ไปรษณีย์ไทย
เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน x ไปรษณีย์ไทย นำร่อง 45 แห่ง อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท เคทีซีเดินหน้าสร้างโอกาสทางการเงินให้กับคนไม่ท้อ ผนึกความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยเปิดโครงการนำร่อง ขยายช่องทางให้คนไทยเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ได้สะดวก รวดเร็ว ครบจบ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย 45 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ผ่านเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ เพียงลูกค้าเตรียมเอกสารสมัครให้พร้อม อนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที วงเงินใหญ่สูงสุด 1 ล้านบาท ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน พร้อมตั้งเป้า ปี 68 ยอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 3 พันล้านบาท นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2568 นี้ สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังมีการชะลอตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย อย่างไรก็ดี พอร์ตสินเชื่อธุรกิจ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ในปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่เน้นการเติบโตในเชิงคุณภาพตั้งแต่การคัดกรอง
สมัครฟรี! 3 ขั้นตอนง่ายๆ เปิดร้านค้าออนไลน์ ขายของกับ “ไปรษณีย์ไทย” Thailandpostmart เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ ไปรษณีย์ไทย ในรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขายทุกคนสามารถนำสินค้ามาวางขายได้อย่างง่ายดาย แถมการจัดส่งสินค้ายังสะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าที่มีอยู่แล้ว โดยการสมัครสมาชิกสามารถทำได้ง่ายๆ บนเว็บไซต์ Thailandpostmart และกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ระบบกำหนด ก็สามารถเริ่มสร้างร้านค้าได้ทันทีบนแอปพลิเคชัน Thailandpostmart สมัครฟรีได้ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน สามารถลงสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวนชิ้น เข้าเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com กดปุ่ม ‘ติดต่อขายสินค้า’ ขั้นตอนที่ 1 สร้างบัญชีร้านค้า 1.1. สามารถเลือกได้ว่า จะเปิดเป็น ‘ร้านค้าทั่วไป’ หรือ ‘ร้านค้าชุมชน’ 1.2. เลือกประเภทบุคคล ‘บุคคลธรรมดา’ หรือ ‘นิติบุคคล’ และเรื่องข้อมูลร้านค้า ถ้าหากไม่มีชื่อร้านค้าปรากฏอยู่ให้เลือกที่อื่นๆ 1.3. ข้อมูลร้านค้า สำหรับ url ให้ใส่เป็นภาษาอังกฤษ ห้ามเว้นวรรค ขั้นตอนนี้สำคัญมา
ไปรษณีย์ไทยเปิดคาเฟ่! ปรับตัวตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทำแอปช้อปปิ้งสินค้าไทย ส่งฟรี EMS ย้ำ เขียนที่อยู่ผิดก็ส่งถูก ไปรษณีย์ไทย องค์กรเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมานานแสนนาน ปัจจุบันได้มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการ โดยล่าสุด ไปรษณีย์ไทยได้แตกไลน์ธุรกิจ เปิดคาเฟ่ อีกทั้งยังมีการทำแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง นับ 1 ถึง 100 ล้าน กับซ้อการ์ด Love Potion แบรนด์สินค้าที่ใช้ความจริงใจนำทาง กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย “ขนมจีบป้าพิณ ลำภูรา” OTOP 5 ดาวเมืองตรัง ทำอย่างไร? ให้ขายได้หมื่นชิ้น/วัน! กรี๊ดหนัก โลตัส เล่นใหญ่ ดึง “กงยู” ร่วมกิจกรรมพิเศษ ฉลองครบรอบ 30 ปี “ส่งผิดไม่ต้องห่วง” หนึ่งในปัญหาที่พบเจออยู่บ่อยๆ ในการส่งพัสดุ คือการเขียนที่อยู่ผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ หรือเลขที่บ้าน แต่พี่ไปรษณีย์ไทย ทำให้ปัญหานั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะพวกเขามีระบบที่สามารถค้นหาที่อยู่ได้อ
เปลี่ยนพื้นที่หน้าบ้านเป็นจุดรับส่งพัสดุ! มัดรวมแพ็กเกจ 4 ขนส่งเจ้าดัง งบน้อยก็ทำได้ ลงทุนเริ่มต้น 0 บาท หากคุณมีพื้นที่ว่างหน้าบ้าน หรือพื้นที่ว่างหน้าร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ฯลฯ แต่อยากหารายได้เสริม การเปลี่ยนที่ว่างเป็นจุดรับ-ส่งพัสดุ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลองทำ เพราะไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ และสามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก อีกทั้งมีผลกำไรตอบแทน โดยเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้รวบรวม แบรนด์ขนส่งพัสดุ ที่เปิดให้ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ มีดังนี้ ไปรษณีย์ไทย ไปรษณีย์ไทย เปิดจุดส่งด่วนไปรษณีย์ไทย โดยหาร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านเสริมสวย ร้านสะดวกซื้อ ร้านบริการซักแห้ง ที่ต้องการปันพื้นที่ว่าง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนหน้าร้าน หรืออื่นๆ มาให้บริการฝากส่งสิ่งของ/พัสดุแบบ EMS (EMS Point) คือการฝากส่งสิ่งของเข้าสู่ทางไปรษณีย์ ด้วยอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่าย ได้รับค่าตอบแทนต่อชิ้น 5-40 บาท ทันทีที่ฝากส่ง แพ็กเกจการลงทุน ลงทุน 0 บาท ไม่คิดค่าธรรมเนียมแรกเข้า ได้รับอุปกรณ์อื่นๆ ตกแต่งหน้าร้านฟรี ประกอบด้วย ธงญี่ปุ่น ป้ายอัตราค่าบริการ ให้แก่ร้านค้าที่ร่วมเปิดบริการและสามารถรับค่าตอบแทนได้ทันทีเมื่อ
หยิบเอา ปลาตะเพียน มาแปรรูปเป็น ปลาส้ม สร้างรายได้ เลี้ยงชีพ พึ่งพาตน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านห้วยหมากหล่ำ จ.อุดรธานี เกิดจากการรวมกลุ่มของสมาชิก ในชุมชนหมู่ที่ 6 ชุมชนบ้านห้วยหมากหล่ำ จ.อุดรธานี ดำเนินการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนภายใต้การดูแลของสำนักงานเกษตรอำเภอโนนสะอาด และได้การรับรองกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 รหัสทะเบียน 4-41-05-04/1-0027 มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกลุ่มเพื่อสร้างรายได้และอาชีพให้แก่สมาชิกกลุ่ม เนื่องจากชุมชนบ้านห้วยหมากหล่ำ มีฐานะยากจน ไม่มีพื้นที่ในการประกอบอาชีพ ดังนั้น หากเกิดการรวมกลุ่มและสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปจำหน่าย ก็สามารถที่จะสร้างรายได้เลี้ยงชีพแก่สมาชิกในกลุ่มได้ และสามารถสร้างอาชีพพึ่งพาตนเองได้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 วิสาหกิจชุมชนได้รับความรู้จากการอบรมการแปรรูปปลาส้ม จัดโดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ให้การสนับสนุนความรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้การแปรรูปปลาส้มจากปลาตะเพียนให้แก่สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และครู-นักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไปรษณีย์ไทย บ้านห้วยหมากหล่ำ นอกจากนี้ มีหน่วยงานที่เข้าร่วมก
ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย และเอช เซม มอเตอร์ (HSEM) นำร่องโครงการ WATT’S UP แพลตฟอร์มให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Bike แบบครบวงจร สามารถจองและจ่ายเงินได้ภายในแอปเดียว เริ่มใช้กับพนักงานไปรษณีย์ไทย 3 สาขา ตั้งเป้าเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้แพลตฟอร์ม WATT’S UP ภายในต้นปี 2567 วันที่ 19 กันยายน 2566 ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าสร้าง Green Ecosystem ผ่านโครงการ GO GREEN Together ซึ่งมีการสนับสนุนการใช้ EV Bike อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ธนาคารมีโครงการให้เช่า EV Bike หลากหลายแบรนด์ใน K PLUS Market ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มไรเดอร์กว่า 6,000 ราย เป็นการสะท้อนความต้องการใช้ EV Bike ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงต่อยอดพัฒนาโครงการ WATT’S UP ซึ่งเป็น e-Marketplace แพลตฟอร์มให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร จอง-จ่าย-จบครบในแอปพลิเคชั่นเดียว โดยมีรุ่นรถให้เช่าหลากหลาย ชำระเงินสะดวกหลากหลายช่องทางรวมถึง K PLUS และนำแบตเตอรี่มาสลับ ณ ตู้สลับแบตเตอรี่ที่รองรับแอปพลิเคชั่น WATT’S UP ได้ตลอดระยะเวลาการเช่า ซึ่
มูเก็ตติ้งยังฮอต! เปิดทริกครีเอต “สินค้าสายมู” เจาะผู้ซื้อนิวเจน ตอบโจทย์คนยุคมัลติเวิร์ส ไม่ว่าจะปีไหนๆ คนไทยก็ยังให้ความนิยมกับการ “มูเตลู” อยู่เสมอ เช่นเดียวกับในปี 2566 นี้ที่หลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ยังคงให้ความสนใจกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องรางของขลัง ความเชื่อเรื่องสีเสื้อนำโชค ฯลฯ และเทรนด์การมูเตลูยังเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจต่างๆ นำความคิดสร้างสรรค์มาผสมผสานกับความเชื่อ ทำให้ทุกวันนี้เครื่องรางต่างๆ มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน เครื่องสำอาง ศาลเจ้าพกพา ฯลฯ ซึ่งต่างจากอดีตที่ส่วนใหญ่จะมีเพียงพระเครื่องหรือสายสิญจน์ติดตัวเท่านั้น วันนี้เราจะพาไปอัปเดตไอเทมโดนๆ แบบที่ดีไซน์ก็ดี เสริมดวงก็ปัง เรื่องรักก็สมหวัง ถูกใจคนรุ่นใหม่จนออกมาเป็นสินค้าดีไซน์เก๋เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัล ดังนี้ เครื่องประดับ แฟชั่นเสริมดวง เครื่องประดับ อย่างสร้อยหรือกำไลจัดให้เป็นอันดับต้นๆ ในยุคนี้ที่สายมูต้องไปตำ ถือเป็นไอเทมสายมูยอดนิยมของวัยรุ่นและคนวัยทำงาน หากจะพกของบูชาแบบเดิมอาจไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ดังนั้น การใส่เครื่องประดับสายมูที่มีสไตล์แฟชั่นมินิมอลหรือ
แนะทริก 4 ส. เปิดแผงออนไลน์ เจาะกลุ่มนักช้อปวัยเก๋าอย่างไรให้อยู่หมัด! เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศไทย ซึ่งในช่วง 2-3 ปีมานี้จะเห็นได้ว่า ไทยเรามีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค แต่ถึงแม้ว่าปริมาณวัยเก๋าจะมากขึ้น สกิลการเท่าทันเทคโนโลยีกลับพบว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อคนวัยนี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยกำลังซื้อและการปรับตัวเป็นพลเมืองดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น จึงนับเป็นโอกาสของผู้ประกอบการหลายๆ คน ที่จะมาทำสินค้า บริการ หรือแพ็กเกจจิ้งเพื่อตอบโจทย์บรรดาคนวัยเกษียณ แต่ในการจะเข้าถึงกลุ่มคนดังกล่าวหลายคนก็อาจไม่รู้ว่าต้องเริ่มตรงไหน หรือต้องใช้กลยุทธ์อะไรที่จะมัดใจฐานลูกค้าเหล่านี้ให้อยู่หมัด ส. สินค้าถูกใจ ขายได้ทันที ถ้าอยากขายได้ ต้องขายในสิ่งที่ลูกค้าอยากซื้อ การศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้สามารถจัดเตรียมสินค้าได้ถูกใจและตรงความต้องการ โดยสินค้าที่วัยเกษียณให้ความสนใจ 4 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มสินค้าสุขภาพ เช่น วิตามิน, อาหารเสริม, สมุนไพร รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย กลุ่มสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า และเครื่องประดับ กลุ่มสินค้าบิวตี้ เช่น สกินแคร์ และน้ำหอม กลุ่ม
หญิงแกร่งแห่งการนำจ่าย! “ตาโต ศรินยา” เจ้าหน้าที่ผู้ส่งความสุขถึงทุกบ้าน แม้พื้นที่ห่างไกล “หมู่บ้านอุ้มผางคี” ฟังดูชื่อนี้อาจไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก ตั้งอยู่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของขุนเขายากต่อการเข้าถึง ประกอบไปด้วยหมู่บ้านของชนเผ่ามากมายหลายหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอ แต่ไม่ว่าจะยากต่อการเข้าถึงเพียงใด ไปรษณีย์ไทย หน่วยงานการสื่อสารและขนส่งหลักแห่งชาติที่ให้บริการคนไทยเสมอมา ยังคงทำหน้าที่ในการนำส่งจดหมาย เอกสารสำคัญ พัสดุ และทำให้ความห่างไกลไม่เป็นอุปสรรคในทุกๆ เส้นทาง ซึ่งมีสิ่งที่ทุกคนคุ้นชิน และผูกพันกันเป็นอย่างดีก็คือ พี่ไปรฯ หรือบุรุษไปรษณีย์ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผู้ทำหน้าที่ส่งสาร แต่ยังเป็นผู้ส่งสัมพันธภาพอันดี และเป็นหนึ่งในอาชีพที่ผู้คนในทุกพื้นที่ให้ความไว้วางใจทั้งในด้านความชำนาญเส้นทาง การรู้ความต้องการของทุกบ้าน รวมทั้งความมานะที่จะเข้าถึงทุกที่แม้ว่าเส้นทางนั้นจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม เช่นเดียวกันกับ คุณตาโต-ศรินยา ธรรมสงบยิ่ง พี่ไปรฯ หญิงแกร่งแห่งพื้นที่อุ้มผาง จ.ตาก ที่ปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ส่งความสุขให้กับคนในชุมชน
จากร้านแผงขายตลาดนัด สู่ เมาดอกไม้ แบรนด์กางเกงยีนส์ ผู้นำแฟชั่นเอวสูง การันตีหุ่นแบบไหนก็ใส่ได้ “ส่วนตัวเป็นคนชอบหากางเกงยีนส์มือสองที่ทรงสวยๆ จนรู้แหล่งของสินค้า เลยลองเอากางเกงยีนส์มือสองมาขาย ด้วยความชอบของเราก็ไปเลือกหากางเกงแบบต่างๆ ให้หลากหลาย พัฒนามาเรื่อยๆ จนมีฐานลูกค้ามากขึ้น จากตั้งแผงขายที่ตลาดนัด จนมีหน้าร้าน ลูกค้าหลายคนแนะนำว่า ทำไมไม่ทำกางเกงยีนส์ของตัวเองขึ้นมาขาย เราเลยเริ่มต้นทำกางเกงยีนส์แบบต่างๆ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ เมาดอกไม้” คุณแจ๊ค-ธนดล พลธนาภัส เจ้าของแบรนด์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นแบรนด์กางเกงยีนส์ ก่อนเล่าย้อนถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ เมาดอกไม้ ให้ฟังอย่างละเอียดยิ่งขึ้นว่า เมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อนๆ และคนรอบตัวต่างชื่นชมว่าตัวเองเป็นคนแต่งตัวเก่ง นำเสื้อผ้ามิกซ์แอนด์แมตช์ ได้อย่างลงตัว เมื่อมีเสื้อผ้าที่บ้านจำนวนมากจึงมีโอกาสเอาเสื้อผ้าของตัวเองไปเปิดท้ายขายของที่ตลาดนัด ทำให้รู้ตัวว่าการขายเสื้อผ้าคือสิ่งที่ใช่ จากการขายหน้าร้าน คุณแจ๊คเริ่มหันมาจับช่องทางออนไลน์ เริ่มขายช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยเริ่มมองเห็นเทรนด