เชื่อว่าหนึ่งในความฝันของผู้ประกอบการร้านอาหารหลายท่าน อยากมีรางวัลการันตี เพื่อเป็นจุดดึงดูดลูกค้าหรือเป็นมุดหมายของนักชิม แต่หนทางและวิธีการที่จะช่วยให้ร้านอาหารคว้ารางวัลและทำความฝันให้สำเร็จได้นั้น ต้องเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่าง
จากเวทีเสวนา “เส้นทางสู่ความเป็นเลิศของอาหารไทยผ่านคู่มือ มิชลิน ไกด์” โดย เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ เจ้าของร้าน Samuay & Sons (ซาหมวย & ซันส์) ที่การันตีด้วยรางวัลมิชลินไกด์ Bib Gourmand จังหวัดอุดรธานี ได้มาถ่ายทอดถึงเส้นทางอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างมาก โดยได้ถ่ายทอดเนื้อหาผ่านเวทีเสวนา ดังนี้

จุดเริ่มต้น
เชฟหนุ่มมุ่งเน้นการรังสรรค์เมนูอาหารจานเด็ด ด้วยวัตถุดิบไทยดั้งเดิม ผสานเทคนิคการปรุงแบบตะวันตกร่วมสมัย นำเสนอ “อาหารอีสานในมุมมองใหม่” ที่มีมากกว่าส้มตำและไก่ย่าง
ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลจากตลาดพื้นบ้านและฟาร์มออร์แกนิก ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบอาหารอีสานสมัยใหม่ ที่ทั้งอร่อย สวยงาม และเปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สัมผัสเสน่ห์ “อาหารอีสานแนวใหม่” อุดรธานี
มุมมองวงการอาหารไทย
“ผมขอพูดในฐานะเชฟต่างจังหวัด การที่เรามีมิชลินเข้าไปในภาคอีสาน ก่อนหน้านั้นอาหารอีสานเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในหมู่นักกิน ด้วยรสชาติที่เข้าถึงได้ แซ่บ สนุก ทำให้อาหารอีสานค่อนข้างเป็นที่นิยม”
เมื่อ ‘มิชลิน ไกด์’ เข้ามา มันทำให้เกิดความตื่นตัวในวงการมากขึ้น ในการที่มีเชฟรุ่นใหม่รวมถึงตัวเชฟหนุ่มเอง ได้นำเสนออาหารอีสานในมุมมองที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งส่งผลให้มีคนทำอาหารอีสานมากขึ้น
“ผมมองว่ามิชลินช่วยผลักดันให้คนเชื่อมั่นในรสชาติและอาหารพื้นถิ่นของตัวเองมากขึ้น”

เรื่องเล่า…วัตถุดิบท้องถิ่น
“สิ่งที่อยากนำเสนอผ่านอาหารคือ ‘วัตถุดิบท้องถิ่น’ ผมว่าวัตถุดิบในทุกๆ ภูมิภาค เราค่อนข้างยึดฤดูกาลเป็นหลัก”
วัตถุดิบในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน อย่างเช่น วัตถุดิบภาคอีสานกับภาคใต้ ราคาย่อมต่างกัน เพราะถึงอย่างไรราคาซีฟู้ดย่อมต้องแพงกว่าแมลงอยู่แล้ว
“ในมุมมองของเชฟ เรามองเห็นคุณค่าวัตถุดิบอาหารท้องถิ่น เราจะทำยังไงให้แขกที่มาทาน รู้สึกอร่อยและเข้าใจเสน่ห์ของมัน นี่เลยเป็นสิ่งที่เราอยากนำเสนอ”
เช่น เห็ดไค เป็นเห็ดที่นิยมนำมาทำอาหาร โดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่เมื่อนำมาผึ่งจนแห้งแล้ว จะส่งกลิ่นหอมคล้าย ‘เห็ดพอร์ชินี’ ที่ญี่ปุ่น แต่เห็ดไค คนอีสานนิยมเอามาทำเมนูง่ายๆ อย่างน้ำพริก ‘แจ่วป่น’
โดย เห็ดไค เป็นเห็ดที่เป็นความต้องการของคนในพื้นที่ ขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 400-500 บาท
“ด้วยความที่ไม่ค่อยมีร้านอาหารหยิบนำมาใช้ เพราะต้นทุนสูง เราก็พยายามนำเสนอเรื่องราวที่อยากจะนำเสนอ ร่วมงานกับคนในพื้นถิ่น ไปเรียนรู้และนำมาพัฒนาต่อ แล้วก็เอากลับไปบอกกับชาวบ้านว่ามันเวิร์กนะ”
เป้าหมายในอนาคต
“เรายังทดลองต่อเนื่อง เช่น การที่เราหยิบยกวัตถุดิบอีสานมาทดลอง สิ่งที่ถนัดคือการหมักดอง เห็ดไค สาหร่ายเทา อย่างตอนนี้สิ่งที่สำเร็จแล้ว คือการทำซีอิ๊วจากจิ้งหรีด เป็นการนำสาหร่ายต่างๆ มาตากแห้งและปรุงรสกับเกลือสินเธาว์”
“ในอนาคตข้างหน้าผมก็อยากเห็นพัฒนาการของเชฟรุ่นใหม่ที่มีมุมมองในการตีความอาหารไทยในแต่ละภูมิภาคให้พัฒนาขึ้น
ส่วนผมก็ทำในสิ่งที่รักต่อไปเรื่อยๆ เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยที่อยู่ต่างจังหวัด ที่อยากจะนำเสนออาหารอีสานและต่อยอดวัตถุดิบพื้นถิ่นให้เติบโตไปได้จริง
เรามองไปถึงว่า ถ้าเราสามารถพัฒนาให้เป็นความรู้ และสามารถส่งสิ่งเหล่านี้กลับไปให้เกษตรกรได้ และถ้าเขานำไปแปรรูปได้ก็เป็นผลดี”
ช่องทางการติดต่อ
Website : https://www.samuayandsons.com/th