เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured How to Leadership

คุณแม่ลูกสอง พลิกวิกฤตหลังคลอด ผันตัวเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ สร้างรายได้เข้ากระเป๋าเดือนละ 3 แสน จาก 5 เคล็ดลับนี้!

การหารายได้บนออนไลน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการสร้างความมั่งคั่งได้จริง หากมีความตั้งใจ เรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับโลกออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากเรื่องราวสุดปังของคุณแม่ลูกสองอย่าง Rachel Jimenez ที่พลิกวิกฤตหลังคลอด สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์สุดฮิต ทำเงินเข้ากระเป๋าทุกเดือนแบบสบายๆ

เธอเล่าว่าเมื่อ 4 ปีก่อน ชีวิตเรียกได้ว่ามรสุมถาโถม ทั้งภาวะซึมเศร้าหลังคลอดลูกคนที่สอง แถมงานประจำก็ไม่ตอบโจทย์ความฝัน จนรู้สึกชีวิตมันตันไปหมด แต่แทนที่จะยอมแพ้ เธอกลับมองหาทางออกให้ชีวิต ด้วยการเริ่มทำสิ่งที่ตัวเองรักบนแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังอย่าง Etsy

จากแค่อยากลองขายพวกไฟล์ดิจิทัลง่ายๆ อย่างเทมเพลตธุรกิจ หรือเกมปาร์ตี้เล็กๆ น้อยๆ ใครจะไปคิดว่ามันจะกลายเป็นขุมทรัพย์สร้างรายได้มหาศาล แต่ต้องบอกว่าในช่วงแรกๆ ก็ไม่ได้สวยหรูอะไร ต้องเจียดเวลาเลี้ยงลูกเล็กๆ 2 คน มานั่งทำ มานั่งขาย แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ

มาวันนี้ คุณแม่นักสู้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจเสริมที่ทำจากบ้านสบายๆ แต่โกยเงินเข้ากระเป๋าเดือนละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3 แสนบาท แถมยังเป็นรายได้แบบ Passive Income หรือรายได้ที่เข้ามาเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้ลงแรงตลอดเวลา อยากรู้ไหมว่าเธอทำได้อย่างไร และมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

5 เคล็ดลับเด็ด! สร้างรายได้จากออนไลน์

1. ทำน้อยแต่ได้มาก คือหัวใจสำคัญ ช่วงแรกที่เริ่มทำ เธอก็ทำทุกอย่างที่อยากทำ แต่ผลลัพธ์กลับไม่ปัง ทั้งโพสต์โซเชียล เขียนบล็อก เปลี่ยนสินค้าไปเรื่อย สุดท้ายก็ไม่เวิร์ก แต่พอมาดูสถิติลูกค้าจริงๆ กลับพบว่า เทมเพลตทำงบประมาณที่ทำง่ายๆ กลับขายได้เรื่อยๆ เลยตัดสินใจโฟกัสแค่สิ่งที่ขายได้จริงเท่านั้น เลิกทำอะไรที่ไม่สร้างรายได้ เพื่อเอาเวลาไปทำสิ่งที่ใช่จริงๆ

2. ใช้ข้อมูลช่วยนำทาง ตอนแรกทำแผนการเงินขาย เพราะชอบและทำง่าย แต่คู่แข่งเยอะ แถมคนซื้อไม่มาก เธอเลยเรียนรู้ว่าต้องตามเทรนด์ หาไอเดียสินค้าที่คนต้องการเยอะ แต่คู่แข่งน้อย เครื่องมือช่วยหาเทรนด์อย่าง Pinterest Trends, Google Trends, และ eRank 

3. ลงมือทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ เธอเคยเรียนคอร์สเกี่ยวกับการขายของดิจิทัลบน Etsy ในปี 2019 ซึ่งเป็นเหมือนจุดพลุให้ธุรกิจจากคอร์สนี้ และการศึกษาคนที่ทำสำเร็จ เธอรู้ว่าต้องวิจัยตลาดและทดสอบก่อนจะทุ่มเงินทุ่มเวลาไปกับอะไรที่ไม่แน่ว่าจะขายได้ อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “รูปภาพสินค้าต้องสวย” ช่วงแรกๆ ทำสินค้าดี แต่รูปไม่สวย ยอดขายก็ไม่มา รูปแรกที่ลูกค้าเห็นสำคัญกว่าที่คิดเยอะ ที่สำคัญที่สุดคือ ทำทุกวัน แม้จะมีลูกเล็ก ก็หาเวลาทำตลอด ลูกหลับก็ทำ! อุ้มลูกก็ดูวิดีโอเรียนรู้ ทำสม่ำเสมอ ผลลัพธ์มาแน่นอน

4. ทำคนเดียวไม่ไหวต้องหาตัวช่วย เธอรู้เลยว่าถ้าจะให้ธุรกิจไปรอด ต้องกล้าขอความช่วยเหลือและลงทุนจ้างคนอื่นมาช่วย เธอจ้างแม่บ้านมาดูแลเรื่องในบ้าน สามีก็ช่วยทำอาหาร ทำให้เธอมีเวลาโฟกัสกับธุรกิจได้เต็มที่ นอกจากนี้ เธอยังเข้าไปอยู่ในกลุ่มคอมมูนิตี้ออนไลน์ของผู้เรียนคอร์ส Etsy เดียวกัน คอยถาม คอยแชร์ ไม่กลัวว่าจะน่ารำคาญ! ใช้ทรัพยากรที่มีให้คุ้มค่าที่สุด

5. ยอมเหนื่อยสั้นๆ เพื่อสบายยาวๆ เธอเริ่มธุรกิจ Etsy ตอนลาคลอดลูกคนที่สอง ช่วงนั้นอาจจะเหนื่อยหน่อย ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่เธอมองว่ามันเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ยอมเหนื่อยไม่กี่เดือน เพื่อที่จะได้มีอิสระทางการเงินและมีเวลาอยู่กับลูกๆ ได้มากขึ้นในระยะยาว เธอเปรียบเทียบกับโมเดล PERMA ในจิตวิทยาเชิงบวก ที่บอกว่าชีวิตที่ดีต้องมีทั้งอารมณ์ดี การมีส่วนร่วม ความสัมพันธ์ ความหมาย และความสำเร็จ การทำธุรกิจเสริมนี้แหละที่เติมเต็มทุกอย่างให้เธอ

โมเดล PERMA เป็นทฤษฎีด้านจิตวิทยาเชิงบวกที่พัฒนาโดย ศาสตราจารย์มาร์ติน เซลิกแมน (Martin Seligman) ซึ่งถือเป็นบิดาแห่งจิตวิทยาเชิงบวก โมเดลนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออธิบายและส่งเสริม ความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) และความสุขที่ยั่งยืน ในชีวิตมนุษย์ โดย PERMA เป็นตัวย่อขององค์ประกอบสำคัญ 5 ประการ ดังนี้

P-Positive Emotion (อารมณ์เชิงบวก) การรู้สึกถึงอารมณ์ที่ดี เช่น ความสุข ความยินดี ความรัก ความหวัง ความซาบซึ้งใจ การมองโลกในแง่ดี การสนุกสนาน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เรามีทัศนคติที่ดีและรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้

E-Engagement (การมีส่วนร่วม) การรู้สึกจดจ่อ มีสมาธิ และอินไปกับกิจกรรมที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก งานที่ทำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เราสนใจ จนบางครั้งอาจจะรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก ภาวะนี้มักเรียกว่า “Flow” การมีส่วนร่วมช่วยให้เรารู้สึกมีคุณค่าและมีความหมายกับสิ่งที่ทำ

R-Relationships (ความสัมพันธ์) การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีและมีความหมายกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือคนในสังคม การได้รับการสนับสนุน ความรัก ความเข้าใจ และการรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ช่วยส่งเสริมความสุขและความรู้สึกปลอดภัย

M-Meaning (ความหมาย) การรู้สึกว่าชีวิตมีเป้าหมาย มีคุณค่า และได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่ตนเอง การเชื่อมโยงกับบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญ เช่น การช่วยเหลือผู้อื่น การทำงานเพื่อสังคม หรือการยึดมั่นในคุณค่าบางอย่าง ทำให้ชีวิตมีความหมายและเติมเต็ม

A-Accomplishment (ความสำเร็จ) การรู้สึกว่าตนเองสามารถทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้ บรรลุเป้าหมาย และมีความรู้สึกของความสำเร็จและความภาคภูมิใจ การมีเป้าหมายที่ท้าทายและพยายามไปให้ถึง จะช่วยเสริมสร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง

เรื่องราวของคุณแม่ท่านนี้ไม่ได้มาจากการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังเหลือล้น แต่มาจากการวางแผนที่ดี โฟกัสในสิ่งที่สำคัญ และไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ วันนี้ เธอมีอิสระและความยืดหยุ่นในชีวิตที่เคยใฝ่ฝัน แถมยังได้ทำสิ่งที่รักและสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน

Related Posts

ภาพบรรยากาศในงานปี 2024