การเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยม เป็นเพียงก้าวแรกสู่วงการเทรดที่ดี แต่สิ่งที่นักลงทุนทุกคนต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ การเข้าใจค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ค่า Spread” ซึ่งเป็นต้นทุนที่มักถูกมองข้าม การเข้าใจค่า Spread ไม่เพียงแต่ช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินต้นทุนการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุน และการตัดสินใจเข้าออกตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ค่า Spread คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อนักลงทุน
ค่า Spread คือ ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid) และราคาเสนอขาย (Ask) ของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น, Forex หรือสกุลเงินต่างๆ ในตลาดการเงิน โดยทั่วไปราคาเสนอขายจะสูงกว่าราคาเสนอซื้อเสมอ และส่วนต่างนี้คือ Spread ที่โบรกเกอร์จะได้รับเป็นค่าบริการ
ตัวอย่างเช่น ถ้าคู่สกุลเงิน EUR/USD มีราคาเสนอซื้อ (Bid) ที่ 1.1000 และราคาเสนอขาย (Ask) ที่ 1.1002 ค่า Spread จะเท่ากับ 0.0002 หรือ 2 pips
ทำไมโบรกเกอร์ต้องคิดค่า Spread
- ค่าตอบแทนการให้บริการ : Spread เป็นวิธีที่โบรกเกอร์จะได้รับค่าตอบแทนจากการจัดหาสภาพคล่อง และการอำนวยความสะดวกในการซื้อขาย
- ครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงาน : รายได้จาก Spread ช่วยให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของโบรกเกอร์ เช่น ค่าระบบซื้อขาย ค่าบุคลากร หรือค่าการตลาด
- การบริหารความเสี่ยง : Spread ช่วยให้โบรกเกอร์สามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในช่วงสั้นๆ
- ทดแทนการคิดค่าคอมมิชชัน : ในบางกรณี โบรกเกอร์อาจเลือกใช้ Spread แทนการคิดค่าคอมมิชชันแบบตรงๆ เพื่อให้โครงสร้างค่าธรรมเนียมดูน่าดึงดูดใจมากขึ้น
- ความยืดหยุ่นในการแข่งขัน : โบรกเกอร์สามารถปรับ Spread ได้ตามสภาวะตลาด และกลยุทธ์การแข่งขัน
ต้นทุนการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน
ค่า Spread จึงส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนการซื้อขายของนักลงทุน ดังนี้
- เมื่อเปิดสถานะซื้อ (Long) นักลงทุนต้องซื้อที่ราคา Ask ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- เมื่อเปิดสถานะขาย (Short) นักลงทุนต้องขายที่ราคา Bid ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
- การปิดสถานะใดๆ ก็ต้องรับผลกระทบจาก Spread เช่นกัน
ผลกระทบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนระยะสั้น หรือเทรดเดอร์ที่ซื้อขายบ่อยๆ เพราะ Spread จะกลายเป็นต้นทุนที่สะสม และอาจกระทบต่อผลกำไรโดยรวมได้
สรุป นักลงทุนอย่าลืมคำนวณค่า Spread
สุดท้ายนี้ การเข้าใจเรื่องค่า Spread ไม่เพียงแต่จะช่วยให้นักลงทุนประเมินต้นทุนในการลงทุนได้อย่างแม่นยำ แต่ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผน และพัฒนากลยุทธ์การลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีความเข้าใจ และคำนวณค่า Spread ถือเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ เพราะค่า Spread มีผลโดยตรงต่อต้นทุนการลงทุน และผลตอบแทนที่จะได้รับ