เปิดสูตร ยำกระเจี๊ยบแดง เมนูลดความดัน-ไขมัน บำรุงโลหิต สร้างความแข็งแรงให้หลอดเลือด
* ระวังการใช้ในขนาดเข้มข้น หรือขนาดสูงต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ และอาจเกิดอาการท้องเสียได้ในบางราย
จากงานอดิเรกของบล็อกเกอร์สาว สู่ธุรกิจหลัก เดือนละ 13 ล้าน! “Penny Linn Designs” ธุรกิจปักเฟรมผ้าใบ จากขายเล็กๆ บนออนไลน์ สู่หน้าร้าน แฟนคลับต่อแถวตั้งแต่ตี 5 ในยุคที่เศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน การหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำแล้วนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในแต่ละวัน แต่ละเดือน มีค่าใช้จ่ายตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน ดังนั้น การหารายได้เสริมจะช่วยทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีทางเลือกมากขึ้น เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ คริสต้า เลอเรย์ (Krista LeRay) สาววัย 33 ปี ที่สามารถเปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นรายได้หลักที่มั่นคงได้ คริสต้า เลอเรย์ เธอใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงขายผ้าใบปักเข็ม สร้างรายได้ถึง 25,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 875,000 บาท หลังจากเปิดตัว “Penny Linn Designs” เมื่อกันยายนปี 2020 ครั้งแรกดูเหมือนจะไปได้สวย แต่เมื่อมานั่งคิดบัญชีจริงๆ ถึงรู้ว่าผ้าใบเล็ก ประมาณ 4×4 นิ้ว ที่ขายผืนละ 50 ดอลลาร์ ประมาณ 1,675 บาท ต้องใช้เวลาวาดถึง 6 ชั่วโมง ใช้เวลาทำกันอยู่ 4 เดือน กว่าจะเสร็จแต่ละผืน เมื่อหักค่าวัสดุไปกำไรที่ได้ก็ตกแค่ชั่วโมงละ 2 ดอลลาร์ หรือประมาณ 67 บาท “ตอนนั้นคิดเลยว่าแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ จ
“ข้าวเหนียวมะม่วง” เมนูของหวานไทยๆ ที่หารับประทานได้ทั่วไป แต่จะว่าไป อาจหาเจ้าที่อร่อยจริงๆ ได้ยาก แต่มีอยู่เจ้าหนึ่งที่การันตีความอร่อยและแตกต่าง ด้วยการใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีการทำที่เจ้าของศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมาอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นร้านที่เคยเกิดปรากฏการณ์ลูกค้าต่อคิวซื้อมาแล้ว ร้านที่ว่าคือ “อยู่ ดี มี สุข ข้าวเหนียวมะม่วง” ของ คุณเบสท์–ณัฐธนนท์ สิทธิปัญญพัฒน์ ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ Haus Ari3 ซอยอารีย์ บริเวณเดียวกับร้านข้าวผัดอเมริกัน Lucky’s Hungry และมีบูธขายที่ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ เจ้าตัวเล่าว่า กว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาไม่น้อย “ธุรกิจที่บ้านเจอวิกฤตทางการเงิน ผมจึงตัดสินใจเลิกเรียนกลางคัน ทั้งๆ ที่เพิ่งเรียนไปปีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นภาระของที่บ้าน” คุณเบสท์ เกริ่น ก่อนย้อนให้ฟังว่า “ครอบครัวเปิดร้านขายหมูในตลาดคลองเตย เรียกว่ามีฐานะปานกลาง แต่พอปี 2554 ทางบ้านประสบวิกฤตทางการเงิน เพราะพ่อกับแม่ทำการค้าแบบไม่มี Know How เลย ประกอบกับก่อนหน้านั้นมีสถานการณ์ทางการเมืองและน้ำท่วมใหญ่ อีกทั้งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยม
วัยเกษียณ ยังมีไฟ! โอกาสทำงานมาแล้ว รวมบริษัทเปิดรับสมัครงานผู้สูงวัย พร้อมช่องทางการสมัคร วัยเกษียณ ยังไม่หมดไฟ! หลายบริษัทและองค์กรใหญ่ เปิดรับสมัครงานผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สำหรับใครที่สนใจมาดูรายละเอียดกันได้เลย 1. ซีเจ มอร์ เปิดรับสมัคร ซีเจ ซีเนียร์ พลัส หน้าที่ความรับผิดชอบ พนักงานร้านกาแฟ Bao Café หรืองานอื่นๆ ใน CJ อัตราค่าจ้าง 50 บาทต่อชั่วโมง คุณสมบัติ อายุ 55 ปีขึ้นไป วุฒิการศึกษา ป.6 ขึ้นไป หรืออ่านออกเขียนได้ ลักษณะการทำงาน พนักงานพาร์ทไทม์ ทำงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ตามตารางที่ผู้จัดการสาขากำหนด สวัสดิการ ทำงานวันหยุด กองทุนเงินทดแทน ตรวจสุขภาพประจำปี ประกันชีวิต หมายเหตุ ตรวจสุขภาพประจำปี จะได้รับกรณีที่ทำงานต่อเนื่อง 1 ปี และได้รับการต่อสัญญา ส่วนประกันชีวิตจะได้รับกรณีทำงานต่อเนื่อง 1 เดือนขึ้นไป สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ : 02-026-2233 ไลน์ : @CJMORE 2. บิ๊กซี เปิดรับสมัครผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผ่านโครงการ “พี่ใหญ่ไฟแรง” คุณสมบัติ เพศชาย-หญิง อายุ 60 ปีขึ้นไป วุฒิ ม.3 – ปริญญาตรี มีสัญชาติไทย สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีใจรักงานบริการ สามารถทำงานเป็นกะได้ ช่อง
ไม่มีใครวางแผนที่จะเป็นหนี้ และไม่มีใครที่อยากจะเริ่มต้นใหม่ตอนอายุเกือบ 50 แต่บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้เรามีเวลาตั้งตัวเสมอไป สำหรับบางคน วันที่ไม่มีงาน ไม่มีเงิน และไม่มีใครให้พึ่งพิง คือวันที่พวกเขาต้องเลือกว่าจะ “ยอมแพ้” หรือ “ลุกขึ้น” แต่สำหรับเจ้าของเรื่องราวครั้งนี้ เขาเลือกที่จะลุกขึ้น แม้ไม่มีอะไรอยู่ในมือเลยก็ตาม นอกจากความตั้งใจและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ คุณฮาท-พงษ์ศักดิ์ คันธโชติ คนขับ GrabFood วัย 50 ปี จากโคราช ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ คือหัวหน้าครอบครัวที่เคยต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่หนักหนาในชีวิต โดยก่อนหน้านี้ เคยทำงานต่างประเทศ ทั้งลาวและเกาหลีใต้ มีรายได้ประมาณ 45,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูครอบครัวได้ไม่ลำบาก แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ในปี 2563 รายได้ที่เคยมีกลับหยุดชะงัก ในช่วงเวลาที่ต้องการใช้เงินมากที่สุดในชีวิต กับการส่งลูกสาวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงไม่ใช่น้อย “ตอนนั้นเครียดมาก รายได้หายไปหมด ไม่มีเงินเข้ามาเลย ในขณะที่รายจ่ายยังรออยู่เต็มไปหมด ตอนนั้นคิดแค่ว่า จะทำอะไรก็ได้ให้มีรายได้เข้ามาก่อน” ด้วยเหตุนี้ เ
จากสูตร ยำขาว ไทยๆ “1-1-ครึ่ง” 1 คือ น้ำปลา 1 ส่วน อีก 1 คือ น้ำมะนาว 1 ส่วน และครึ่ง คือ น้ำตาล บ้านเรายังมี “ยำดำ” ซึ่งก็คือน้ำยำขาวนี่ล่ะ แต่เพิ่มน้ำพริกเผาลงไป สูตรจะกลายเป็น น้ำปลา 1 น้ำมะนาว 1 น้ำพริกเผา 1 น้ำตาลครึ่ง ยำดำ นิยมทำเป็น ยำถั่วพู ยำหัวปลี ยำกระท้อน ยำผลไม้ ยำส้มโอ ยำเกสรชมพู่มะเหมี่ยว โรยหัวกะทิเคี่ยว ถั่วลิสงป่น มะพร้าวคั่วป่น ยำดำนี้ ตอนหลังร้านอาหารชอบเอามาทำเป็นพล่าใส่น้ำพริกเผา พล่าแบบตำรับเดิมๆ ไม่ได้ใส่น้ำพริกเผา ของที่เป็นพล่ามักทำกับของกึ่งดิบกึ่งสุก เช่น กุ้งเผา เนื้อปลาสดสับบีบน้ำมะนาวให้สุก (ซึ่งจริงๆ คือไม่สุก) เช่น พล่าปลาอินทรี พล่ากุ้งเผา พล่ากุ้งดิบ พล่าของทะเลลวก เครื่องพล่าเพิ่มเติมเครื่องขึ้นมา มี กระเทียมสับ ตะไคร้อ่อนซอย หอมแดงซอย ใบสะระแหน่ ใบมะกรูดซอย พล่า มักทำรสให้จัดมากกว่ายำ อาจจะเพิ่มน้ำมะกรูดลงไปในส่วนของเปรี้ยว สูตรกลายเป็น น้ำปลา 1 น้ำมะนาวครึ่ง น้ำมะกรูดครึ่ง น้ำตาลครึ่ง อีกขั้นของน้ำยำขาว ถูกพัฒนาขึ้นเป็นน้ำยำซีฟู้ดหรือน้ำจิ้มซีฟู้ด สัดส่วนของน้ำยำยังคล้ายของเดิมคือ น้ำปลา 1 น้ำมะนาว 1 น้ำตาลครึ่ง น้ำกระเทียมดองครึ่ง เพิ่มกระเทียม ร
ของกินเล่นที่พบเห็นได้บ่อยๆ ที่เวียดนามโดยเฉพาะที่นครโฮจิมินห์อย่างหนึ่งคือ “บั๊นจร้างเนื้อง” (Bánh tráng nướng) ซึ่งมีความหมายว่า ใบเมี่ยงญวนย่าง บางทีก็เรียกว่า “บั๊นจร้างเนื้องดาลัท” (Bánh tráng nướng Đà Lạt) ตามชื่อเมืองดาลัด เมืองท่องเที่ยวบนภูเขาสูงทางภาคใต้ของเวียดนามที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี หรือชื่อเมืองอื่นๆ ตามแต่ที่มา ซึ่งแต่ละที่ก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียดของส่วนผสม แต่โดยหลักๆ แล้วแทบไม่ต่างกันค่ะ แม่ค้าขายบั๊นจร้างเนื้องมักจะหาบไปจอดขายตามสถานที่ท่องเที่ยว สวนสาธารณะ หรือหน้าโรงเรียน เพื่อขายให้เป็นของกินเล่น ในหาบนั้นมีจะเตาถ่านพร้อม เพราะขนมชนิดนี้ต้องย่างค่ะ หรือบางทีก็ยึดที่บนฟุตปาธริมถนนเปิดเป็นร้านมีโต๊ะเก้าอี้พลาสติกเตี้ยๆ ให้นั่งกินกันไปมองผู้คนกันไปตามแบบวิถีชีวิตของคนเวียดนาม การทำนั้นไม่ยุ่งยาก วัตถุดิบเป็นของที่มักมีติดบ้านอยู่แล้ว ยกเว้นน้ำพริกซาเต้ หรือภาษาเวียดนามเรียกว่า “เอิ๊ตโคซาเต้” (Ớt khô satế) คือน้ำพริกผัดที่มีส่วนผสมของพริก กระเทียม ตะไคร้ โดยนำไปโขลกหยาบๆ แล้วผัดน้ำมันปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือ ทำนองเดียวกับน้ำพริกเผาของเรา เก็บใส่ขวดไว้ใช้ทำอาห
อากาศร้อนๆ แบบนี้ อาจจะส่งผลถึง ‘สุขภาพใจ’ แบบไม่รู้ตัว เช่น บางคนมีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิในการทำงาน ไม่อยากพบเจอผู้คน ไม่อยากออกจากบ้าน แต่รู้หรือไม่ อาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของ ‘อาการซึมเศร้า’ จะคล้ายๆ กับคนที่รู้สึกเศร้า หดหู่ หรือรู้สึกเหงาๆ ช่วงหน้าหนาว หลายคนอาจมองว่า แค่เหนื่อยหรือตัวเองเป็นคนขี้ร้อนเฉยๆ แต่รู้หรือไม่ว่า อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ ‘ภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล’ หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า SAD (Seasonal Affective Disorder) โดยทั่วไป คนมักจะพูดถึงอาการ SAD ในช่วงฤดูหนาว เพราะด้วยอากาศที่เย็นและมีแดดน้อย ทำให้รู้สึกหดหู่ แต่ในประเทศไทย จะมาในรูปแบบตรงกันข้าม นั่นคือ “Summer Depression” หรือภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูร้อนนั่นเอง อาการของ Summer Depression – นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท – เบื่ออาหาร น้ำหนักลด – กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย – รู้สึกเครียด วิตกกังวลแบบไร้สาเหตุ – บางครั้งอาจมีพฤติกรรมรุนแรงหรือก้าวร้าว – ขาดสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดได้นาน โดยอุณหภูมิที่สูงและแสงแดดที่แผดเผา มีผลต่อการทำงานของสารเคมีในสมอง เช่น ซีโรโทนิน และเมลาโทนิน ซึ่งเกี
หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “You are what you eat” เป็นประโยคฮิตทรงพลังที่สะท้อนความจริงว่า อาหารที่เรารับประทานส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเรา และเนื่องในวันอนามัยโลก (World Health Day) เดือนเมษายนของทุกปี ดร.ภญ. วิภาดา แซ่เล้า ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการศึกษาและฝึกอบรมด้านโภชนาการ เฮอร์บาไลฟ์ เอเชียแปซิฟิก อยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจถึงบทบาทสำคัญของโภชนาการที่มีต่อชีวิตไปด้วยกัน มื้ออาหารที่สมดุลหน้าตาเป็นแบบไหน? สำหรับหลักการง่าย ๆ จำแค่“Quarter, Quarter, Half (หนึ่งในสี่ หนึ่งในสี่ และครึ่งหนึ่ง)” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดสัดส่วนอาหารที่เหมาะสมในมื้ออาหารที่สมดุล คาร์โบไฮเดรต แหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ขอเริ่มด้วยสารอาหารสำคัญอย่าง “คาร์โบไฮเดรต” ที่มีความสำคัญต่อร่างกาย เป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับสมองและเม็ดเลือดแดงของเรา โดยแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่ดี ได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ผลไม้ และผัก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตนิวเทรียนต์ที่ดีอีกด้วย คาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพต้องอยู่ในรูปแบบธรรมชาติที่ไม่ผ่านการขัดสี ซึ่งยังคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน การนำธัญ
สำหรับชาวลาวแล้ว ‘คั่วหมี่’ (ຂົ້ວໝີ່) เป็นก๋วยเตี๋ยวผัดที่เป็นที่นิยมที่สุด มักขายกันตามตลาดและแผงริมถนน เป็นอาหารราคาถูกที่ใครๆ ก็ซื้อกินได้ หน้าตาของคั่วหมี่ คือเส้นเล็กผัดสีเข้ม มีรสหวานนำเค็ม มักผัดเส้นเปล่าๆ กับน้ำซอสโดยไม่ได้ใส่เครื่องอะไร อย่างดีก็มีไข่เจียวหั่นฝอยโรยหน้า และแกล้มกับถั่วงอกดิบ ใบสะระแหน่ ต้นหอม และผักชี อันที่จริงคั่วหมี่ของลาวนั้นก็เหมือนกับคั่วหมี่ของทางอีสานรวมถึงผัดหมี่โคราชที่เน้นความอร่อยของเส้นเป็นหลัก อาจมีไข่เจียวฝอย และสามารถใส่เนื้อหมูลงไปด้วย ส่วนผักที่ใช้นั้นหมี่โคราชนั้นหลากหลายกว่า ได้แก่ ถั่วงอก ต้นหอม ผักกุยช่าย แล้วยังผัดกับผักคะน้าได้ ซอสของผัดหมี่โคราชจะเพิ่มเต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก และพริกป่นด้วย คั่วหมี่นี้กินเป็นอาหารจานเดียวก็ได้หรือกินแบบวิเศษสุดคือกินกับตำหมากหุ่ง (ส้มตำ) เป็นคู่หูที่เข้ากันได้ลงตัวที่สุด เพราะตำหมากหุ่งอย่างที่ชาวลาวและชาวอีสานนิยมนั้นใส่พริกไม่ยั้งจึงมีรสเผ็ดไฟแลบ เมื่อกินแนมกับคั่วหมี่ที่มีรสหวานนำจึงเป็นการแก้เผ็ดได้อย่างดี และทำให้อิ่มท้อง วิธีทำคั่วหมี่นั้นไม่ยาก ฉันขอแนะนำให้ใช้หมี่ตะคุของปักธงชัยหรือโคราชมาผัด เ
ชาวขมุ เป็นชนพื้นเมืองที่นับว่าเก่าแก่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ อยู่อาศัยมากในตอนเหนือของประเทศลาว โดยเฉพาะเมืองหลวงพระบาง คำว่า “ขมุ” อ่านว่า ขะ – มุ ซึ่งรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “ลาวเทิง” มีความหมายถึงลาวที่อยู่บนที่สูง ในประเทศไทยส่วนมากอยู่ที่จังหวัดน่าน บางจังหวัดในภาคเหนือและภาคกลาง แต่อย่าไปเรียกพวกเขาว่า “ข่า” เชียวนะ เพราะเป็นคำที่มีความหมายว่า ทาส ซึ่งคงไม่มีใครชอบให้เรียกเช่นนี้ เรื่องของขมุ นั้น ถือว่าไกลตัวมาก ยิ่งอาหารขมุ ฉันยิ่งไม่รู้จักเลย ข้อมูลต่างๆ ของชาวขมุก็มีอยู่น้อยนิด จนอยู่มาวันหนึ่ง มิตรผู้พี่ได้สูตรแกงขมุนี้มา ทำเอาฉันต้องเข้าครัวทันที เพราะแค่นึกภาพตามส่วนผสมก็รู้ว่ามันจะต้องอร่อยแน่ๆ ค่ะ “แกงขมุ” อธิบายง่ายๆ ได้ว่า ทำเหมือนต้มยำไก่น้ำใส ใส่ผักกาดดอง โรยด้วยใบโหระพา และพริกแห้งคั่ว ทำให้แกงน้ำใสชามนี้มีความหอมและรสชาติเค็ม เปรี้ยว แปลกไปกว่าเดิมแต่ยังคุ้นลิ้น เมื่อทำเหมือนต้มยำไก่ ดังนั้น จึงต้องมีไก่ จะให้ดีต้องเป็นไก่บ้าน สับทั้งกระดูกนี่แหละอร่อยที่สุด เครื่องต้มยำเตรียมให้พร้อมทั้งหอมแดง ข่า ตะไคร้ บุบใส่ลงไปต้มกับไก่และผักกาดดองแบบเปรี้ยว เมื่