สูตรลับ! ปั้น “ลัคกี้ สุกี้” เพียง 3 ปี โตไวในตลาดสุดเดือด ตั้งเป้าปี 68 ยอดขายทะลุ 2,000 ล้าน
เพียง 3 ปีที่ “ลัคกี้ สุกี้” เปิดให้บริการ แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาด แต่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ยอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท ในปี 2567 ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของผู้เล่นมากมาย
อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จะพาไปพูดคุยกับ คุณวิรัตน์ โรจยารุณ กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด
คุณวิรัตน์ กล่าวว่า ธุรกิจนี้เริ่มต้นมาจากหุ้นส่วน 4 คน ประกอบด้วยตนเอง คุณรุ่งทิวา วิพัฒนานันทกุล, คุณรสรินทร์ ติยะวราพรรณ และคุณอิทธิพล ติยะวราพรรณ
ซึ่งทุกคนไม่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจอาหารมาก่อน เพราะมาจากหลากหลายแวดวงธุรกิจ แต่มีความชอบทานอาหารเหมือนกัน จึงเลือกปั้นแบรนด์สุกี้ เพราะมองว่าตลาดสุกี้ชาบูยังสามารถแทรกตัวเข้าไปได้
โดยเริ่มเปิดบริการลัคกี้ สุกี้ สาขาแรก ที่ People Park อ่อนนุช เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ซึ่งหุ้นส่วนทุกคนช่วยกันลงมือทำ ลงหน้างานเพื่อให้รู้ทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอน ทุกปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“ตอนแรกคิดว่าถ้าทำแล้วไม่เวิร์ก ก็เลิก เพราะทุกคนมีธุรกิจกันอยู่แล้ว แต่โชคดีเราแทงถูกมากกว่าแทงผิดในเรื่องใหญ่ๆ ที่ต้องตัดสินใจ ทำให้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพียง 8 เดือน เราสามารถเปิดสาขา 2 ได้ จากนั้นเราเติบโตอย่างรวดเร็วมากๆ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และการแข่งขันที่ดุเดือด ซึ่งแบรนด์พยายามตอบสนองเม็ดเงินทุกบาทที่ลูกค้าจ่ายให้มีความคุ้มค่า” คุณวิรัตน์ กล่าว
ภาพรวมความสำเร็จของปี 2567 บริษัทสามารถสร้างยอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท ถือว่าเติบโตจากปีที่ผ่านมา 148.66% ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ 409 ล้านบาท กำไร 49 ล้านบาท
สามารถขยายสาขาลัคกี้ สุกี้ ได้จำนวน 15 สาขา และลัคกี้ บาร์บีคิว 5 สาขา ซึ่งเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เป็นบุฟเฟต์สไตล์ยากินิกุ เริ่มต้น 299 บาท มีเมนูมากกว่า 100 รายการ
สำหรับกลุ่มลูกค้า คุณวิรัตน์ กล่าวว่า มีความหลากหลายทุกกลุ่มวัย รวมทั้งชาวต่างชาติโซนเอเชีย จากการเปิดสาขาในโซนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติอาศัยอยู่ ซึ่งอาจจะต้องมีเมนูภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม
ส่วนการบริโภคของลูกค้า โดยปกติจะมาทาน 2-3 ครั้งต่อ 1 เดือน เฉลี่ย 10-15 วันจะรีเทิร์นกลับมาทานใหม่อีกครั้ง และมีการสมัครสมาชิกจำนวน 200,000 คน ณ ปัจจุบัน
สำหรับเป้าหมายในปี 2568 คุณวิรัตน์ กล่าวว่า ตั้งเป้าขยายสาขาให้มากที่สุด โดยแบ่งเป็น ลัคกี้ สุกี้ 60% และลัคกี้ บาร์บีคิว 40% ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท ในจำนวน 16-20 สาขา ที่จะได้เห็นก่อนคือ สระบุรี และพื้นที่โซนภาคตะวันออก และเป้าหมายใหญ่คือการขยายไปทั่วประเทศ
ผ่านกลยุทธ์การเลือกทำเลเน้นในพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์หรือห้างสรรพสินค้า เพราะเป็นแบรนด์น้องใหม่จึงอยากสร้างการรับรู้จากการที่คนมาเดินห้างกันอยู่แล้ว
ส่วนการเติบโตตั้งเป้ายอดขายเกิน 2,000 ล้านบาท รวมทั้งรักษาฐานลูกค้าเก่า และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
คุณวิรัตน์ กล่าวถึงเคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์น้องใหม่ที่เปิดได้เพียง 3 ปี ว่า อย่างแรกคือการนำบริการบางอย่างเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า เช่น เครื่องดื่มสลัชชี่ สลัดบาร์ หรือของทอด โดยที่เริ่มทำแรกๆ ไม่ได้คิดเรื่องต้นทุน แต่คิดเรื่องการบริการมากกว่า
การจัดโปรโมชันต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า ซึ่งต้องดูกันเป็นรายเดือนและรายไตรมาส หรือ การครีเอตน้ำซุปซีซันนอล ทุกๆ 3 เดือน ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์
การคัดสรรวัตถุดิบที่หลากหลาย กว่า 100 เมนู โดย 90% นำมาจากในประเทศ และ 10% นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ชีส และเนื้อสัตว์บางชนิด
ที่สำคัญคือ “ความมุ่งมั่น”
“ทุกคนทำงานกัน 7 วัน เราตั้งใจตอบสนองความต้องการลูกค้า เพราะมองว่าถ้าเราไม่เข้าใจลูกค้า เราไม่สามารถให้บริการได้ดี ถ้าไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ไม่เข้าใจความรู้สึกลูกค้า เราจะตอบโจทย์ไม่ได้
เราไม่กล้าบอกว่าลูกค้า 100% ชื่นชมเราหมด มีลูกค้าบางท่านเข้ามาคอมเพลน คอมเพลนก็เป็นข้อดี ทำให้เราหยิบขึ้นมา เพื่อกลับไปแก้ไข”
และ “ความตั้งใจ”
“เป็นต้นทางนำไปสู่รายละเอียดต่างๆ เช่น ความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ ความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ ถ้าอะไรทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าลูกค้าถูกใจ นั่นคือเป้าหมายสูงสุด”
ความท้าทายของธุรกิจ คือการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ โดยปัจจุบันตลาดสุกี้ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 23,000-25,000 ล้านบาท
“ในตลาดนี้มีทั้งคนที่เติบโตได้ดี และมีคนที่เติบโตได้ไม่ดี แต่บนความท้าทายนี้ มันทำให้มีคนสนใจกระโดดเข้ามาในตลาดนี้ก็ได้ เราไม่คิดอะไร แต่คิดว่าทำอย่างไร ให้เราแข็งแรงที่สุด ทำอย่างไรให้ลูกค้าพอใจเราที่สุด เพราะเราไม่มีสิทธิไปห้ามว่าคนนี้ห้ามแข่งกับเรา แต่เรามีสิทธิทำให้เราแข็งแรงได้
ถามว่าตลาดบุฟเฟต์ใกล้อิ่มตัวไหม ตราบเท่าที่คุณตอบสนองความพอใจลูกค้าได้ ผมว่าตลาดนี้อีกไกล คนทานบุฟเฟต์ ต้องเริ่มต้นจากความอร่อย พอใจในรสชาติ และตัดสินใจใช้ซ้ำจากความคุ้มค่าของเงินที่จ่าย มันเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจใช้เงิน ไม่ยากเกินไปที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการซ้ำ” คุณวิรัตน์ กล่าว
ปัจจุบัน ลัคกี้ สุกี้ มีจำนวนทั้งหมด 15 สาขา ได้แก่ ชั้น 2 อ่อนนุช พลาซ่า คอมมูนิตี้มอลล์, ชั้น 1 โลตัส บางนา-ตราด บริเวณลานจอดรถในอาคาร, ชั้น 2 ท็อปส์ สาธุประดิษฐ์ 49, ชั้น 1 โลตัส คลองหลวง, ชั้น 1 The ForRest พหลโยธิน-รังสิต, ชั้น 1 โลตัส บางกะปิ, ชั้น G Paradise Park
ชั้น B อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง, ตึก B ชั้น 2 Charn แจ้งวัฒนะ, ชั้น 1 โลตัส บางใหญ่, ชั้น 1 อยุธยา ซิตี้ พาร์ค, ชั้น 2 เดอะพร้อม ดินแดง, ชั้น 1 เอ็มที คูคต ไลฟ์สไตล์มอลล์, ชั้น 1 แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ และ ชั้น 1 เดอะสเฟีย เพชรเกษม
ลัคกี้ บาร์บีคิว มีจำนวนทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ ชั้น G Paradise Park ศรีนครินทร์ ใกล้กับ Villa Market, ชั้น 1 โลตัส บางใหญ่, ชั้น 2 เอ็มที คูคต ไลฟ์สไตล์มอลล์, ชั้น 1 อยุธยา ซิตี้ พาร์ค, ชั้น 1 ท็อปส์ สาธุประดิษฐ์ 49 และ แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 28 มกราคม 2568
จากแอร์โฮสเตสสาวที่ลาออกมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยเงินสนับสนุนจากทางบ้าน หวังเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่นานร้านก็ต้องปิดตัว เพราะไม่ทำกำไร เธอไม่ยอมแพ้ ลองทำเบเกอรี่ฝากขาย แต่ก็ล้มเหลวอีกครั้งในเวลาเพียง 1 เดือน จนวันหนึ่ง การเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงทำให้เธอได้ลองชิม ‘พายหมูแดง’ นำมาสู่การคิดค้นสูตรพายที่ถูกปากคนไทย นี่คือเรื่องราวของ คุณอร–กนกกัญจน์ มธุรพร เจ้าของ April’s Bakery ที่สร้างยอดขายทะลุ 630 ล้านบาท! คุณอร มีพื้นเพเป็นชาวนครสวรรค์ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ด้านบริหารธุรกิจ และเคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินต่างชาติอยู่ 2 ปีเศษ ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยขอทุนทางบ้านมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ในคอมมูนิตี้แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เปิดได้ไม่ถึงปีก็ต้องปิดตัว เพราะไม่ทำกำไร จากนั้นได้หันไปทำเบเกอรี่สไตล์อิตาเลียนฝากขายตามห้างสรรพสินค้า แต่ก็ ‘เจ๊ง’ ในเวลาเดือนเศษ เพราะไม่เคยศึกษาตลาด หรือพฤติกรรมของลูกค้ามาก่อน แต่คุณอรยังเหลือไว้ 1 สาขา พร้อมกับเปลี่ยนมาขายเค้ก คุกกี้ และมัฟฟินแทน แต่ยอดขายก็ยังไม่กระเตื้อง ขณะเดียวกันก็ยังคิดไม่ออก ว่าจะทำอะไรมาขา
เคทีซี เผยหมวดประกันมีการใช้จ่ายสูงสุดในพอร์ตตลาดบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์บริษัทประกันชั้นนำ เปิดตัวแคมเปญที่หลากหลายสิทธิประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีทุกเจเนอเรชัน ไม่ว่าจะเป็นการชำระเบี้ยประกันปีแรกหรือปีต่ออายุ นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดประกันในปี 2567 เติบโตขึ้น มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งในปี 2568 นี้ เคทีซีจะนำเสนอสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการในหลากหลายรูปแบบทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ รวมถึงประกันภัย กว่า 50 บริษัท เมื่อซื้อพร้อมชำระเบี้ยประกันปีแรกและปีต่ออายุ ทั้งชำระเต็มจำนวนและผ่อนชำระ” ซึ่งในหมวดประกันชีวิตและประกันสุขภาพ การชำระเต็มจำนวนเบี้ยประกันปีแรก และปีต่ออายุกับ พันธมิตรบริษัทประกันชั้นนำที่ร่วมรายการ ได้แก่ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เอไอเอ เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และกรุงเทพประกันชีวิต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 – 30 มิถุนา
โก โฮลเซลล์ ลุยเคาะรั้วมหาวิทยาลัย ชี้ช่องตำแหน่งงาน นำร่อง ม.มหาสารคาม เจาะนิสิตเฉพาะทาง เพิ่มผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ตอกย้ำ Brand Core Value โก โฮลเซลล์ (GO WHOLSALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งค้นหาโอกาสที่สดใหม่ ด้านการเฟ้นหาทรัพยากรบุคคล ลุยชี้แนะนักศึกษาถึงรั้วมหาวิทยาลัย เน้นทำงานตรงสายเสริมแกร่งผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ นำร่องที่แรก ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’! นางสาวยิ่งลักษณ์ นิพนธ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอทางเลือกที่สดใหม่ในทุกมิติ รวมถึงในมิติของการเฟ้นหาบุคลากรที่ธุรกิจค้าส่งวัตถุดิบอาหารมีความต้องการสูง โดยเฉพาะผู้จบการศึกษาในสาขาเฉพาะทางที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขยายงาน ล่าสุดได้เปิดตัวกิจกรรม University Road Show ครั้งที่ 1/2568 เพื่อจับคู่ตำแหน่งงานที่ตรงกับสาขาการเรียนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย โดยเริ่มที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นแห่งแรก ซึ่งในธ
เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนและร้อนมาก เราต้องเผชิญและปรับไลฟ์สไตล์ที่มาพร้อมสภาพอากาศที่ร้อนและมีความชื้นสูง จะดีกว่าไหม…หากเราเตรียมพร้อมและป้องกัน เพราะร่างกายอาจสูญเสียน้ำได้ง่าย ผิวพรรณของเราก็สูญเสียความชุ่มชื้นและต้องสัมผัสกับรังสียูวีจากแดดที่ร้อนแรง และที่สำคัญ ร่างกายก็ยังเกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ได้ นำไปสู่การสะสมของแบคทีเรียและก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังได้อีกด้วย การศึกษาจากสถาบันวิจัยชั้นนำ ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของผิวพรรณในหน้าร้อนอย่างน่าสนใจ โดยวิเคราะห์ภาพรวมฤดูร้อนของประเทศไทยในปัจจุบัน มีอุณหภูมิสูงเฉลี่ย 37-43 °C มาพร้อมค่าดัชนีรังสียูวี หรือ UV Index สูงถึง 11-13 ที่มีส่วนสร้างผลเสียสู่ผิวพรรณและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า เมื่อผู้คนอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งจัด จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็ยิ่งส่งผลให้ผิวแห้งและระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ก็จะทำให้เกิดอาการขาดน้ำอีกด้วย แม้กระทั่งในกลุ่มวัยรุ่นยังพบว่ามีปัญหาสิวและผิวมันมากขึ้น เนื่องจากความร
ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล คิกออฟความสนุกครั้งใหญ่ เดินเครื่องสาดสีสันรับสงกรานต์-ซัมเมอร์ จัดอีเวนต์ที่แซ่บที่สุดแห่งปี เนรมิตโมเมนต์แห่งความประทับใจในมิติใหม่ด้วยอีเวนต์ปาร์ตี้ ชุดนอนสุดชิกในงาน “Central Midnight Sale – The Late Night Club Music Experience” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ชวนลูกค้า สวมชุดนอนมาช้อปปิ้ง กิมมิกเก๋ๆ จากแคมเปญเซลระดับตำนาน “Central Midnight Sale” (เซ็นทรัลมิดไนต์เซล) สานต่อจุดแข็งแบรนด์ดี ดีลปัง เป็นงานเซลที่ครองใจสายช้อปมาอย่างยาวนานให้ช้อปอย่างคุ้มค่า โดยครั้งนี้นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ #ดีลดีไม่ได้อยู่ในฝัน เพราะเกิดขึ้นจริงแล้วที่งานนี้!! รังสรรค์ทุกพื้นที่เพื่อยกระดับประสบการณ์เหนือความคาดหมายในรูปแบบปาร์ตี้มิวสิกในห้าง! ปลุกทุกเอเนอร์จี้ของพลังนักช้อปให้เอนจอยไปกับกิจกรรมไฮไลต์ งานนี้ลูกค้าที่สวมชุดนอนมาร่วมงานยังได้รับสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมร่วมสนุก กับเหล่าดารา อินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมทำคอนเทนต์และกิจกรรมในงานต่างๆ มากมาย ภายในงาน “Central Midnight Sale The Late Night Club Music Experience” จัดขึ้นบริเวณโซนเอเทรียม ชั้น G ห้างเซ็นทรัลชิดลม ด้วยกิจ
