ใช้พื้นที่รอบบ้านสร้างรายได้! ลาออกจากงานประจำ เข้าสู่วงการเบียร์ ต่อยอดเป็นอาชีพ กวาดรายได้หลักแสนต่อเดือน
เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวจากต่างประเทศ แต่เรื่องราวของเธอก็เปรียบเสมือนแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนในการทำธุรกิจ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จึงอยากนำเสนอ เพื่อให้ทุกท่านเกิดแนวคิด แรงบันดาลใจที่จะทำธุรกิจต่อไป
สองสาวนักธุรกิจ ที่มีแนวคิดคล้ายกัน LeAnn Darland และ Tara Hankinson จับมือร่วมกันทำโรงผลิตเบียร์ขึ้น ก่อตั้งร่วมของบริษัท TALEA Beer Co. เพื่อหวังว่าจะสร้างรายได้ และเป็นการทำงานจากสิ่งที่รัก

จุดเริ่มต้นของ LeAnn Darland และ Tara Hankinson
Tara Hankinson เล่าว่า ในช่วงฤดูร้อนหลังจากเรียนจบ เธอทำงานที่โรงกลั่นเบียร์ ที่นี่ทำให้เธอมีประสบการณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ได้ไปสถานที่ที่สวยงาม เที่ยวบินที่เหมาะแก่การถ่ายรูปลงอินสตาแกรม และการติดต่อกับลูกค้า
มาถึงในส่วนของเบียร์ เธอเริ่มทำเบียร์เองที่บ้านในขณะที่ทำงานเป็นที่ปรึกษาการจัดการที่ The New York Times จากนั้นจึงลาออกเพื่อไปร่วมงานกับ บริษัทสตาร์ตอัปด้านอีคอมเมิร์ซ เกี่ยวกับเบียร์ ซึ่งได้พบกับ LeAnn Darland ซึ่งงานนั้นทำให้ก้าวเข้าใกล้ความฝันในการดื่มเบียร์อย่างแท้จริงอีกก้าวหนึ่ง
LeAnn Darland บอกว่า เธอเคยอาศัยอยู่ที่โคโรนาโด ซานดิเอโก ในช่วงที่รับราชการทหารเรือ สิ่งที่ชอบมาก คือบรรยากาศชุมชนที่เป็นกันเองของโรงเบียร์ ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากช่วงเวลาที่ฉันรับราชการทหาร เมื่อฉันย้ายไปซานฟรานซิสโก เพื่อนๆ ทุกคนที่มาเยี่ยมเยียนต่างอยากไปเยี่ยมชมโรงเบียร์ เธอเริ่มคิดที่จะสร้างโรงเบียร์ที่ดึงดูดเพื่อนๆ และแม่ของเธอ
เมื่อทั้งสองได้มาเจอกัน ด้วยมีแนวความคิดเดียวกัน จึงลงมือทำเพื่อให้ธุรกิจเสริมนี้ได้เริ่มต้น
ทั้งคู่ทำเบียร์เองที่บ้านคนละฝั่ง (Tara อยู่ใจกลางเมืองแมนฮัตตัน ส่วน LeAnn อยู่ซานฟรานซิสโก) Tara เข้าร่วมการแข่งขันทำเบียร์เองที่บ้านหลายรายการ และเบียร์ของเธอก็ขายดี ส่วน LeAnn นำเสนอทักษะของเธอให้กับโรงเบียร์ในท้องถิ่น แต่ไม่มีใครตอบกลับอีเมลของเธอ แต่เมื่อทั้งสองได้พบกันที่บริษัทสตาร์ตอัปอีคอมเมิร์ซ เบียร์ขนาดเล็ก ก็รู้ทันทีว่า ต้องการเริ่มโรงเบียร์ด้วยกัน ตั้งแต่แนวคิดในเดือนกรกฎาคม 2018 จนถึงผลิตภัณฑ์แรกในมือเมื่อเดือนเมษายน 2019 ใช้เวลาประมาณ 9 เดือนในการทำงานแบบเงียบๆ
ความท้าทายครั้งใหญ่ในขณะที่กำลังสร้างธุรกิจเสริม คือการทำเบียร์ที่บ้านใช้เวลานานประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวันในการต้มเบียร์ และเกือบ 1 เดือนจนกว่าคุณจะได้เบียร์ที่เสร็จแล้ว กระบวนการนี้คล้ายคลึงกับการผลิตเบียร์ในระบบเชิงพาณิชย์มาก เพียงแต่ว่า “คลังสินค้า” นั้นเป็นตู้เย็นขนาดเล็กในอพาร์ตเมนต์ ในฐานะผู้ต้มเบียร์ที่บ้าน ใช้เวลาค่อนข้างมากในการรับคำติชมเกี่ยวกับเบียร์และพยายามหาหนทางที่ดีที่สุดในการเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง
เมื่อเริ่มดำเนินการโรงเบียร์ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกอย่าง คือการเจรจาและขั้นตอนต่างๆ มากมายที่เราต้องทำควบคู่ไปกับงาน ทั้งเรื่องการขอใบอนุญาตขายสุราต่างๆ ดังนั้น จึงต้องรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่อาจจะทำให้ธุรกิจนี้ก้าวหน้า
หลังจากที่ได้เบียร์ขวดแรกมา ก็เริ่มมีการขายและจัดส่ง ระยะเวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน ก็มียอดซื้อเข้ามาสม่ำเสมอ และได้รับเงิน 15,000-20,000 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือประมาณ 5-7 แสนบาท แต่ไม่ทำกำไร สิ่งนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับลูกค้าและปรับเปลี่ยนส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ รูปแบบบรรจุภัณฑ์ วิธีการจัดส่ง และกลยุทธ์การขาย
ตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองก็ได้เปลี่ยนอาชีพเสริมนี้เป็นงานประจำ รายได้เติบโตขึ้นทุกปี มีกำไรและสามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้เงินอย่างไรให้ดีที่สุดเนื่องจากมีเสถียรภาพทางการเงิน เธอจึงเลือกที่จะขยายทีมงานและลงทุนในอุปกรณ์ รวมไปถึงกระบวนการกลั่นเบียร์ที่มีระยะเวลาคืนทุนสั้นและปรับปรุงผลิตภัณฑ์อยู่ตลอด
“ช่องทางหลักที่ได้ลงทุนและเห็นการเติบโตอย่างมากคือ ความร่วมมือ และประสบการณ์ อย่ากลัวที่จะเล่นสนุกและคิดใหญ่” ทั้งคู่กล่าว
สุดท้ายนี้ ทั้งคู่ได้ให้คำแนะนำไปยังคนอื่นๆ อีกหลากหลายคนว่า
“อย่าปล่อยให้ความสมบูรณ์แบบเป็นศัตรูของความก้าวหน้า บางครั้งคุณต้องตัดสินใจ แม้ว่าจะรู้สึกเหมือนเป็นการประนีประนอมก็ตาม”
ที่มา entrepreneur