูกค้าออนไลน์อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ”
และเมื่อ Meta เปิดตัว Business Manager ในปี 2014 เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่รู้ว่าการตลาดโซเชียลมีเดีย จะเป็นกุญแจสำคัญต่อความยั่งยืนในธุรกิจ
เธอทุ่มเทกับธุรกิจนี้ และใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้นที่จะเห็นรายได้สม่ำเสมอ และ 3 ปีต่อมา เธอสามารถทำรายได้ประมาณหลักแสนเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี (หรือประมาณ 3 ล้านกว่าบาท)
ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เปลี่ยนจากอาชีพเสริมทำเป็นงานเต็มเวลา โดยในปี 2018 เธอสามารถทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านเหรียญ (ประมาณ 33 ล้านบาท) และมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอทุกปี สร้างรายได้มากกว่า 10 ล้านเหรียญ (ประมาณ 300 กว่าล้านบาท) นับตั้งแต่เข้าร่วมคลับ “ล้านดอลลาร์”
การเติบโตส่วนใหญ่ของเธอ มาจากการโฆษณาบน Meta และความก้าวหน้าของ AI ของ Meta ได้ส่งเสริมการเติบโตของเธอและทำให้ใช้เวลากับการตลาดน้อยลง ช่วยให้มีเวลาโฟกัสกับงานด้านอื่นๆ มากขึ้น
รวมถึงการโพสต์แบบออร์แกนิก เพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ ส่งผลให้ Kole Jax Designs เติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยมียอดขายโตขึ้น 70% ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ถึง กรกฎาคม 2024 ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 129%
มีความสุขที่ได้ทำ
“ฉันมีความสุขที่ได้รักษาจิตวิญญาณแห่งความสร้างสรรค์ที่ฉันมีมาตั้งแต่เด็ก ให้คงอยู่และแข็งแกร่ง ฉันสนุกกับการได้ยินเรื่องราวผลงานการออกแบบของฉัน ว่าได้สัมผัสใจผู้อื่นอย่างไร”
เธอเล่าว่า ลูกชายของเธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจและปลูกฝังการที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจ นั่นทำให้หัวใจของผู้เป็นแม่อย่างเธอพองโต เพราะที่เธอเริ่มต้นทำธุรกิจนี้ เพื่อที่จะได้ทำงานไปด้วยและอยู่กับลูกๆ ด้วย
ฝากถึงผู้ประกอบการ
“แค่เริ่มต้นไปเลย อย่าคิดมากเกินไป ไม่มีเวลาไหนที่เหมาะในการเริ่มต้นธุรกิจ หากทำได้ ให้นำรายได้ไปลงทุนในบริษัทตั้งแต่เริ่มต้น ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงและความล้มเหลว”
เธอเล่าต่ออีกว่า หลังจากที่ดำเนินธุรกิจมาเกือบ 13 ปี เธอเชื่อมั่นว่า “ความล้มเหลวคือโอกาสในการเรียนรู้ และคือเส้นทางสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ”
ที่มา : Entrepreneur.