เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Exclusive Featured SMEs ข่าววันนี้

“บรรทัดทอง” ครวญ รู้ต้องปรับตัว แต่ขอแรงรัฐบาล ช่วยแจงต่างชาติ ประเทศไทยปลอดภัย!

บรรทัดทอง ตั้งต้นจากการไม่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวยุโรป แต่ดังในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและเอเชีย ช่วงพีกมีนักท่องเที่ยววันหนึ่งนับหมื่น ซึ่งประเมินว่านักท่องเที่ยว 1 คนน่าจะมีการจับจ่ายราว 250-500 บาท แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ซิงซิง ดาราจีน หายตัวไปช่วงมาประเทศไทย นักท่องเที่ยวหลักของบรรทัดทอง คือคนจีน ก็หายไปอย่างน่าใจหาย และหลังเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม ทำให้นักท่องเที่ยว ยกเลิกการมาเมืองไทยกับบริษัททัวร์แทบเป็นศูนย์เลยทีเดียว

ข้อมูลดังกล่าว คือส่วนหนึ่งจากปาก คุณสิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ซึ่งเคยให้ข้อมูลกับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ไว้

และวันเดียวกันนั้น เขาได้เชิญฝ่ายการเมือง นำโดย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” มาร่วมสำรวจสภาพจริงบนถนนบรรทัดทอง ที่จากเคยขายดิบขายดีกันทุกร้าน กลายสภาพมาเป็นเงียบเหงา ห้องเช่าแขวนป้าย “เซ้ง” กันเป็นแถว  

“สตรีตฟู้ดเมืองไทย เป็นที่ขึ้นชื่อในหมู่ชาวต่างชาติ และยังช่วยส่งเสริการการท่องเที่ยวได้ดีมาก แถมมีเสน่ห์อย่างแรง แต่ยอมรับว่าของค้าขายในย่านใจกลางเมือง มักมีราคาแพง ถ้ายังมีถนนสายอาหาร ที่ราคาจับต้องได้ บรรทัดทอง จะกลายเป็นเสน่ห์กลางเมืองตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี” รองประธานสภาฯ กล่าวไว้เมื่อครั้งนั้น

และแม้เวลา จะผ่านมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ปัญหาของ “บรรทัดทอง” ก็ดูเหมือนยังไม่ถึงไหน และไม่ชัดเจนว่าจะมีใครเป็น ”เจ้าภาพหลัก” ในเรื่องนี้ คงมีแต่สื่อมวลชน หลายต่อหลายสำนัก ที่ลงพื้นที่ สำรวจสภาพจริงให้เห็นด้วยตา และสอบถามความรู้สึกของผู้ประกอบการ ที่ยังยืนระยะอยู่ได้ถึงเวลานี้   

คุณนัท สุทธิพงษ์  ทายาทรุ่นที่  3 เจ้าของร้านข้าวต้มเทเวศร์ กิจการเก่าแก่อายุ 70 ปี ที่ล่าสุดมาเปิดสาขาที่ 2 ในย่านบรรทัดทอง กรุณาสละเวลามาให้ข้อมูลในครั้งนี้ ว่า

“เพิ่งเปิดสาขา 2 ได้ 6 เดือน สาเหตุที่มาเปิดย่านสำคัญนี้ ที่จริงวางแผนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว จริงๆ มองไว้หลายทำเล อย่าง เยาวราช ทรงวาด และบรรทัดทอง ปรากฏว่าทรงวาดไม่น่าจะเหมาะกับร้านข้าวต้มกุ๊ย ก็เหลือแค่บรรทัดทอง กับ เยาวราช ซึ่งบอกตามตรงเรื่องค่าเช่า เยาวราชไม่ได้ถูก ฉะนั้น เหลือแค่ทำเลไหนจะตอบโจทย์ในอนาคต ที่สุดแล้วตัดสินใจเลือกบรรทัดทอง ซึ่งยังพอมีที่เหลือให้บ้าง เลยได้อยู่ปลายๆ บรรทัดทอง เกือบจะออกพระราม 4 แล้ว” คุณนัท เริ่มต้นอย่างนั้น

ก่อนขอชี้แจงถึงการเกิดขึ้นของ “สมาคมผู้ประกอบการบรรทัดทอง” ว่า  เพิ่งมีการรวมตัวก่อตั้งโดยผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งมองว่ากระแสเริ่มมีปัญหา หากปล่อยไว้ร้านค้าที่เหลือจะอยู่ไม่ได้ และมองเห็นแล้วว่า การแก้ปัญหาด้วยอินฟลูฯ ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง

คุณนัท บอกต่อว่า พวกเราอยากให้ทุกร้านอยู่ได้อย่างยั่งยืน เลยช่วยกันลิสต์ปัญหาในบรรทัดทองขึ้นมา ปรากฏได้ออกมา 3 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกคือ ความสะอาด ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบทำได้ดี แต่ช่วงที่ก่อนหน้านี้ ที่ร้านค้าขายดีมากๆ อาจทำได้ไม่ทันการณ์ หรือทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น เลยทำให้มีปัญหาเรื่องหนู จึงอยากให้เพิ่มการแก้ปัญหานี้

ปัญหาที่สองคือ เรื่องของความปลอดภัย ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยมาก จึงอยากให้อาศัยจังหวะนี้ที่ผู้คนไม่มากหน้าหลายตาเหมือนเมื่อก่อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเน้นเรื่องความปลอดภัยและถือโอกาสสื่อให้ต่างชาติได้รับรู้

และปัญหาใหญ่เรื่องที่สาม เป็นประเด็นที่อ่อนไหวมาก คือหาบเร่แผงลอยทำไมบอกว่าค่าเช่าที่แพง คงต้องอธิบายว่า เพราะก่อนหน้านี้ บรรทัดทอง สามารถวางโต๊ะ ใช้พื้นที่หน้าร้านตัวเองได้บ้าง พวกเขาเลยสามารถมีรายได้มาช่วยเรื่องค่าเช่าที่ได้ ซึ่งการที่หน่วยงานเจ้าของที่ เขาก็มีกติกากำหนดเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ผู้ค้าบางส่วนในช่วงแรกเขาก็รับไหว เพราะสามารถตั้งโต๊ะได้มากขึ้น แต่วันนี้เจอหน่วยงานราชการเข้มงวดขึ้น

“ผมในฐานะผู้ประกอบการ อยากส่งเสียงสะท้อนไปยังหน่วยงานว่า ขอพื้นที่กลับมานิดหนึ่งได้ไหม เราไม่ได้บอกว่าจะต้องได้พื้นที่ 2 ฝั่งจนคนเดินไม่ได้ มันไม่ใช่ วันนี้หน่วยงานราชการ บอกต้องเว้นไว้ 80 เซ็นต์ เราขอแค่ 20 เซ็นต์ ขอแค่ตั้งโต๊ะได้ตัวหนึ่ง เพราะวันนี้ตั้งเก้าอี้ได้แค่ตัวเดียว แล้วนั่งทานไม่ได้ เราขอแค่นี้”

“ที่ผ่านมา อาจมีหลายคนได้รับข้อมูลเจอบิดเบือนว่าพวกเราจะใช้พื้นที่สาธารณะ ทั้งที่ในความเป็นจริง ผู้ประกอบการทุกคนเข้าใจมุมของประชาชนผู้ใช้ทางสัญจร แต่อย่าลืม ประเทศไทยเป็นคิงออฟสตรีตฟู้ด ฉะนั้น ก็ต้องถามว่าคุณจะรักษามันไว้ หรือคุณยังจะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แห้งๆ ต้องเดินเข้ามาในร้าน กว่าจะเห็นบรรยากาศ ต้องส่องกระจกเข้ามามอง เสน่ห์สตรีตฟู้ดมันหายไป” ผู้ประกอบการย่านบรรทัดทอง กล่าว

และว่า ถ้าพูดในแง่ลูกค้าคนไทย ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อหาย เพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่มีมาตั้งแต่โควิดแล้ว ซึ่งเป็นกันทั่วโลก ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการ ก็ใช้เงินก้นถุงที่มีเกือบหมดแล้ว พอผ่านโควิดมาแล้วคิดว่าน่าจะดีขึ้น ปรากฏต้องเจอสถานการณ์เต็มไปหมดเลย ทั้งสงคราม การ Disrupt หลายๆ เรื่อง ผู้ประกอบการเองต้องปรับตัว เป็นเรื่องที่พวกเรายอมรับอยู่แล้ว

“ประเด็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องบอกว่าหายไปเพราะเรื่องความปลอดภัยของไทยมีปัญหา ตรงนี้แหละครับ ถ้าเรียกร้องไปถึงรัฐบาลได้ ก็อยากให้จัดการระบบภายในประเทศให้ดี ดูแลแต่ละหน่วยงานให้อยู่ในร่องในรอย แล้วประกาศให้ดังๆ ให้ต่างชาติเขารับรู้ว่า ประเทศไทยเราเปลี่ยนไปนะ เรายังเป็นยิ้มสยามเหมือนเดิม และยิ้มแบบปลอดภัยด้วย ไม่ได้ยิ้มแบบหลอกลวง ขอแค่นี้ครับ” คุณนัท ฝากไว้อย่างนั้น

Related Posts

ซีอีโอมือใหม่
เริ่มต้นเป็นเพียงอาชีพเสริมช่วงปิดเทอม สู่แบรนด์ Yim.leklek
เปิดเคล็ดลับสร้าง Storytelling
Petfluencer มาแรง! ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่สามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของ