เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
PR News

Amity Solutions และบริษัทแม่ ปิดดีลระดมทุนรอบซีรีส์ C ได้ 2.2 พันล้านบาท มุ่งเป้าสร้างเป็น “เอไอ แชมเปียน” ของไทย

Amity Solutions และบริษัทแม่ ปิดดีลระดมทุนรอบซีรีส์ C ได้ 2.2 พันล้านบาท มุ่งเป้าสร้างเป็น “เอไอ แชมเปียน” ของไทย

อะมิตี้ โซลูชั่นส์ (Amity Solutions : ASOL) หนึ่งในผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ (Generative Artificial Intelligence : GenAI) ชั้นนำของไทยพร้อมด้วย อะมิตี้ คอร์ปอเรชั่น (Amity Corporation) บริษัทแม่ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบซีรีส์ ซี (Series C) ปิดดีลได้ที่ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.2 พันล้านบาท) เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในธุรกิจ GenAI ชั้นนำในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายมุ่งสู่บทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็น “ฮับการพัฒนา GenAI”

การลงทุนครั้งสำคัญนี้จะเป็นเงินทุนที่ช่วยสนับสนุน ASOL ด้านปฏิบัติการวิจัย AI หรือที่เรียกว่า “เอไอ แล็บส์ (AI Labs)” ของ ASOL ซึ่งตั้งอยู่ในไทย โดยมุ่งสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี GenAI นอกจากนี้ เงินทุนดังกล่าวยังจะช่วยสนับสนุนความพยายามของบริษัทในการแข่งขันกับผู้เล่นในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศที่สามารถเสริมประโยชน์ให้กันและกัน

นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหาร (Executive Chairman) และผู้ก่อตั้ง (Founder) ของ ASOL กล่าวว่า “การระดมทุนรอบนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของ ASOL รวมถึงอีโคซิสเท็ม AI ของประเทศไทย เราหวังว่า ASOL จะสามารถมีบทบาทในการช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นฮับนวัตกรรม GenAI ระดับโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการใช้ประโยชน์จากความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในระดับโลกด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย”

ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2566 AI Labs ของ ASOL ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้บริการลูกค้าโดยตรง (end customer-facing software) ด้วย GenAI ตัวอย่างอันโดดเด่น ได้แก่ อะมิตี้ บอตส์ พลัส (Amity Bots Plus) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่มีแชตบอตเลียนแบบการสนทนาของมนุษย์ผ่านการเรียนรู้ของ GenAI ส่งผลให้การให้บริการลูกค้าและผลกำไรดีขึ้น ภายใน 1 ปีหลังจากการเปิดตัวของ Amity Bots Plus ในเวอร์ชัน GenAI นั้น ไม่เพียงแต่มีการเติบโตของรายได้ประจำปี (Annual Recurring Revenue : ARR) เพิ่มขึ้น 8 เท่า แต่ยังคิดเป็น 27 เปอร์เซ็นต์ของ ARR ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้อีกด้วย

แม้ว่ารายได้ ผลกำไร และฐานลูกค้าของ ASOL จำนวนมากจะอยู่นอกประเทศไทย แต่โซลูชัน GenAI ของบริษัทก็ถูกนำไปใช้งานจริงกับธุรกิจชั้นนำของไทยหลายแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทรู คอร์ปอเรชั่น (True Corporation) ปตท. (PTT) นกแอร์ (NokAir) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) เป็นต้น

การระดมทุนในรอบนี้แบ่งออกได้ดังต่อไปนี้

– ASOL ระดมทุนได้ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.52 พันล้านบาท) นำโดย Insight Capital พร้อมด้วยนักลงทุนใหม่ และนักลงทุนเดิมอีกหลายราย

– Amity Corporation บริษัทแม่ ระดมทุนได้ 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 681.41 ล้านบาท) นำโดย SMDV ซึ่งเป็นนักลงทุนเดิม พร้อมด้วย Gobi Partners และนักลงทุนเดิมอีกหลายราย

– การระดมทุนนี้รวมถึงการกู้ยืม ซึ่งนำและจัดโครงสร้างโดย AlteriQ Global บริษัทให้สินเชื่อเอกชน (Private Credit) ที่เน้นการดำเนินการในทวีปเอเชีย

ASOL ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติในฐานะธุรกิจหนึ่งเดียวจากประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการกล่าวถึงโดย สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) ซีอีโอของไมโครซอฟท์ สำหรับผลงานของ ASOL ที่บุกเบิกด้าน GenAI ณ งาน ‘Microsoft Build 2024‘ ซึ่งเป็นงานประชุมนักพัฒนาระดับโลกของไมโครซอฟท์เมื่อไม่นานมานี้

เงินทุนจากนักลงทุนต่างประเทศจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับ ASOL ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ GenAI โดยเมื่อปี 2566 ASOL ได้แยกออกมาจากบริษัทแม่ Amity Corporation เพื่อเตรียมแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

นายเคง เถ็ก ก๋วย (Keng Teik Koay) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท หรือ กรุ๊ปซีอีโอ (Group CEO) ของ ASOL กล่าวเสริมว่า “ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมอบให้เราสะท้อนถึงศักยภาพอันมหาศาลของ GenAI และในฐานะหนึ่งในผู้นำที่โดดเด่นด้าน GenAI ของ ASOL เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเข้ามาช่วยเร่งความพยายามด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ตลอดจนการขยายโซลูชัน AI ของเราเพื่อให้บริการธุรกิจในประเทศไทยรวมถึงที่อื่นๆ มากขึ้น การลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูง และใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งจะช่วยเสริมแกร่งฐานะของเราสู่ “เอไอ แชมเปียน (AI Champion)” ของประเทศไทย”

ทั้งนี้ Vantage Capital Markets HK Limited ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ ASOL

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ โซลูชัน AI ต่างๆ ที่ครอบคลุมของ Amity Solutions โปรดเยี่ยมชมที่ https://www.amitysolutions.com/th

 

เกี่ยวกับ Amity Solutions

อะมิตี้ โซลูชั่นส์ (Amity Solutions : ASOL) เป็นกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2555 ผลิตภัณฑ์ของ ASOL ถูกนำไปใช้งานโดยบริษัทชั้นนำในประเทศไทยกว่า 50 แห่ง รวมถึงรัฐวิสาหกิจชั้นนำ หน่วยงานภาครัฐ ธนาคาร บริษัทผู้ให้บริกาด้านการเงิน บริษัทค้าปลีก และอื่นๆ อีกมากมาย ผลิตภัณฑ์หลักประกอบด้วย “อะมิตี้ บอตส์ (Amity Bots)” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแชตบอตสำหรับองค์กร “อะมิตี้ วอยซ์ (Amity Voice)” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวอยซ์บอต และ “เอโค่ (Eko)” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันสำหรับพนักงานแบบ non-desk ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ASOL ได้ปรับเปลี่ยนโฟกัสหลักไปสู่การมุ่งเน้นสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชัน Generative AI นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ SaaS ที่มีอยู่เดิมของบริษัท

เกี่ยวกับ Insight Capital

อินไซต์ แคปิทัล (Insight Capital) เป็นบริษัทอิสระที่ทำหน้าที่บริหารหุ้นนอกตลาด (Private Equity Firm) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน ก่อตั้งขึ้นในปี 2552 บริษัทบริหารพอร์ตการลงทุนรวมมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีประวัติความสำเร็จในการระบุเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงผู้นำในอุตสาหกรรม โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างเฉพาะตัว เครือข่ายที่กว้างขวาง และความเชี่ยวชาญในตลาดทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนและเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถือเป็นกลยุทธ์หลักของ Insight Capital ในการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน นอกเหนือจาก AI SaaS และแอปพลิเคชันเฉพาะทางแล้ว บริษัทยังมีบทบาทสำคัญในด้านการประมวลผล AI และโครงสร้างพื้นฐานตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ติดตามเราได้ที่ www.linkedin.com/company/insightcapm

เกี่ยวกับ Vantage Capital Markets

แวนเทจ แคปิทัล มาร์เก็ตส์ เอชเค ลิมิเต็ด (Vantage Capital Markets HK Limited : VCM) ให้บริการโซลูชันทางการเงินระดับโลกแก่ฐานลูกค้าสถาบันที่กว้างขวาง ซึ่งรวมถึงบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำ ธนาคารพาณิชย์ ผู้จัดการสินทรัพย์ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity Funds) สำนักงานจัดการทรัพย์สินของครอบครัว (Family Offices) และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Funds) บริการของบริษัทประกอบด้วยการเสนอขายและการจัดจำหน่ายในตลาดทุน การให้คำปรึกษาด้านการเงินองค์กร การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน (Wholesale Brokerage) และการดำเนินการซื้อขายผลิตภัณฑ์เงินสดและอนุพันธ์ (ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด หรือ OTC) ในสินทรัพย์หลากหลายประเภท VCM มีสำนักงานในลอนดอน ฮ่องกง โตเกียว และดูไบ ซึ่งให้บริการแก่ฐานลูกค้าทั่วโลก จุดแข็งของบริษัทอยู่ที่ประสบการณ์และคุณภาพของทีมงาน โดยได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม

 

Related Posts