ซอฟต์พาวเวอร์
เจ้าของฉายา “ใช้ ดอนคิง” ที่เป็นคนไทยคนแรก สามารถขี่จักรยานยนต์คนเดียวรอบโลกมาแล้ว ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนหนึ่ง เมื่อครั้งนั้น ให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟังว่า ถ้าจะมองในแง่นิสัยการทำมาหากินแล้ว รู้สึกทึ่งคนจีน อย่างเคยขี่มอเตอร์ไซค์ไปชนบทในที่ต่างๆ ไม่น่าเชื่อ ทั้งอเมริกากลาง อเมริกาใต้ หรือแม้กระทั่งในยุโรป ตามเมืองเงียบๆ เล็กๆ กลับไปมีร้านค้าคนจีนซ่อนอยู่ แปลว่าคนจีนไปแทบทุกที่ในโลก และมีครั้งหนึ่ง เคยไปรถเสียอยู่ก่อนถึงกรุงลิมา ประเทศเปรู ได้คนจีน ให้การช่วยเหลือ สุดท้ายคุยไปคุยมา ทราบชื่อ “มิสเตอร์ไซ” เป็นเจ้าของโรงแรม เจ้าของร้านอาหารจีน อยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในประเทศเปรู แปลว่าคนจีนไปทุกที่เลย อันนี้คือเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ความขยันขันแข็ง และการมองเห็นโอกาสตลอดเวลาของคนจีนนั้น เพาะบ่มนิสัยให้ชนชาติจีนทุกวันนี้ค่อนข้างจะแข็งแรงมั่นคง คุณใช้ เล่าอีกว่า จากการไปเปิดโลกของเขา อีกอย่างหนึ่งที่มองเห็น ที่คนไทยควรภูมิใจจริงๆ คืออาหารไทย เป็นอาหารที่โม้ได้เลยว่าเป็น “นัมเบอร์วัน” ของโลกเหมือนกัน และจริงๆ แล้วเป็น Storm Power ไม่ใช่แค่ Soft หรอก เพียงแต่พวกเรามองมันเป็น Soft มาก
คุณยีน-สิริโสภา จุลเสวก หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารไทย ในเครือ “นารา” กรุณาสละเวลามานั่งพูดคุยกับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้ม เป็นกันเอง เมื่อวันก่อน โดยตอนหนึ่งของบทสนทนา ช่วงย้อนไปราว 20 ปี ตอนเริ่มต้นเปิดร้านอาหารนารา ในโรงแรมเอาราวัณ ย่านราชประสงค์ มีกระแส “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ในทำนองเป็นร้านอาหารมีเมนูเด่น เป็น “ก๋วยเตี๋ยวเรือไฮโซ” นั้น คุณยีนถึงกับยิ้มกว้าง ก่อนออกตัวเบาๆ “อย่าเรียกว่า ไฮโซ เลยค่ะ เรียกว่าเป็นการนำก๋วยเตี๋ยวเรือที่หลายคนอยากจะไปทาน แต่ค่อนข้างยากลำบากนิดหนึ่ง ที่ต้องไปข้างคลองนั่งร้อนๆ เราเลยนำขึ้นมาทานในห้าง ให้นั่งสบาย และรสชาติยังเป็นออริจินอล” “จริงๆ นารา เป็นการเจริญเติบโตแบบ ปากต่อปาก เราแทบจะไม่ทำมาร์เก็ตติ้งกันเลย เริ่มต้นอาจจะเป็นจากคน Local คนไทยที่เป็นเพื่อนๆ ญาติๆ เริ่มทานกันก่อน แล้วค่อยๆ ขยายวงกว้างออกไป ซึ่งทุกคนก็มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ เป็นปากต่อปาก ประกอบกับเราอยู่ใกล้โรงแรม จะมีคนที่พักอยู่ในโรงแรมเอราวัณ เดินผ่านเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าบ้าง ไปเซ็นทรัลเวิลด์บ้าง ก็จะผ่านร้านเรา” คุณยีน บอกมาอย่างนั้น และเมื่อนับจากวันนั้น พัฒนา
“พริกแกงไทย” ว่ากันว่าสืบเชื้อสายมาจากเครื่องแกงของเปอร์เซีย ซึ่งมีอิทธิพลมาถึงเครื่องแกงอินเดีย ไทย และประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บรรพบุรุษ ปู่ย่าตายายของไทย ท่านได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ตัด ปรับ เติม โน่นนิดนี่หน่อย จนพริกแกงไทยกลายเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย จากพริกแกงพื้นฐานนี้ ปรับ เติมอีกหน่อย ได้เป็นอาหารไทยในหลายรูปแบบ แกงคั่ว แกงเผ็ด ผัดเผ็ด ยำพริกแกง หมก นึ่ง ปิ้ง ทอด เป็นน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะก็ยังได้ พริกแกงแบบชาวบ้านขอแค่มี พริกแห้ง หอม กระเทียม ตะไคร้ กะปิ ก็ตำพริกแกงได้แล้ว ให้ครบเครื่องขึ้นมาหน่อยเพิ่ม รากผักชี ข่า ผิวมะกรูด (ปอกให้ติดสีขาวแต่น้อย มันจะขม) พริกไทย ได้เครื่องแกงคั่วเต็มสูตร พริกแห้งที่ใช้ พริกเม็ดใหญ่หรือพริกชี้ฟ้าแห้งเลือกสีแดงๆ เอาเม็ดออก หั่นชิ้นเล็กแล้วแช่น้ำ อันนี้เอาสีแดงของเครื่องแกง ส่วนความเผ็ดใช้พริกขี้หนูแห้ง เผ็ดแค่ไหนตามใจ เครื่องแกงที่ใส่เยอะหน่อยเป็น หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ตัวอื่นใส่อีกอย่างละหน่อย ขาดไม่ได้คือ กะปิ ตามนี้เรียก “พริกแกงคั่ว” คือเวลาทำแกงเราเอาพริกแกงคั่วไปคั่วกับหัวกะทิ ให้กะทิแตกมันดึงเอาสีและความหอมจากเครื่องพริกแกงออกมาถ
พลิกฟื้นภูมิปัญญา พัฒนา Soft Power หวังท้องถิ่น สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรและสมาคมท่องเที่ยวปราจีนบุรี จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอาหารเพื่อสุขภาพตำรับเมืองปราจีนบุรี และมาตรฐานนวดแผนไทย ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและอาหาร ณ ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ ต.บางเดชะ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี โดยกิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ พัฒนา Soft Power เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี นางจารุณี กาวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ สนับสนุนนโยบายปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค เน้นการส่งเสริม Soft Power ชูจุดเดินทางของประเทศไทย ส่งเสริมทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 39 ล้านคน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จังหวัดปราจีนบุรี ได้ถูกยกให้เป็น 1 ใน 4 ต้น
ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ของเอเชียได้หรือไม่? แรงบันดาลใจจากการเดินทางของ “อารี อารีจิตเสถียร” และ ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์ ในโลกที่ซอฟต์พาวเวอร์ หรืออิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ประเทศต่างๆ สร้างขึ้นไปทั่วโลก กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ดังเช่นประเทศเกาหลีใต้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ เปลี่ยนแนวเพลง K-pop ซีรีส์เกาหลีและวัฒนธรรมเกาหลีให้กลายเป็นกระแสระดับโลก แล้วถ้าประเทศไทยเดินตามรอยเกาหลีบ้างล่ะ? เราจะก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจซอฟต์พาวเวอร์แห่งเอเชียต่อไปได้หรือไม่? ในการค้นหาคำตอบนี้ True Blog ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณอารี อารีจิตเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ร่วม) แห่งทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์ ในช่วงที่เธอกำลังเตรียมเปิดตัว “Good Doctor” ซีรีส์ที่หลายคนตั้งตารอ ซึ่งดัดแปลงจากซีรีส์ฮิตของเกาหลีที่ครองอันดับ 1 ในช่วงเวลาออกอากาศเกือบตลอดทั้งเรื่อง ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์ ภายใต้การนำของคุณอารี ได้ก้าวหน้าไปอย่างมากในวงการบันเทิงไทย เปลี่ยนคอนเทนต์ของไทยให้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรม เรื่องราวของคุณอารีเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และนว
ชื่นชม ซอฟต์พาวเวอร์ตัวจริง ผู้ประกอบการสุดครีเอต จับไหมมัดหมี่ ตัดชุดมวยไทย ดร.ชญณา ศิริภิรมย์ เจ้าของแบรนด์ Chayanna Silk สร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการนำเสนองานศิลป์บนผืนผ้าไหมไทย ด้วยการผสานศิลปะสิ่งทอเข้ากับศิลปะแห่งมวยไทย ผ่านคอลเล็กชันพิเศษในงาน “มวยไทยควีน” ศึกยอดมวยไทยหญิงแห่งสยาม ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานกิจกรรม CentralWorld เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้เข้าชมกว่าพันคนทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมการแข่งขันจากนักมวยหญิงระดับประเทศถึง 11 คู่ โดย ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ผศ.พิมล ศรีวิกรณ์ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน โดย ดร.ชญณา ได้ออกแบบชุดมวยไทยลายผ้าไหมมัดหมี่ดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นราชินีแห่งดอกไม้ สีโทนเขียวไข่กา และชมพูกลีบบัว หรือชมพูพันธุ์ทิพย์ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของไทย สื่อถึงความงดงามอ่อนช้อยที่เปี่ยมด้วยความแข็งแกร่ง เป็นเอกลักษณ์ไทยที่เลื่องชื่อไปทั่วโลก เมื่อมาผสมผสานกับความแข็งแกร่งของศิลปะมวยไทย จึงตอบโจทย์ความเป็น “มวยไทยควีน” ได้อย่างลงตัว “วันนี้เรานำมาเสนอใน 2 รูปแบบคือ แฟชั่นโชว์ ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติตัดเย็บในคอลเล็กชัน Silk Move ที่ได้รับแรงบันดาลใจมา
นักธุรกิจรุ่นใหม่ เร่งยกระดับ “หอยนางรมไทย” ขึ้นแท่น Soft Power มุ่งส่งออก ร้านใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรและชาวประมงในพื้นที่ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของชุมชน ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน การจ้างงานพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่น เราสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ มีบทบาทในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาที่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งเดิมมักถูกมองว่าเป็นแค่ทางผ่านไปยังเกาะสมุย เกาะเต่า ประเทศไทย ได้ชื่อว่ามีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรด้านอาหารที่มีความหลากหลาย และมีชื่อเสียงในเรื่องของการปรุงอาหารที่มีรสชาติดีเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้ ร้านสินธุ์ ร้านอาหารท้องถิ่นระดับ Fine Dining ชั้นนำของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัล Thai SELECT Unique สำหรับร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเน้นการนำเสนอเมนูที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาค เป็น 1 ใน 5 ร้านอาหารของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว สำหรับรางวัล Thai SELECT Guide เป็นโครงการที่ริเริ่มโดย กระทรวงพาณิชย์ แห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและรับรองร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพระดับสากล และสะท้อนความเป็นไทยในรสชาติอาหาร การตกแต่ง และการบริการ โด
Chapter Market ชู Soft Power ปลุกกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอาหาร ดึงดูดฟู้ดเลิฟเวอร์ คุณณัฐลิณี เด่นเลิศชัยกุล กรรมการ บริษัท แชปเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดตัวโครงการ Chapter Market ตั้งเป้าสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นหมุดหมายใหม่ในใจนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนเมือง ตอบโจทย์คนเมืองและนักท่องเที่ยวในการกิน ช้อป และพักผ่อน แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยในระยะยาว สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกรุงเทพมหานครในการพัฒนาสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก เสน่ห์ของ Chapter Market โดดเด่นด้วยร้านค้ากว่า 80 ร้าน ซึ่งรวบรวมอาหารเลิศรส ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ ร้านกะเพราจิตสดชื่น จากเชฟไทยชื่อดังที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และ Roberta’s Pizza พิซซ่าเตาฟืนจากเชฟมิชลินอเมริกา นับเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับสตรีตฟู้ดที่ได้มาตรฐานมารวมไว้ที่นี่ เพราะอาหารไทยได้รับยกย่องให้เป็น Soft Power ซึ่งเราปลื้มใจที่ได้สานต่อนโยบายของภาครัฐบาล ที่จะพร้อมเสิร์ฟเมนูที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยและสากล เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทย
อุซเบกิสถาน ตะลึงผ้าไหมไทยสวยเกินต้าน พร้อมต่อยอดภูมิปัญญา 2 แผ่นดิน เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ชญณา ศิริภิรมย์ เจ้าของและผู้ก่อตั้ง แบรนด์ Chayanna Silk ผ้าไหมไทย Craftsmanship พรีเมียม ร่วมกับ ดร.ฉันฑิต สว่างเนตร นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ได้นำชุดผ้าไหมมัดหมี่พรีเมียม ไปจัดแสดงในงาน “Tashkent International Biennale of Contemporary Art 2024 ครั้งที่ 10” ณ กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นถิ่น Silk City ตามคำเชิญของสถานทูตอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย งานดังกล่าว จัดโดย Academic of Arts ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล Uzbekistan ภายใต้ Theme “Arts & World โดยมีศิลปินนานาชาติเข้าร่วมงาน ถึง 40 ประเทศ ดร.ชญณา กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีโอกาสพบกับ มร.ฟาคริดดิน สุลต่านอฟ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย ในการประชุมงานหนังสือเมนูอาหารนานาชาติของทูตประเทศต่างๆ ซึ่งในวันดังกล่าว ดร.ชญณา ได้สวมชุดผ้าไหมธรรมชาติ ที่ออกแบบตัดเย็บเป็นเอกลักษณ์ไปร่วมงาน ท่านกงสุลใหญ่ฯ ได้เห็นแล้วเข้ามาทักทายและชื่นชมว่าเป็นผ้าไหมที่งดงาม ยิ่งเมื่อทราบว่าเป็นผ้า
สมุนไพรไทย ซอฟต์พาวเวอร์ของชาติ เร่งต่อยอด คืนความร่ำรวยให้แผ่นดิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประเมินถึงภาพรวมธุรกิจสมุนไพร พบว่า ปัจจุบันธุรกิจสมุนไพรเป็นโอกาสของผู้ประกอบการรายย่อยของไทยในการเข้าทำธุรกิจ สามารถเปลี่ยนภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ผู้เล่นในตลาดอุตสาหกรรม โดยหยิบยกมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลกปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 1.99 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าปี 2576 มูลค่าจะอยู่ที่ 4.17 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าตลาดเติบโตทุกปี และเป็นตลาดใหญ่ และมีการแข่งขันกันสูง ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งถือเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของการผลักดันสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติ ระบุว่า อภัยภูเบศร ไม่เคยมองใครเป็นคู่แข่ง แต่อยากให้เมืองไทยมีผู้ประกอบการสมุนไพรมากๆ เพื่อตลาดสมุนไพรจะได้เติบโต เพราะเกษตรกรจะได้ประโยชน์จากการกิน ใช้ สมุนไพรของประชาชน ข้อดีของประเทศไทยคือ มีความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาสูงมาก หากเราสามารถทำสิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดิน และสร้างประโยชน์ได้ เราก็ควรจะช่วยกัน เพราะฉะนั้น จึงไม่รู้สึกว่า เราจะต้องได้ส่วนแบ่งตลาด