เราทุกคนจดจำเขาได้ในฐานะนักแสดงตลก แต่เขากลับมีหลายอย่างที่มากกว่านั้นในหลายๆ มุม ทั้งการเป็นดารา นักแสดง รับบทเป็นพิธีกร เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เอ็มวีเพลง รายการทีวี และอื่นๆ อีกหลายอย่าง
แต่ยังมีอีกมุมที่หลายคนอาจจะพอเห็นผ่านตามาบ้าง นั่นคือ นักธุรกิจ
น้ำปลาร้าตราหม่ำแซ่บ ของ หม่ำ จ๊กมก ร่วมมือกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง นับเป็นสินค้าที่ไม่ผิดคาดจากตัวเจ้าของแบรนด์ไปไม่แต่น้อย เพราะเมื่อนึกถึง หม่ำ จ๊กมก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา คำว่าอีสานก็จะลอยเข้ามาในหัวทันที
วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาทุกคนไปสำรวจจุดเริ่มต้นกับมุมของนักธุรกิจน้ำปลาร้าหม่ำแซ่บว่ามีแนวคิด และวิธีการอย่างไรก่อนจะมาเป็นผลิตภัณฑ์นี้
คุณหม่ำ เล่าว่า ด้วยความที่เขาเป็นคนอีสานกินปลาร้ามาตั้งแต่เด็กจนโต มักคุ้นชินกับการกินปลาร้าดิบมากกว่าการต้มสุก เขาเริ่มหันมาทดลองกินปลาร้าสุก พร้อมกับลองหมักปลาร้าด้วยปลาหลายชนิดแล้วเริ่มเปลี่ยนวิธีการกินของตัวเองมาเรื่อยๆ ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
“ผมเป็นคนที่กินปลาร้าอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนกินดิบมาตลอดก็ลองคิดว่าถ้าเอามาต้มสุกจะเป็นยังไงวะ มันจะเหมือนที่เราจกกินในไหหรือเปล่า มันจะเหมือนบ้านเรากินเป็นต่อนๆ หรือเปล่าวะ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกไม่ชอบอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน พอหลังๆ มารสชาติมันก็เหมือนกันนี่หว่า เพียงแค่มันสุกแค่นั้นเอง
ซึ่งบางคนไม่เคยกินปลาร้าดิบก็ไม่อยากกิน แต่พอมันสุกแล้วมันผ่านความร้อนที่ถูกวิธีทางวิทยาศาสตร์ เป็นแนวใหม่ของกับกินของเรา
เหมือนกัน ที่เมื่อก่อนเรากินอาหารฝรั่งที่ไหนกันล่ะ รวมถึงคนที่ไปกินไก่ในห้างด้วย สมัยก่อนเขากินไก่กับข้าวนะ กินไก่กับข้าวเหนียว กินไก่กับข้าวสวยราดน้ำปลา ราดซอสอะไรก็ว่าไป เดี๋ยวนี้กินไก่เฉยๆ วิธีกินมันจะแตกต่างกันออกไป
แล้วแต่ก่อนเราต้องทำกินเอง เดี๋ยวนี้โทรกริ๊งเดียวก็มาส่งแล้ว อยากกินไก่ทอดก็สั่งมา หรือไก่ดิบลากไปกินในน้ำก็สั่งมาแล้วแต่เลย อยากกินอะไรมึงก็กินไป (หัวเราะ) มันสะดวกสบายขึ้น ทำให้วิธีคิดเราเปลี่ยน วิธีทำก็เปลี่ยน วิธีกินอาหารมันก็เปลี่ยน ทุกอย่างมันเปลี่ยนหมด เป็นการมิกซ์ผสมผสานกันใหม่ ทุกๆ เรื่อง”
เมื่อถามถึงวิธีการและขั้นตอนก่อนจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าหม่ำแซ่บว่าเป็นอย่างไรบ้าง คุณหม่ำ เล่าเสริมต่อว่า เขาทดลองหมักปลาหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีความต่างไม่มากไม่น้อย และความโดดเด่นน้ำปลาร้าหม่ำแซ่บ นั่นคือ การที่น้ำปลาร้าเป็นเนื้อเดียวกัน
“จริงๆ น้ำปลาร้าหม่ำแซ่บพอบอกว่าเป็นปลาทะเลปั๊บ เฮ้ย! มันจะเหมือนปลาน้ำจืดไหม ซึ่งจริงๆ มันก็คือปลานั่นแหละ กลิ่นมันก็เหมือนกัน แต่ปลาที่เอามาทำคือปลาทะเลที่เขามาทำน้ำปลา
แต่ไม่ได้หมายความว่าปลาทะเล กับปลาน้ำจืด ปลาไหนจะสะอาดกว่ากันนะ ถ้าเราทำให้มันสะอาดมันสะอาดหมด รสชาติมันเหมือนกัน แต่เขานิยมเอาปลาทะเลมาทำน้ำปลากันมากกว่า อย่างปลากะตัก ปลาไส้ตันที่เอามาทำน้ำปลาร้าหม่ำแซ่บ รสชาติมันเหมือนกันแต่กลิ่นจะต่างกันอยู่นิดเดียว”
“ตอนแรกลองหมักเองด้วยปลาน้ำจืดก่อนแล้วแตกออกมาลองทำปลาน้ำเค็ม พอมาหมักดูว่ามันได้ไหม ก็ได้นิ รสชาติประมาณนี้ และทำให้มันไม่เป็นตะกอนนะ ให้เป็นเนื้อเดียวกันมันก็จะเป็นปลาร้าแบบต้นฉบับของมันจริงๆ
ทุกอย่างมันต้องลอง ผมลองหมักปลาร้า ไหนลอง 3 เดือนสิ ไม่น่าเหมาะ สัก 6 เดือนสิ ก็น่าสนใจ แต่อย่างน้ำปลาเขาหมัก 12-18 เดือน เราก็ลองหมักดู และการหมักน้ำปลาร้าที่เขาหมักกันส่วนใหญ่จะอยู่สักประมาณ 3-6 เดือนแค่นั้นนะ แต่ถ้าจะหมักนานกว่านั้นก็ได้
แล้วในมุมของน้ำปลาร้ากับน้ำปลามันจะต่างกัน น้ำปลาเขาหมักจะให้มันเปื่อยไปหมดเลย แต่ของเราไม่ต้องเปื่อยก็ได้ขอให้มันมีกลิ่น เพราะยังไงก็ต้องไปต้มอยู่แล้ว หมักให้มันได้ประมาณหนึ่ง”
“ในส่วนของการขาย ล็อกซเล่ย์ เขาเป็นคนขายให้อยู่แล้ว ส่วนหน้าที่เรานั้นจะเป็นการโปรโมตการขายและส่งสินค้าไปตามร้านค้าส่งตามต่างจังหวัด และตอนนี้ก็เข้าไปอยู่ในเซเว่นฯ แล้ว ขวดสีส้มหม่ำแซ่บทำจากปลาทะเลแท้ ไม่เหม็น ไม่คาว ใครอยากซื้อก็ตามเซเว่นฯ ได้เลย”