แพรนวลสั่งแหลมทองให้ปลุกเธอตอนเจ็ดโมงเช้า เพื่อจะไปรับปราณีที่สนามบิน จากนั้นจึงขึ้นไปนอนบนเตียง ไม่นานนักเธอก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องหลาวเปิง ซึ่งเป็นเวลาสี่โมงเย็น
แพรนวลเดินงัวเงียไปเข้าห้องน้ำ ตกใจจนตาสว่าง เมื่อเห็นหวาวเปิงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยืนเปลือยท่อนบนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ แพรนวลจะเดินหนี แต่หลาวเปิงรีบเข้ามากอดด้วยความดีใจ
“แม่หญิงกลับมาแล้ว”
“ปล่อยฉันค่ะ”
“ผมคิดถึงแม่หญิงแทบขาดใจ”
หลาวเปิงแต่งตัวและออกมานั่งคุยกับแพรนวลที่เตียง
“ถ้าไม่ได้อ่านจดหมายของยายกิ่งแก้ว ผมคงไม่เชื่อว่านายต่วนเป็นพ่อคุณ และครอบครัวซานแปงเป็นญาติคุณ”
“ฉันรู้เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวียงขิน จากกาลเวลาของฉัน”
Advertisement
หลาวเปิงหันมากอดแพรนวลไว้ ต้องการยับยั้งไม่ให้เธอหลุดปากพูดออกมา
“อย่าเล่าให้ผมหรือใครฟัง..สิ่งที่รับรู้ในกาลเวลาของแม่หญิงกำหนดชะตาของผมแล้ว”
“แต่ฉันอยากช่วยคุณ”
“ช่วยอยู่กับผม..รักผม..ทำให้ใจผมเต้นแรงเมื่อมีแม่หญิงข้างกายได้ไหม”
แพรนวลสบตาหลาวเปิง สายตาของเธอสับสนเพราะปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้เลยว่าความรู้สึกที่มีให้หลาวเปิงนั้นคือความรัก แต่เมื่อคิดถึงเจ้านางเรืองระยับ แพรนวลพยายามปิดกั้นความรู้สึกของตัวเอง
“ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับฉัน เรามีคู่แล้ว”
“เสียงในน้ำทำให้ผมเชื่อว่าเราเกิดมาคู่กัน”
“เสียงอะไรคะ”
“กาลเวลาคือสายน้ำวน เมื่อวนลงไปสู่ก้นบึ้งแล้ว..”
“คุณได้ยินเหมือนฉัน”
“เตียงอาถรรพ์ ดอกลั่นทม นาฬิกาคู่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..เสียงลึกลับเตือนให้เราหยุดตั้งคำถามของกาลเวลา ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แม่หญิงกำลังจะหย่า ผมจะรอวันที่แม่หญิงเป็นอิสระ”
“อิสระ..ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ลืมฉันเถอะค่ะหลาวเปิง”
“ความรักของทุกคนไม่เหมือนกัน..บางคนอาจรักใครได้ทีละหลายๆ คน แต่ผมรักแม่หญิง ได้แค่คนเดียวเท่านั้น”
“วันหนึ่ง..ฉันอาจหายไปตลอดกาล”
“ความสุขที่ได้รักแม่หญิงจะอยู่กับผมชั่วนิรันดร์”
“หลาวเปิง..” แพรนวลน้ำตาคลอ ซาบซึ้งในรักอันมั่นคงที่หลาวเปิงมีให้เธอ
หลาวเปิงดึงตัวแพรนวลมากอด อ้อมอกของเขาแผ่ความอบอุ่นมาถึงร่างกายเธอจนสุดจะต้านทานแรงปรารถนาแห่งหัวใจตัวเองได้
แพรนวลยอมซบหน้าลงบนอกของหลาวเปิง น้ำตาไหลพรากด้วยความสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรกับรักที่ยากจะถอนตัว
เจ้านางตองริ้วชวนแพรนวลไปดูซ้อมรำนกยูง ซึ่งช่างฟ้อนจะไปรำที่วัด ในช่วงที่นำกลองมังคลาไปถวายวันแต่งงาน เพราะเจ้านางจามรีจะมาร่วมชมด้วย
เมื่อไปถึงก็พบว่าเจ้านางจามรีนั่งชมอยู่กับหลาวเปิง เจ้านางเรืองระยับ ซานแปง เหล่านางในหอหลายคนนั่งพับเพียบอยู่บนสนามหญ้า
เจ้านางจามรีสังเกตเห็นหลาวเปิงนั่งมองแต่แพรนวล ก็รู้สึกเห็นใจเจ้านางเรืองระยับ จึงตัดสินใจถาม
“วางแผนงานแต่งงานของตัวเองไว้บ้างรึยัง”
เจ้านางเรืองระยับยิ้มหน้าบานเมื่อเจ้านางจามรีปูทางให้เธอ หลาวเปิงอึดอัดใจ ไม่อยากพูดเรื่องแต่งงาน
“ยังครับ”
“อยากจัดพิธีแบบไหน”
“แล้วแต่เจ้าย่าเถอะครับ”
“ย่าไม่ใช่คนแต่ง จะให้คิดแทนได้ยังไง”
“พี่หลาวเปิงยุ่งเตรียมงานให้ตองริ้ว เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องของตัวเองน่ะค่ะ”
“งั้นย่าอนุญาตให้เรืองระยับเตรียมงานแต่งงานได้เลย อยากจัดงานแบบไหน อยากได้อะไรก็มาบอกย่า”
เจ้านางเรืองระยับคลานเข้ามากราบแทบตักเจ้านางจามรีอย่างดีใจ หลาวเปิงนั่งเงียบ สีหน้าเครียด
เจ้านางจามรีลูบหัวเจ้านางเรืองระยับด้วยความเมตตา ก่อนจะหันมาหาแพรนวลอย่างนึกขึ้นได้
“เธอหายดีแล้วใช่ไหม”
“สบายดีแล้วค่ะ”
“ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยคุ้มครองเธอ…ถ้ามีคนไทยเป็นอันตรายที่นี่สถานการณ์บ้านเมืองคงแย่กว่าเดิม”
“พี่หลาวเปิงไม่ปล่อยให้คุณแพรนวลเป็นอันตรายหรอกค่ะ”
เจ้านางเรืองระยับจ้องแพรนวลด้วยสายตาอาฆาตชิงชัง
ระหว่างที่ทุกคนไปดูการร่ายรำ เจ้านางเรืองระยับแอบเข้าไปในห้องหลาวเปิง พร้อมกระติบสานใส่แปงป่องที่ใช้บุญเพ็งไปหามาให้ ตรงไปที่ชุดผ้าไหมแพรสีแดงของเจ้านางตองริ้วที่พาดวางอยู่บนโต๊ะในห้อง แล้วเปิดฝาเทแมงป่องลงในผ้าถุง แล้วเอาเสื้อผ้าไหมสีแดงกลับมาวางทับตัวแมงป่องไว้
“อาถรรพ์ไม่มีจริง คราวก่อนก็แค่ฝัน..หลาวเปิงเป็นของฉัน เตียงก็เป็นของฉัน”
เจ้านางเรืองระยับข่มความกลัวในใจ นอนลงบนเตียงหลาวเปิงแล้วหลับไป เจ้านางเรืองระยับฝันว่ายืนอยู่ริมน้ำเชี่ยวกราก เห็นคนงานหลายคนบรรทุกไม้บนเรือผ่านมาพอดี ทันใดนั้นสายน้ำเชี่ยวบังเกิดเป็นวังน้ำวน น้ำนั้นดูดเรือลงไป เสียงคนงานร้องโหยหวน ด้วยความหวาดกลัวมาก
“ช่วยด้วย..ช่วยด้วย..”
เจ้านางเรืองระยับ เห็นคนงานต่างตะเกียกตะกายว่ายน้ำเข้าฝั่ง แต่กลับถูกน้ำวนดูดกลืนร่างจมหายไปทีละคน ต่อหน้าต่อตา เธอตกใจมากจะวิ่งหนี มีมือลึกลับโผล่ขึ้นมาจากน้ำ คว้าหมับที่ข้อเท้าของเธอ แล้วกระชากลงน้ำ เจ้านางเรืองระยับตกใจสุดขีด กรี๊ดลั่น
ทองเพ็งเขย่าตัวปลุกเจ้านางเรืองระยับที่นอนหลับตาดิ้นตะเกียกตะกายบนเตียง สองมือพยายามไขว่คว้าหาที่ยึด เหมือนคนจมน้ำใกล้จะหมดลมหายใจ
“เจ้านางเป็นอะไรคะ เจ้านาง..”
ทองเพ็งเขย่าตัวเจ้านางเรืองระยับสุดแรง ทำให้เจ้านางเรืองระยับสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมา
“อย่ามาจับตัวฉัน ออกไป”
เสียงคนงานร้องโหยหวน ระคนเสียงลมหวีดหวิวน่าขนลุกดังก้องกังวานหลอนโสดประสาท เจ้านางเรืองระยับกรีดร้องเสียงดัง วิ่งหนีออกไปจากห้อง ทองเพ็งตกใจมาก รีบเก็บกระติบสานวิ่งตาม
หลาวเปิงกับเจ้านางตองริ้วช่วยกันประคองเจ้านางจามรีเข้ามาในหอคำ แพรนวล ซานแปง จันสมและนางในหอเดินตามหลัง ได้ยินเสียงกรีดร้องของเจ้านางเรืองระยับดังมาจากชั้นบน ไม่นานเจ้านางเรืองระยับก็วิ่งลงมาอย่างตื่นตระหนก โผเข้ากอดหลาวเปิงจนตัวสั่น
“หลาวเปิงช่วยฉันด้วย”
“มีอะไร”
“เตียงหลอนค่ะ มันเป็นเตียงผีสิง ฉันเดินผ่านห้องหลาวเปิง ได้ยินเสียงลมตีหน้าต่างก็เลยเข้าไปปิดให้ แล้วเตียงมันหลอน ฉันเห็นวังน้ำวนดูดเรือลงไป คนจมน้ำตายเต็มไปหมด”
เจ้านางเรืองระยับหวาดกลัวมาก แต่ยังมีสติเล่าไม่ให้ถูกจับได้ แพรนวลกับหลาวเปิงสบตากัน ทั้งสองจำคำบอกเล่าในจดหมายของกิ่งแก้วได้เป็นอย่างดี
“เหลวไหล” หลาวเปิงดันเจ้านางเรืองระยับออกห่างจากเขาอย่างไม่พอใจ
“มันน่ากลัวจริงๆ คุณต้องทิ้งเตียงหลังนั้นซะ”
“เตียงเป็นของขวัญล้ำค่าที่เจ้าพ่อเมืองบุญประทานให้ อย่าพูดแบบนี้ให้ผมได้ยินอีก”
“เรืองระยับไม่ได้โกหกนะคะเจ้าย่า”
“ย่าก็เคยได้ยินพวกนางในหอพูดถึงเตียงอาถรรพ์ของหลาวเปิงหลายคน..แพรนวลไม่ถูกเตียงหลอนบ้างเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
เจ้านางจามรีมองแพรนวลด้วยความประหลาดใจ
“ธรรมดามีแต่เจ้าของ..ที่จะนอนบนเตียงนั้นได้โดยไม่เป็นอะไร”
ทุกคนต่างมองมาที่แพรนวลเป็นตาเดียว แปลกใจที่แพรนวลไม่เคยถูกเตียงหลอน เจ้านางเรืองระยับยิ่งแค้นแพรนวลมาก
แพรนวล เจ้านางตองริ้ว ช่วยเจ้านางเรืองระยับเลือกผ้าตัวอย่างสำหรับตัดชุดเจ้าสาว
“ผ้าสวยแปลกตาทั้งนั้นเลย”
“พี่ซื้อมาจากลอนดอนตั้งแต่กลับจากอังกฤษคราวก่อน”
“เตรียมพร้อมมาก” ซานแปงสีหน้าเบื่อหน่าย ขณะช่วยเลือกผ้าสำหรับตัดชุดเจ้าบ่าวแทนหลาวเปิง
“การแต่งงานของฉันกับหลาวเปิงเป็นคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทั้งสองเมือง ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย”
เจ้านางเรืองระยับตั้งใจพูดกระทบซานแปงกับแพรนวลกลายๆ ก่อนปรายตาบอก
“ขอบใจที่ช่วยเลือกผ้าตัดชุดแต่งงานให้ฉัน”
“ยินดีค่ะ”
“เจ้าฟ้าเฒ่ามีชายาที่ดีหลายพระองค์ ถ้าหลาวเปิงอยากได้แพรนวลเป็น ภรรยารอง ฉันก็จะรับไว้พิจารณา”
จันสมรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงเย้ยหยันของเจ้านางเรืองระยับ ทองเพ็งแอบยิ้มสะใจ ซานแปงไม่พอใจแทนแพรนวล แต่ถูกเจ้านางตองริ้วส่งสายตาปรามไว้
“เก็บความหวังดีของเจ้านางไว้เถอะค่ะ ฉันไม่อยากเป็นภรรยารองของใคร”
“ไม่อยากเป็นรองหรืออยากครอบครองไว้คนเดียว”
“อะไรที่ไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่เอา แต่ถ้าไม่ใช่ของเจ้านาง เจ้านางก็ไม่มีวันได้”
แพรนวลตอกกลับเจ้านางเรืองระยับอย่างเหลืออด ซานแปงกับจันสมแอบเชียร์แพรนวลเงียบๆ เจ้านางเรืองระยับจ้องแพรนวลเขม็ง กำผ้าสองผืนในมือแน่นจนสั่น ก่อนจะยกผ้าสองผืนนั้นขึ้นมาเทียบกันให้แพรนวลดู
“ผ้าสองผืนสีสันและเนื้อผ้าเหมือนกัน..แต่ผืนนี้ฝีมือการทอประณีตกว่าผู้หญิงสองคนสวยเก่งเหมือนกัน แต่อีกคนคู่ควรมากกว่า..ถ้าเป็นเธอจะเลือกอะไร”
แพรนวลนิ่ง พยายามกล้ำกลืนฝืนทนอย่างถึงที่สุด
/////////////////////
อ่านย้อนหลัง