เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured Exclusive

ตลาดคะฉิ่น อยู่กินกลางควันสงคราม

คราวนี้ฉันพาไปเดินตลาดในเขตสู้รบ กรุณาระมัดระวังกระสุนปืนใหญ่ที่วิ่งปลิวไปมา และต้องเดินอย่างมีสติ พลาดข้ามไปผิดเขต มีสิทธิ์ติดคุก

ในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของพม่า ยังมีการสู้รบระหว่างรัฐบาลพม่า กับกองกำลังกู้ชาติคะฉิ่น หรือ Kachin Independence Army อยู่ เป็นการต่อสู้ต่อเนื่องมา 50 กว่าปี และยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ

พื้นที่รัฐคะฉิ่นแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล อีกส่วนอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังกู้ชาติคะฉิ่น ส่วนใหญ่พื้นที่ตรงกลางๆ จะเป็นของรัฐบาล ส่วนรอบๆ เป็นของคะฉิ่น แล้วพื้นที่ก็เปลี่ยนไปมา ฝ่ายไหนชนะพื้นที่ก็ขยายออกไป แพ้พื้นที่ก็หดลง เมืองนี้ย่านนี้เคยเป็นของรัฐบาล แล้วอาจกลายมาเป็นของกองกำลังกู้ชาติ ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างนี้ ฉันจึงบอกว่าเวลาเดินตลาดในคะฉิ่น ให้ตรวจสอบให้ดีว่าตัวเองอยู่ในเขตใคร

แต่ละฝั่งก็จะมีเมืองใหญ่และเมืองหลวงของตนเอง ฝั่งที่เป็นของรัฐบาล มีเมืองหลวงชื่อมิตจีนา ฝ่ายกองกำลังกู้ชาติมีเมืองหลวงชื่อไลซา 2 เมืองอยู่ไม่ห่างกัน แต่แยกกันชัดเจน มีทหารเฝ้าเขตแดนของแต่ละฝ่ายอย่างขมึงขึงขัง การเดินทางข้ามไปมายากเย็นแสนเข็ญ เพราะรัฐบาลจะตรวจตราเข้ม และหากถูกรัฐบาลตั้งข้อสงสัยว่าสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติ จะถูกจับโดยไม่มีการไต่สวนใดๆ ทั้งสิ้น คนคะฉิ่น ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ของรัฐบาล หรือพื้นที่กองกำลังกู้ชาติ จึงไม่ชอบพม่านัก

ไม่ชอบแล้วทำไมไปอยู่ในเขตของเขา?

เพราะในเขตของรัฐบาลจะมีการพัฒนามากกว่า มีโรงเรียนมีมหาวิทยาลัยให้ลูกๆ ได้เล่าเรียน และมีความปลอดภัยกว่า เพราะกองทัพพม่ามีกำลังพลมากกว่ากองกำลังกู้ชาติคะฉิ่นหลายเท่าตัว ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายไล่ล่า ขณะที่กองกำลังกู้ชาตินั้น ใช้กำลังยันไว้ไม่ให้ฝ่ายตนเสียหายมากเป็นหลัก ที่จะถึงรุกไล่ฝ่ายรัฐบาลนั้นยากยิ่ง

ผลจากการสู้รบ ก็คือชาวบ้านตาดำๆ ที่ได้รับผลกระทบ ต้องอพยพหลบหนีภัยสงคราม เป็นผู้คนที่มีชีวิตน่ารันทดหดหู่ เพราะจะหนีไปไหนไม่ได้ เขตแดนด้านหนึ่งรัฐบาลปิดไว้ อีกด้านหนึ่งติดชายแดนจีน ซึ่งก็ปิดเช่นกัน จีนไม่รับผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้เลย

ปลายปีก่อน ค่ายผู้อพยพค่ายหนึ่งในเขตของกองกำลังกู้ชาติถูกระเบิดโจมตี คน 2,000 คนหนีตายกลางดึก ไม่รู้จะไปไหนก็ข้ามแม่น้ำไปฝั่งจีน เจอจีนไล่กลับมาในทันที

เขาจึงต้องทนอยู่กันอย่างนั้น บ้านเรือนถูกระเบิดพังบ้าง หรือไม่ก็ถูกฝ่ายรัฐบาลยึดไปบ้าง ต้องหลบหนีมาอยู่ในค่ายที่ก็มีทั้งในเขตของรัฐบาลและเขตของกองกำลังกู้ชาติ คนที่อยู่ในสถานะพลัดที่นาคาที่อยู่ในรัฐคะฉิ่นนี้มีกว่าแสนคน

ที่ค่ายผู้อพยพในเขตรัฐบาลนั้นพอทน เพราะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และองค์กรสาธารณกุศลจากในและต่างประเทศ แต่ค่ายในเขตกองกำลังกู้ชาตินั้น ถูกปิดกั้นไม่ให้ความช่วยเหลือไปถึง จึงอยู่ในสภาพแร้นแค้นมาก ข้าวปลาอาหารไม่ค่อยพอกิน อัตคัดขัดสนไปเสียสิ้น หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องวิ่งวุ่นหาผู้ใจบุญทั้งหลายให้ช่วยระดมความช่วยเหลือเข้าไปเท่าที่ทำได้

ที่บอกว่าเท่าที่ทำได้เพราะรัฐบาลพม่าปิดเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือทั้งหมด และห้ามไม่ให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปในเขตของกองกำลังกู้ชาติ

ตลาดที่เห็นเป็นตลาดที่ผู้อพยพหนีภัยสงครามค้าขายกันเองในค่ายผู้อพยพในเขตกองกำลังกู้ชาติ สินค้าหายากและมีราคาแพง ผู้คนอยู่ในสภาพอดอยากและขวัญเสีย หลายคนไม่ได้กลับบ้านมา 6 ปีแล้ว และไม่มีหวังว่าจะได้กลับไปอีก เพราะบ้านเรือนถูกเผาผลาญหมด

ชนกลุ่มน้อยในพม่านั้นถูกย่ำยีบีฑามาเนิ่นนานเราท่านทราบกันดี แต่ชนที่มีชะตาชีวิตรันทดหดหู่กว่าใคร ฉันว่าจะเป็นคะฉิ่นนี่แหละ

ชนกลุ่มน้อยอื่นๆ เขามีพื้นที่ติดกับประเทศอื่น อย่างไทใหญ่ กะเหรี่ยง มอญ ก็ติดกับไทย หรืออย่างโรฮิงญา (โรฮีนจา) ก็ติดกับบังกลาเทศ เป็นตายร้ายดียังไงก็มีที่ให้หนีไปอาศัยชั่วคราว

ส่วนคะฉิ่นนี่เหมือนหนูติดกับดัก ไปไหนไม่ได้เลย จีนที่เป็นเพื่อนบ้านหนึ่งเดียว (เขาติดอินเดียด้วยแต่เขตที่ติดอินเดียเป็นป่าทึบ ไม่มีคนอาศัย) แต่ก็ไม่ไยดีเอาเสียเลย

เขาน่าสงสาร ฉันย้ำ เขาน่าสงสาร

 

Related Posts

‘วุ้นหอยแครง’ เมนูสุดครีเอตจากร้าน ‘น้ำใจ วุ้นกะทิ’ เหมือนจริงจนเป็นไวรัล ขายไปแล้วเกือบ 200 จาน สร้างรายได้จากธุรกิจนี้ 6 หลักต่อเดือน 
สหพัฒน์ เปิดโปรแกรม Affiliate เพียงแค่แชร์ลิงก์สินค้า รับค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชัน