พลิกวิกฤตเป็นโอกาส! สองเพื่อนซี้ลาออกจากงานค้าส่งเสื้อผ้า เปิดธุรกิจรถรับ-ส่งสุนัข ไม่กี่เดือน ทำรายได้เดือนละ 6 แสน
ใครจะคิดว่าความรักที่มีต่อสัตว์จะสามารถเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักล้านได้ภายในเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่จากโรคระบาดอย่างโควิด-19 แต่สำหรับ เท็ดดี้ ทาวิล และ เออร์วิง ฟายาส คู่ซี้จากนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์สามารถทำได้
ด้วยความผูกพันที่มีต่อสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งศูนย์ดูแลสุนัขที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษในน้องหมา จนกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้ และนี่คือเรื่องราวของทั้งคู่ จากอุตสาหกรรมค้าส่งเสื้อผ้าสู่เส้นทางแห่งความสุขของสุนัขและเจ้าของ
เมื่อความรักที่มีต่อสัตว์เลี้ยงสามารถเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้
เท็ดดี้ ทาวิล ชายวัย 32 ปี จากนิวยอร์ก และ เออร์วิง ฟายาส ชายวัย 33 ปี จากนิวเจอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Happy Tails ศุนย์ดูแลสุนัขที่ตั้งอยู่ในย่านไทรเบกา (Tribeca) ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ใน Side Hustle Spotlight ว่า ก่อนที่พวกเขาจะผันตัวมาทำ Happy Tails อย่างเต็มตัวได้เคยทำงานในอุตสาหกรรมค้าส่ง ผลิตเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้กับแบรนด์ต่างๆ
ทาวิล ได้เปิดเผยว่า ในช่วงที่เกิดโรคระบาดสัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบไปด้วย แม้จะทำงานแบบ Work From Home แต่กลับไม่มีเวลาดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเอง พวกมันดูเบื่อและถูกละเลย การจะพาไปเดินเล่น หรือพาไปสวนสาธารณะกลายเป็นเรื่องรองเพราะทุกคนต่างตกอยู่ในความเครียด ดังนั้น แรงบันดาลใจในการเริ่มทำธุรกิจนี้จึงมาจาก เมจิก สุนัขของเขาเอง โดยมีเป้าหมายคือการให้สุนัขได้ออกไปสังสรรค์และสนุกสนานนอกบ้านบ้าง
พวกเขาเริ่มจากการซื้อรถ Dodge Caravan รุ่นปี 1994 มาในราคา 6,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 203,769 บาท ณ วันที่ 24 มีนาคม 2568) จากนั้นได้ทำการปรับแต่งภายในใหม่และเริ่มให้บริการไปรับสุนัขถึงหน้าบ้าน พวกเขาจะพามันออกไปนอกเมืองเพื่อปีนเขาและสำรวจสถานที่ใหม่ๆ
นอกจากนี้ ยังได้มีการสร้างบัญชี Instagram ที่ใช้ชื่อว่า happytails.llc สำหรับอัปเดตข่าวสารแบบเรียลไทม์ ทว่าก็กลายเป็นที่ชื่นชอบจากคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ด้วยเพราะพวกเขาสนุกกับการดูภาพและวิดีโอของน้องหมาที่กำลังมีความสุขกับการไปเที่ยวได้
ความท้าทายของธุรกิจนี้
หลังจากที่แนวคิดการทำรถรับ-ส่งสุนัขได้รับความนิยม พวกเขาต้องการขยายไอเดียนี้ให้กลายเป็นพื้นที่จริงที่สามารถให้สุนัขได้พบปะและเล่นด้วยกัน ดังนั้น ศูนย์ดูแลสุนัขแห่งแรกจึงได้ถูกเปิดขึ้นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งที่นั่นมีทุกอย่างที่สุนัขต้องการจากภายนอกแต่จะอยู่ในรูปแบบของในร่มแทน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นปีนป่าย สนามวิ่งเล่น หลักดับเพลิงจำลอง โซฟา และอื่นๆ อีกมากมาย
ก่อนหน้านั้นทาวิลไม่เคยชอบที่จะต้องพาสุนัขของเขาไปฝากไว้ตามศูนย์ดูแลทั่วไป เพราะพวกมันมักจะได้แค่นั่งรอเจ้าของเฉยๆ ไม่มีอะไรให้ทำ อีกทั้งยังมีกลิ่นเหม็น แต่ Happy Tails ใส่ใจเรื่องความสุขของสุนัขเป็นหลัก ดังนั้น ที่นี่จึงมีทั้งโซนหน้าร้านสำหรับขายสินค้าพรีเมียม
ไม่ว่าจะเป็น ชามอาหารดีไซน์พิเศษจากแบรนด์ Jonathan Adler, ของเล่นกับขนมจากแบรนด์ WildOne และ Bocce’s Bakery นอกจากนี้ ยังมีโซน Self-washing station ให้เจ้าของสุนัขสามารถอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงได้โดยไม่เลอะบ้าน และยังมีที่สำหรับให้นั่งทำงานได้ด้วย
ในเรื่องความสะอาดและกลิ่น พวกเขาพบว่า ในตอนที่เจอกับปัญหาจริงๆ มันยากกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรกมาก ดังนั้น จึงมีการใช้มาตรการหลายอย่าง เช่น ติดตั้งระบบกลิ่นแบบโรงแรม มีระบบระบายอากาศแบบแยกส่วน และอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทันสมัย
รายได้เริ่มต้นของธุรกิจและสถานะปัจจุบัน
บริการ “รถรับ-ส่งสุนัข” ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในไม่กี่เดือน ทำให้พวกเขาต้องซื้อรถเพิ่มอีก 2 คัน ซึ่งแต่ละคันทำรายได้เฉลี่ยเดือนละ 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 339,613.96 บาท) มีค่าใช้จ่ายหลักๆ คือ ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และค่าจ้างพนักงาน
ตอนนี้ธุรกิจมีอัตราการเติบโต 120% จากเดือนแรกและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพวกเขาคาดว่าภายในปีแรกจะสามารถทำรายได้เกิน 2.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 78,039,000 บาท)
สิ่งที่ชอบที่สุดในการทำงานนี้
ในตอนแรกที่ลาออกจากงานประจำ พวกเขาคิดว่าตัวเองจะได้ทำงานน้อยลงเนื่องจากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ในความเป็นจริงกลับต้องทำงานหนักกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของเท็ดดี้ ทาวิล และ เออร์วิง ฟายาส เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงพลังของการทำงานที่เกิดจากความรักและความสนใจในสิ่งที่ตัวเองหลงใหล แม้ว่าเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเลย แต่ทั้งคู่สามารถพลิกวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงโรคระบาดให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการก่อตั้ง Happy Tails ซึ่งมอบประสบการณ์พิเศษให้กับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ
พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสุนัขในช่วงที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานจากที่บ้าน แต่ยังสามารถเติมเต็มความสุขและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสุนัขและเจ้าของ รวมถึงสร้างความสุขให้กับผู้คนที่เพียงแค่ติดตามภาพและวิดีโอของน้องหมาที่กำลังมีความสุข โดยให้ความสำคัญกับการดูแลทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความสะอาด หรือการดูแลในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้า
การทำงานที่ชอบและการสร้างธุรกิจจากความหลงใหลในสิ่งที่รัก ไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจในงานที่ทำ แต่ยังสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในแบบของตัวเอง เมื่อเรามีความสุขในการทำงาน ก็ยิ่งมีพลังในการผลักดันให้ธุรกิจเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
แหล่งที่มา :