หยิบขยะมาสร้างรายได้! หนุ่มวัย 15 จุดประกายงานเสริม ซ่อมคอมพ์มือสอง บริจาคไปแล้วกว่า 3,000 เครื่อง ให้คนเข้าถึงการศึกษา มีงานทำ
ไดแลน ซาจัค วัย 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จาก Babson College เขาได้เล่าย้อนไปเมื่อตอน 15 ปี เขามีอาชีพเสริมคือการซื้อของมือสองและซ่อมคอมพิวเตอร์ งานเสริมนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เขาก่อตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรขึ้น ชื่อว่า ‘Computers 4 People’ ซึ่งจะจัดหาคอมพิวเตอร์ที่ทำการซ่อมแซมแล้วให้กับผู้ที่ต้องการใช้
จุดเริ่มต้นงานเสริม
เขาเล่าว่า เริ่มด้วยการไปร้านขายของมือสองแถวบรูกลิน นิวยอร์ก กับเพื่อนสมัยมัธยมปลาย ตอนนั้นเป็นแค่งานอดิเรกสนุกๆ
“เราจะนั่งรถไฟจากโฮโบเกน แล้วสเกตบอร์ดไปตามร้านขายของมือสองทีละร้าน โดยเราจะไปถึง 3 ร้าน หรือมากกว่านั้นภายในวันเดียว”
โดยเมื่อไปถึงร้าน จะทำการค้นหาของมีค่าที่ซ่อนอยู่ในกองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่าๆ เมื่อเจอของมีค่า ก็จะทำการต่อรองราคาอย่างหนัก เพื่อให้ได้ของดีมา
“บางวันเราซื้อคอมพิวเตอร์เยอะมากจนต้องกองมันไว้บนสเกตบอร์ดแล้วเข็นกลับบ้าน”
เมื่อได้คอมพิวเตอร์มาแล้ว ก็จะทำความสะอาด ซ่อมแซม และขายต่อบน Facebook Marketplace หรือ eBay และเวลาผ่านไปไม่นานนัก งานอดิเรกนี้ก็กลายเป็นธุรกิจจริงจัง จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ห้องนอนทั้งห้องของเขาเต็มไปด้วย เดสก์ท็อปและ Apple PowerBooks ซึ่งสามารถสร้างกำไรได้อย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งสูงถึง 80% เลยทีเดียว
“สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันเริ่มทำอาชีพเสริมได้ คือการมีแล็ปท็อปและอินเทอร์เน็ตตั้งแต่สมัยมัธยม ฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงในการดูวิดีโอแนะนำวิธีการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์และเรียนรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งช่วยให้ฉันสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลายร้อยราย จากห้องนอนของฉันเอง”
เขาเล่าต่ออีกว่า เมื่อได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งแล้ว ก็เริ่มสังเกตเห็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งในระหว่างการเดินทางไปบรูกลิน
“ผมเห็นกองขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก คอมพิวเตอร์ที่ถูกทิ้งโดยผู้คนและบริษัทต่างๆ ที่ไม่รู้วิธีกำจัดอย่างถูกต้อง ในขณะเดียวกัน ผมก็ตระหนักว่ามีผู้คนจำนวนมากในโลก ไม่มีโอกาสเข้าถึงโลกดิจิทัลได้ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดีย Computers 4 People”
เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนสิ่งที่เรียนรู้มาให้เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยใช้คำแนะนำจากออนไลน์ และทำการยื่นของสถานะ 501(c)(3) สร้างข้อบังคับและดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้น
โดยแผนการคือ รวบรวมคอมพิวเตอร์มือสองจากบุคคลและบริษัทต่างๆ นำมาซ่อมแซมและบริจาคให้กับบุคคลและองค์กรที่ต้องการ
ความท้าทายของ ‘Computers 4 People’
หนึ่งในความท้าทายที่ยากที่สุดคือการทำให้แน่ใจว่า Computers 4 People สามารถนำเดินงานได้อย่างยั่งยืนแม้จะไม่มีเขาก็ตาม
“การบาลานซ์ระหว่างการเรียนกับการบริหารองค์กร ทำให้ผมรู้ว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความสมดุล คุณแค่ต้องทำให้มันทำงานได้ หลายคนคิดว่า Computers 4 People จะต้องอยู่ไม่ได้ถ้าผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เหมือนกับโปรเจ็กต์เล็กๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ แต่เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิด ผมจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างที่แข็งแกร่งโดยกำหนดความรับผิดชอบอย่างชัดเจน”
เช่น การบัญชี การบริหารทรัพยากรบุคคล และการบริหารโครงการ เขาได้สร้างระบบเฉพาะ เพื่อทำให้การจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการลูกค้า การจัดการผู้บริจาค และการรายงานเงินช่วยเหลือของรัฐบาลกลาง ซึ่งช่วยให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดหาเงินทุน
เนื่องจากขณะที่เขาทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างล้นหลาม ด้วยผู้คนหลายร้อยคนที่อยู่ในรายชื่อรอของ ความต้องการมักจะเกินกว่าอุปทาน แต่เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เขาจึงได้กระจายแหล่งเงินทุนโดยใช้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล จากมูลนิธิ จากบุคคล
นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับบริษัท Fortune 100 และ 500 รายใหญ่ที่สุดบางแห่งเพื่อรวบรวมคอมพิวเตอร์ที่ใช้แล้วของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถยังคงเชื่อมช่องว่างทางดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จนปัจจุบันได้มีการบริจาคคอมพิวเตอร์จำนวน 3,668 เครื่อง ให้กับผู้ที่ต้องการ ซึ่งสามารถแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากหลุมฝังกลบ ได้กว่า 55,000 ปอนด์
โปรแกรมของเขาสามารถช่วยให้คนหลายพันคนได้เข้าถึงการศึกษา มีงานทำ และประสบความสำเร็จในโลกดิจิทัลได้ ซึ่งเขาได้รับเงินบริจาคและระดมทุนได้กว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 56 ล้านบาท) ช่วยให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และขยายทีมงานได้มากกว่า 10 คน
คำแนะนำจากองค์กรไม่แสดงผลกำไร
บริษัท Fortune 100 และ 500 รายใหญ่ที่สุดบางแห่ง รวบรวมคอมพิวเตอร์ที่ใช้แล้วของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าเรายังคงสามารถเชื่อมช่องว่างทางดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“อย่าเริ่มต้นอะไรเพียงเพราะดูเหมือนจะมีผลกระทบ ให้แน่ใจก่อนว่าความพยายามของคุณจะสร้างผลบวกให้กับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ไม่แสวงหาผลกำไร
ตอนเริ่มต้น อย่าพึ่งพาคนอื่นในการจัดการสิ่งที่จำเป็น ต้องเรียนรู้วิธีจัดการการจดทะเบียนบริษัท ภาษี บัญชี การดำเนินงาน และการจัดตั้งคณะกรรมการบริษัทด้วยตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
เมื่อมีรากฐานที่มั่นคงแล้ว ให้สร้างทีมที่เสริมทักษะของคุณ รวมถึงคนเก่งในด้านต่างๆ เช่น การระดมทุน บัญชีต้นทุนสะสม หรือการจัดระเบียบ สุดท้าย อย่าคิดมากเกินไปในทุกขั้นตอน ทำงานเร็ว ตัดสินใจเร็ว และก้าวต่อไปข้างหน้า”
ที่มา : Entrepreneur