เบอร์เกอร์พลิกชีวิต! ลาออกจากงาน มาขายเบอร์เกอร์ 25 บาท พีกสุด 400 ชิ้นต่อวัน
กว่าจะหาเส้นทางของชีวิตเจอ หลายคนมักจะต้องผ่านเรื่องราวที่เป็นปัญหาและอุปสรรคมาก่อนทั้งนั้น แต่ถ้าอดทนและต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ได้ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามอยู่เสมอ
เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณอ๊อด-วรยุทธ วงษ์มณี เจ้าของร้านทองดีเบอร์เกอร์ ที่ผ่านปัญหามานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เรื่องงาน ชีวิต และครอบครัว แต่เขาไม่ย่อท้อ ต่อสู้กับมัน จนทำให้เขามีวันนี้ที่สวยงามขึ้นได้

จุดเริ่มต้นของ “ชีวิต”
ก่อนหน้านี้ อาชีพแรกๆ ของเขาเคยเป็นช่างซ่อมมือถือมาก่อน แต่ทำไปได้ในระยะหนึ่ง ก็เกิดเบื่อขึ้นมา จากนั้นก็ผันตัวมาทำอาหารขาย เริ่มแรกด้วยการเป็นพ่อค้าซูชิ ช่วงแรกขายดีมากๆ แต่ผ่านไปก็เริ่มดรอปลงเรื่อยๆ เลยหาทางรอดใหม่คือ ทำหมูกรอบขาย เรียนรู้เอง ริเริ่มทดลองทุกอย่างด้วยตัวเอง ก็ทำขายได้สักพัก สุดท้ายก็ล้มเลิกไป ปัญหาต่างๆ ก็เริ่มเขามา ทั้งจะโดนไล่ที่อยู่ พ่อก็ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และเงินในกระเป๋าก็เริ่มร่อยหรอ
พอปัญหาเริ่มเข้ามามากขึ้น เขาจึงตัดสินใจหันหน้ากลับไปทำงานประจำ โดยในครั้งนี้ เป็นอาชีพขับสามล้อไฟฟ้า แต่ทำได้เพียง 10 กว่าวันเท่านั้น เพราะเขามีความรู้สึกและพูดกับตัวเองว่า
“รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวตนเรา เราคิดว่าเรามีความสามารถมากกว่านี้”
ลงทุน 3,000 บาท ขายเบอร์เกอร์ พลิกชีวิต
หลังจากที่ตัดสินใจลาออกจากการขับรถสามล้อไฟฟ้า เขาก็เริ่มต้นลงทุนทำเบอร์เกอร์ขายด้วยงบเพียง 3,000 บาทเท่านั้น แต่ต้องขอเล่าว่า ก่อนหน้านี้ คุณอ๊อดเคยซื้อแฟรนไชส์ร้านเบอร์เกอร์เจ้าหนึ่งมาทดลองขายก่อน แต่ก็เลิกไป สิ่งนี้เองจึงทำให้เขาพอที่จะมีอุปกรณ์หลักๆ อย่าง เตา ที่เป็นตัวสำคัญในการทำเบอร์เกอร์
ในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ เขาก็ขอหยิบยืมจากครอบครัวมาใช้ก่อนบ้าง เช่น รถเข็นยืมป้า ส่วนตู้กระจก เขาเล่าด้วยความปีติว่า
“ตู้นี้วิ่งไปซื้อที่วัดสวนแก้ว แบกขึ้นมอเตอร์ไซค์ ตอนนั้นลำบาก พยายามต่อรองคุยราคากับเขา จนมันได้ราคาที่ถูก ต้องขอบคุณคุณลุงที่วัดสวนแก้วมากๆ ที่เขาให้ราคาที่ถูกมาได้”
เมื่อได้อุปกรณ์มาพอตามที่ต้องการแล้ว เรื่องของวัตถุดิบก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน อย่างขนมปัง เขาก็เลือกมาจากประเทศมาเลเซีย เพราะมีคุณสมบัติที่นุ่มและอร่อย ในส่วนอื่นๆ ก็เลือกใช้ของที่มีคุณภาพ เพราะถือว่าเรากินอย่างไร ลูกค้าก็ต้องกินอย่างนั้น
“ก่อนที่จะขาย ผมจะคำนวณทุกสิ่งทุกอย่างไว้แล้ว มันผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว 1 เดือนที่จะขาย ว่ามันสามารถทำราคานี้ได้นะ ทำได้แน่นอนครับ” เขากล่าว
ชื่อของร้านนี้มีที่มาอยู่ว่า เป็นชื่อของคุณพ่อของเขาที่ตอนนี้เป็นอัลไซเมอร์ ถึงแม้จะรับรู้ว่านี่คือลูก แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เขาคิดว่า อย่างน้อยๆ คุณพ่อก็คือที่พึ่งทางใจ จึงได้นำชื่อมาใช้ในการตั้งชื่อร้าน ทองดีเบอร์เกอร์ เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต
วันแรกที่เปิดร้านขาย ยอดขายก็เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นอันดี เพราะขายได้ถึง 70 ชิ้น และในวันเดียวกันนั้น มียูทูบเบอร์มาซื้อโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และถ่ายรีวิวร้านลงให้ จากนั้นก็เริ่มมีคนมาตาม วันที่ 2 ก็เริ่มมีมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เปิดมาได้ประมาณ 8 เดือนกว่าๆ พีกสุดอยู่ที่วันละ 400 ชิ้น เพราะเป็นจำนวนที่พอจะทำไหว หากมีของมากกว่านั้น ก็น่าจะเลยไปกว่านี้ และยังมี คุณกิ๊ฟ-กุลธิชา สกุลเกษมสุข แฟนสาวเข้ามาช่วยแบ่งเบาในเรื่องของการรับออร์เดอร์และอีกหลายๆ อย่าง โดยทั้งคู่คิดว่าร้านนี้จะต้องเติบโตไปได้อีกแน่นอนในอนาคต

เบอร์เกอร์รสชาติดี แต่ทำไมขายราคา 25 บาท
ต้องบอกว่ารสชาติของทองดีเบอร์เกอร์ เป็นรสชาติที่อร่อย ซอสฉ่ำๆ ทั้งเนื้อและหมูใช้วิธีการกริลล์แบบสแมชเบอร์เกอร์ จะมีความเกรียมหน่อย แต่นอกจากเรื่องรสชาติที่อร่อยแล้ว ราคาก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเช่นกัน โดยคุณอ๊อดบอกเรื่องการตั้งราคา 25 บาทนี้ว่า
“ในวัยเด็ก เวลาที่ได้เข้าร้าน Mc หรือ KFC ค่อนข้างที่จะดีใจมากเลย มันเป็นราคาค่อนข้างสูง ซึ่งพ่อแม่คงไม่ค่อยมีกำลังจ่ายในส่วนนั้น ก็เลยทำให้การตั้งราคาเบอร์เกอร์ครั้งนี้ ผมอยากทำไม่แพงมาก ทุกคนเข้าถึงได้
จุดเด่นของร้าน น่าจะเป็นราคาที่ย่อมเยา ยิ่งถ้าเป็นวันอังคารลูกค้าจะรู้ว่ามันมีโปรเนื้อ 25 บาท ลูกค้าจะจองไว้ก่อนค่อนข้างเยอะ ส่วนเรื่องรสชาติของเบอร์เกอร์ ผมให้ลูกค้าเป็นคนตัดสินมากกว่า เพราะว่าผมไม่กล้าตัดสินเองว่ารสชาติดีไหม”
เขาบอกว่ารายได้ตอนนี้ต่อวันอยู่ที่หลักหมื่น ซึ่งต้องหักค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ออกไปด้วย แต่ก็ถือว่าอยู่ได้ และมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อมีสิ่งดีๆ แล้วก็อยากจะส่งต่อโอกาสไปยังคนอื่นๆ ด้วย
ทางร้านมีการขายผ่านแพลตฟอร์มดีลิเวอรีด้วย ซึ่งทุกๆ ออร์เดอร์ที่สั่งเข้ามา ไรเดอร์จะได้รับเบอร์เกอร์ฟรีคนละ 1 ชิ้น ซึ่งทางร้านเป็นคนให้เอง และลูกค้าที่มีลูกเด็กเล็กแดงติดมาด้วย เขาก็จะมีขนมแจกให้กับเด็กๆ
ทั้งหมดนี้เขามองว่า แค่อยากแบ่งปันคนอื่นบ้าง เพราะว่าเขาอาจจะได้โอกาสด้านอื่นมาบ้าง ก็แค่อยากให้โอกาสคนอื่นเขาบ้าง ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
สุดท้ายนี้ คุณอ๊อด อยากฝากให้กับทุกคนด้วยประโยคนี้ว่า
“ผมคิดว่าต้องจริงใจกับลูกค้า เรื่องของคุณภาพต้องรักษาไว้ รสชาติถ้ามันดีจริง ลูกค้าเขาจะกลับมาซื้อซ้ำเองครับ ส่วนของ มันขายในราคาที่ไม่แพงก็ได้ ไม่ได้หวังกำไรมากเกินไป ผมคิดว่ามันทำให้ลูกค้าวิน เราวินด้วย”
หากใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากไปลิ้มลองรสชาติเบอร์เกอร์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของร้านได้ที่
Facebook : ทองดีเบอร์เกอร์