เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured SMEs เกษตร

ไม่มีที่ ก็มีสวนได้! ไอเดีย สร้างอาชีพเสริมแบบไม่ต้องรอพร้อม ‘เช่าที่ปลูกดอกไม้กินได้’ ต่อยอดเวิร์กช็อป เก็บผลผลิตขาย ทำเงินได้จริง

หลายๆ คนมักหยุดความฝัน หรือความตั้งใจ เพราะคำว่า ‘ไม่พร้อม’ 

แต่ไม่ใช่กับ ‘คุณสิ-สิรินทร์ กล้วยพนาวัน’ เธอเริ่มต้น ‘ทำเกษตร’ เป็นอาชีพเสริม จากงานเลขา แม้ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกของตัวเอง เพราะอาศัยอยู่คอนโด อีกทั้ง ไม่มีเงินทุนมากมาย แต่ก็ไม่คิดนำมาเป็นอุปสรรค

ด้วยความตั้งใจจริง เธอลงมือสร้างสวน ‘Sirin garden & edible flower’ บน ‘พื้นที่เช่า’ แม้หลายเสียงจะบอกว่า ‘บ้า’ แต่สำหรับเธอ ทุกก้าวคือการเรียนรู้ ทุกช่วงเวลาคือความสุข 

และหากรอให้พร้อม หรือรอถึงเกษียณ อาจไม่มีโอกาสได้เริ่มต้น

วันนี้คุณสิไม่เพียงแค่ปลูกเอง แต่ยังแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่น ด้วยการจัดเวิร์กช็อปและส่งต่อประสบการณ์จริง ที่สั่งสมมาตลอด 4 ปี อีกด้วย

คุณสิ-สิรินทร์ กล้วยพนาวัน
คุณสิ-สิรินทร์ กล้วยพนาวัน

อาชีพเสริมที่เริ่มต้น บนพื้นที่เช่า

คุณสิ เริ่มทำเกษตร เพราะอยากให้ลูกมีพื้นที่วิ่งเล่น มีพื้นที่ทำกิจกรรม และเลี้ยงสัตว์ตามความชอบ ซึ่งแนวคิดนี้เกิดขึ้นในช่วงโควิด จากการกลัวลูกติดหน้าจอโทรศัพท์

และด้วยไม่มีพื้นที่ของตัวเอง ‘การเช่าที่’ จึงเป็นทางเลือกที่เธอมองว่า ทุกก้าว คือการเรียนรู้ และทุกช่วงเวลาคือความสุข 

โดยเช่าที่แรก ซอยประชาชื่น 37 ข้างๆ คอนโด พื้นที่ 100 ตร.ว. ในเริ่มแรก เป็นการแบ่งพื้นที่เช่ากับน้องคนหนึ่งค่าใช้จ่ายคนละ 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นราคาที่สามารถเจียดรายได้จากงานประจำมาชำระในส่วนนี้ได้

จากนั้นได้เริ่มปลูกผักไว้กินเอง ซึ่งมีศัตรูพืชอย่าง แมลง คอยรบกวน จึงนำดอกไม้กินได้มาปลูกเสริม ทั้ง ดาวกระจาย มาร์กาเร็ต และพวงชมพู ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด

“ปกติแล้วดอกไม้มีไว้ชม แล้วปักแจกัน แต่เราจะทำยังไงให้มีรายได้ ก็น่าจะเป็นดอกไม้กินได้ ที่เราสามารถส่งต่อร้านกาแฟ ร้านอาหารและโรงแรมได้”

อีกทั้งปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก จึงหันมาเน้นปลูกดอกไม้กินได้ เพื่อสร้างรายได้แทน 

แต่ด้วยหมดสัญญา พร้อมๆ กับการเติบโตของสวน หลังต่อยอดทำกิจกรรมเวิร์กช็อป แบ่งปันความรู้ และเป็นรายได้เพิ่ม หลังจากต้องจ่ายค่าเช่าคนเดียว ปัจจุบัน จึงได้ขยับขยายมาเช่าที่ใหม่ ซอยประชาชื่น 46 ด้วยขนาดพื้นที่ 189 ตร.ว. ที่สะดวกเรื่องน้ำ-ไฟ ที่จอดรด โดยเจ้าของที่ดำเนินการให้เสร็จสรรพ

ดอกไม้กินได้
ดอกไม้กินได้

จัดสรรพื้นที่ 189 ตร.ว.

การจัดสรรพื้นที่ คุณสิ เล่าให้ฟังว่า ได้ตั้งโรงเวิร์กช็อป ไว้ด้านหน้าติดประตูทางเข้า ในส่วนของพื้นที่แดด คือแปลงปลูกดอกไม้ ลึกเข้าไปคือ ห้องน้ำ ห้องเก็บของ และบ้านเป็ด เพื่อป้องกันเสียงร้อง และกลิ่นรบกวน 

ในส่วนของโครงสร้าง เพื่อประหยัดงบได้มากที่สุด จึงนำโครงเหล็กจากสวนเก่า ย้ายมาใช้กับสวนใหม่ ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง ทั้ง ความทนทาน หรือถ้าเลิกใช้แล้ว สามารถเอาไปขายได้

ดอกไม้กินได้
ดอกไม้กินได้

การปลูกดอกไม้กินได้ 

สำหรับการปลูก คุณสิ เลือกปลูกแบบลงแปลงแทนปลูกในกระถาง เพราะรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติมากกว่า ถ้าเป็นไม้ยืนต้น จะเพาะเมล็ด ส่วนไม้ล้มลุกจะปักชำ

ซึ่งการเพาะเมล็ด จะช่วยให้ดอกไม้อยู่ได้นานขึ้น แต่อาจจะเสียเวลาในการเพาะมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความสุข ที่ได้เห็นการเจริญเติบโตของดอกไม้

โดยภายในแปลงของเธอ มีทั้ง ดอกพวงชมพู เดซี่ มาร์กาเร็ต ทานตะวัน เก๊กฮวย เข็มอินเดีย เข็มชมพูนุช เป็นต้น 

“เราจะปลูกคละกัน ตามความต้องการของลูกค้า พอทำไปเรื่อยๆ เราจะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร เพราะบางทีเราปลูกหลายชนิด มันก็ไม่ได้ตอบโจทย์ และบางชนิดก็ไม่ได้ใช้เลย”

ส่วนการดูแล จะใช้เวลาช่วงเช้า ประมาณ ตี 5 ถึง 6 โมงเช้า เข้ามารดน้ำให้พอชุ่ม ไม่ต้องแฉะมาก รอสักพัก ให้ดอกไม้แห้ง ถึงเก็บผลผลิตส่งลูกค้าก่อนไปทำงาน

การจัดส่ง ด้วยรับลูกค้าประจำบริเวณใกล้ๆ แถว พหลโยธิน ซอยอารีย์ แจ้งวัฒนะ ประชาชื่น จตุจักร จึงส่งผ่านไรเดอร์ มีทั้งเรียกให้ลูกค้า และลูกค้าเรียกเองบ้าง ตามที่ตกลงกัน โดยลูกค้ารับผิดชอบค่าขนส่งเอง

“อย่ามองว่าดอกไม้นิดเดียว จะไม่สร้างรายได้ ดอกไม้แค่ไม่กี่กระถาง มันก็เก็บเป็นรายได้ให้เรา 100-200 บาท ได้นะ ทำทุกวันมันก็คือรายได้แต่ละเดือนของเรา”

และจะเข้ามารดน้ำอีกครั้งในช่วงเย็น หลังเลิกงาน รวมถึงคอยพรวนดิน บำรุงด้วยมูลไส้เดือน ตัดแต่ง ให้แตกดอกออกมาใหม่

ในเรื่องของ แมลง ถ้าหมักดิน ก็แทบจะไม่มีแมลง 

“การหมักดิน จะใช้ขุยมะพร้าว หรือกากมะพร้าวสับก็ได้ หรือว่าใบไม้ ใบไม้แห้ง ใบไม้ทุกชนิด ขี้วัว แกลบดิบ แกลบดำ ที่จริงมีอะไรก็หมักอย่างนั้น ไม่อยากให้ทุกคนไปลงทุนเยอะ แต่ที่สำคัญ เราควรมีขี้วัว เพื่อให้มีธาตุอาหาร มีสารอาหาร”

แต่ด้วยปลูกแบบออร์แกนิก ไม่มีสารเคมี คุณสิ ย้ำว่า ก็อาจทำให้มีแมลงบ้างประปราย เช่น หอยทาก ที่มีตามฤดูกาล ถ้าเจอก็แค่เก็บทิ้ง

ดอกไม้กินได้
ดอกไม้กินได้

การหาตลาดและลูกค้า 

ในส่วนของการหาตลาดและลูกค้า คุณสิ อธิบายว่า ใช้วิธีการ ‘แบ่งปัน’ ให้ร้านกาแฟหรือคาเฟ่รอบๆ สวน ที่มีอยู่ประมาณ 5 ร้าน ได้ลองใช้ดอกไม้กินได้ 

“เราเข้าไปซื้อน้ำ แล้วก็แบ่งดอกไม้เขา ทุกคนอาจจะกังวลว่า มันจะขายได้ไหม เขาจะปฏิเสธไหม คนปฏิเสธเราก็มี ตอนนั้นก็สั่นๆ สู้ๆ เหมือนกัน แต่รู้สึกว่า ไม่เป็นไร เขาไม่เอาวันนี้ วันหน้าเขาก็เอา แล้วนับจากนั้น 5 ร้านก็เป็นลูกค้าเรา” 

จากนั้น ใช้ ‘โซเชียล’ เชื่อมโยงกับลูกค้า

คุณสิ เสริมว่า ปัจจุบันมีการใช้โซเชียลกันมากขึ้น จึงสร้างเพจเพื่อเข้าถึงลูกค้า รวมทั้งสังเกตจากหลายๆ เพจ ว่าปลูกดอกไม้อะไรกัน และติดตามเทรนด์ต่างๆ ที่สำคัญ ต้องมีตัวตน และมีสินค้าจริงให้ลูกค้า

โดยขายในราคากล่องละ 100 บาท จะได้ดอกไม้คละขนาด 50-60 ดอก และกล่องละ 150 บาท ได้ดอกไม้คละขนาด 80 ดอก 

“ตอนนี้เรามีลูกค้าประจำ 10 ร้าน ในการจัดออร์เดอร์ บางทีไม่ได้ ใส่ 50 ดอก เป๊ะๆ บางทีไม่ได้นับเลย เราจะรู้ว่าลูกค้าต้องการแบบไหน เหมือนรู้ใจเขาแล้ว ว่าใช้แบบนี้ แต่งแบบไหน 

รู้สึกว่ามันกลายเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน เราไม่ได้คิดเป็นราคาไปทุกอย่าง ถ้าดอกไม้อันไหนเหลือ หรือเยอะเกิน เหมือนพวงชมพูมีเยอะมาก ก็แบ่งเขาไป ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายอะไร แถมไป รู้สึกว่าก็ดีกว่ามันเหี่ยวอยู่ที่ต้น ให้เขาไปเพื่อใช้ประโยชน์”

เวิร์กช็อปที่สวนเก่า
เวิร์กช็อปที่สวนเก่า

ต่อยอดเวิร์กช็อป 

นอกจากปลูกเพื่อสร้างรายได้แล้ว คุณสิ ยังต่อยอดเวิร์กช็อป สอนปลูกดอกไม้กินได้ เพราะอยากแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นนำไปสร้างรายได้ ถึงมีพื้นที่เล็กๆ ก็สามารถทำได้ 

โดยเจาะกลุ่มคนที่อยากทำเป็นอาชีพเสริม วัยเกษียณ หรือกลุ่มคาเฟ่ ที่อยากปลูกดอกไม้กินได้ไว้ในร้าน 

“สอนตั้งแต่ชนิดของดอกไม้ วิธีการปลูก วิธีเพาะเมล็ด ย้ายต้นกล้า แล้วก็พวกจุลินทรีย์บำรุงต้นไม้ การตัดแต่ง ที่สำคัญ จะสอนเรื่องดินหมัก ไม่เน้นเนื้อหาเยอะ สอนเคล็ดลับมากกว่า แชร์จากประสบการณ์ที่เราเจอมาจริงๆ

ตอนแรกมีมาเรียนคนเดียว แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ คิดว่า 1 คนเขาจะเป็นครูเรา ที่เรากล้าสอน หลังๆ เริ่มมี 4 คน 5 คน 10 คน 20 คน จนถึง 30 คน”

โดยจะเปิดคอร์สเดือนละ 4 ครั้ง เสาร์และอาทิตย์ ต้นเดือนและท้ายเดือน ตั้งแต่ 08.30-11.30 น. คนละ 999 บาท หลังจากนั้นหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเข้ามาได้ตลอดเวลา ในกลุ่มปิด

4 ปี กับการทำเกษตร 

ถึงปัจจุบัน คุณสิ ยึดเกษตรเป็นอาชีพเสริมมา 4 ปีแล้ว เธอบอกถึงความภูมิใจว่า “มันเป็นวินัยมากกว่า ตอนเช้าเรามา ตอนเย็นเรามา มันอาจจะไม่ได้เป็นทุ่งดอกไม้ใหญ่โต แต่รู้สึกว่าเราก็ทำได้ ด้วยเงินที่ไม่ได้มีมาก เราจัดสรรจากการขายดอกไม้ แล้วก็แบ่งเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ สมมติว่าขายดอกไม้ได้ 1,000 บาท เราก็แบ่งมาลงทุน 500 บาท

และกลายเป็นอีกสังคมหนึ่ง ได้เจอคนที่เขาชอบเหมือนเรา ได้เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น แค่นี้ภูมิใจมากแล้ว”

Related Posts

จาก ‘โลคอล’ สู่ ‘โกลบอล’ ZENFRY เฟรนช์ฟรายด์ถั่วเขียวเจ้าแรกของโลก เริ่มต้นจาก SMEs บ้านๆ ขายออนไลน์ สู่แบรนด์ส่งออก