ลงทุนไม่ถึงหมื่น! “ขายน้ำชงบนจักรยาน” วันละ 400 แก้ว เจาะกลุ่มคนงบน้อย แบงก์ 20 ใบเดียวทุกเมนู
“ขายน้ำชงบนจักรยาน” คือไอเดียธุรกิจที่ คุณแก้ว-เกศรินทร์ ทาคำฟู วัย 29 ปี ใช้สร้างรายได้ให้ครอบครัว หลังจากลองทำเป็นอาชีพเสริมควบคู่กับร้านหม่าล่าที่นับวันยอดขายยิ่งเริ่มตก และร้านน้ำชงก็ไปได้ดีตั้งแต่วันแรก เธอจึงตัดสินใจทำอาชีพนี้เต็มตัว ซึ่งนอกจากขายได้วันละ 400 แก้ว ยังได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย

ร้านหม่าล่าสู่ร้านน้ำชง
ก่อนหน้านี้ คุณแก้วสร้างรายได้จากการเปิดร้านหม่าล่าที่จังหวัดชียงใหม่มานานถึง 12 ปี จากขายอยู่หลัง ม.เชียงใหม่ ขยับมาขายในตลาดนัดช่วงเย็น กระทั่งลูกๆ เริ่มโตขึ้นและพวกเขาอยากมีเวลาอยู่กับเธอผู้เป็นแม่ในช่วงเย็น ประกอบกับยอดขายของร้านหม่าล่าตกลงทุกวัน ไหนจะทุนสำรองที่หมดไปในช่วงโควิด
การหาอาชีพที่สามารถทำได้ระหว่างวันที่ลูกไปโรงเรียน จึงเป็นแนวคิดใหม่ที่ผุดขึ้นมา
ขณะเดียวกัน บริเวณหมู่บ้านที่อยู่อาศัย มีโครงการก่อสร้างผุดขึ้นมาพร้อมๆ กับแคมป์คนงาน และลุงแถวบ้านก็ขับรถพ่วงไปขายลูกชิ้นทอดในช่วงพักเที่ยงแถวนั้น เธอจึงปิ๊งไอเดียขายน้ำชงตั้งแต่นั้นมา
แต่เพราะทุนน้อยไม่พอซื้อรถพ่วงขายของ จึงซื้อได้แค่รถจักรยาน และคิดว่าในหมู่บ้านไม่จำเป็นต้องใช้รถพ่วงก็สามารถขายของได้

“วันแรกลงทุนไป 9,000 บาท งบนี้ได้มาทั้งร้านเลย ค่าใช้จ่ายจะหนักไปที่จักรยานมือสอง เหล็ก และร่ม ที่เหลือซื้ออุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ พวกกระบวย ส่วนโหลใส่น้ำเรามีอยู่แล้ว เพราะเคยขายของมาตั้งแต่รุ่นแม่
การดัดแปลงจักรยาน เราเป็นคนเขียนแบบว่าอยากได้ร้านประมาณนี้ วัดขนาดโหลใส่น้ำที่จะขาย แฟนก็ช่วยทำให้เพราะมีสกิลการอ๊อกเหล็กเชื่อมเหล็กอยู่แล้ว กว่าจะแล้วเสร็จก็ประมาณ 1 เดือน”

เมนูหลากหลาย ขายราคาเดียว
กระทั่งคุณแก้วได้ปั่นจักรยานขายน้ำชงวันแรก
“ผลตอบรับดีมาก เราขายได้ประมาณ 3,200 บาท สัปดาห์แรกยังทำเป็นอาชีพเสริมคู่กับร้านหม่าล่าอยู่ แต่ไปๆ มาๆ เริ่มไม่ไหว และยิ่งไม่มีเวลามากขึ้นกว่าเดิม เพราะร้านหม่าล่าเราทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่เสียบไม้ยันขาย
แล้วตอนกลางวันก็มาปั่นจักรยานขายน้ำอีก เลยตัดสินใจมาขายน้ำชงเต็มตัวในสัปดาห์ที่ 2 เพราะเห็นแววว่าขายน้ำน่าจะไปได้ดีกว่า นอกจากมีรายได้ยังได้ออกกำลังกายไปด้วย” คุณแก้ว ว่าอย่างนั้น

สำหรับเมนูที่นำไปขายก็มีหลากหลาย และชงเองทุกเมนูตามรสชาติที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น ชาเย็น ชาเขียว โกโก้ ชานมไต้หวัน ชามะนาว ชาพีชลิ้นจี่ น้ำผึ้งมะนาว นมสด นมชมพู นมน้ำผึ้ง กาแฟ โอเลี้ยง ชาสตรอเบอร์รี นมสดกล้วยหอม นมสดเมลอน และมีเมนูพิเศษทุกวันศุกร์ วันเสาร์ คือ มะพร้าวนมสด
“เราอยากขายให้คนเงินน้อย ให้คนทำงานก่อสร้าง กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท เลยตั้งราคาง่ายๆ ไม่ต้องคิดมากกับการจ่าย แค่แบงก์ 20 ใบเดียว ก็เลือกซื้อน้ำได้หลายเมนูในราคาเท่ากัน ฟรีไข่มุก แยกน้ำแข็ง หรือแบบขวดก็ราคานี้
การเลือกใช้วัตถุดิบ อย่างน้ำผึ้งมะนาวก็คั้นมะนาวสดๆ หรือนมสดกล้วยหอม ก็ใช้กล้วยหอมแท้ๆ ปั่นกับนมสด คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน
รวมทุกๆ เมนูที่ทำขายแต่ละวันประมาณ 60-70 ลิตร ชาไทยทำเยอะสุด ก็ขายหมดทุกวัน ทุกวันที่ออกขายเราจะจดสถิติไว้ว่าวันนี้ขายได้กี่ลิตร เราก็จะรู้ว่าวันต่อไปควรทำปริมาณเท่าไหร่ ก็จะไม่มีเหลือ ไม่มีเก็บ”
โดยจะเริ่มชงน้ำหลังขายเสร็จ ประมาณ 4-5 โมงเย็น เช้าอีกวันเริ่มจัดร้าน และออกขายตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถ้าลูกค้าเรียกก็จอดขายตามทาง และจอดตามไซต์ก่อสร้าง ก่อนปิดร้านแต่ละวันจะขายได้ประมาณ 400 แก้ว ถ้าวันไหนฝนตก จะรับออร์เดอร์จากลูกค้าที่โทรสั่ง แล้วนำไปส่ง
“รายได้อาจจะไม่เท่ากับหม่าล่า แต่มันก็ดีในยุคที่หาเงินยากมากขึ้น” คุณแก้ว เล่าเสริม
ปั้นคอนเทนต์ แชร์ไอเดีย
ซึ่งนอกจากการขายน้ำชง เธอยังเปิดช่องติ๊กต็อกทำคอนเทนต์ควบคู่ไปด้วย โดยเริ่มต้นจากคำแนะนำของน้องสาว ซึ่งได้ยอดวิวคลิปแรกหลักล้านวิว
“คลิปแรกมีคนดูเป็นล้านเลย เราเลยตัดสินใจเปิดช่อง แต่คนดูเขาก็อยู่ต่างจังหวัดกัน มีบ้างที่ตามมาจากติ๊กต็อก ส่วนมากจะเป็นการบอกปากต่อปากกันที่ทำให้เราขายได้”
และจากการลงติ๊กต็อก ก็มีหลายคนชอบไอเดียปั่นจักรยานขายน้ำชง คุณแก้วเองก็ยินดีให้นำไปต่อยอด และมีคนอยากขอซื้อแฟรนไชส์หรือสูตรชงด้วยเช่นกัน
“เราเป็นลูกแม่ค้า สูตรต่างๆ ถ้าทำเองได้ มันจะภูมิใจมากๆ เราจะบินได้อย่างสวยงาม ถ้าบินได้ด้วยตัวเอง สูตรน้ำเหมือนเส้นผมบังภูเขา ทุกคนรู้ว่าชาเย็นต้องใส่ชา ใส่นม ใส่ครีมเทียม อยู่ที่ว่าเราชอบรสชาติไหน หรือบางคนอยู่ต่างจังหวัด เขายังไม่เคยมาลองชิมเลยว่ามันอร่อยไหม แต่พร้อมจ่ายเงินเรา ซึ่งมันไม่แฟร์กับเขา ทำให้เรายังไม่พร้อมที่จะขายสูตรหรือแฟรนไชส์” คุณแก้ว ทิ้งท้าย

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2024