เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
PR News SMEs เกษตร การเงิน และการตลาด

ภาชนะจากใบไม้และเยื่อพืช ทดแทนพลาสติก เพิ่มมูลค่า วัสดุเหลือใช้ ทางเกษตร

วว. โชว์ ภาชนะจากใบไม้และเยื่อพืช ทดแทนการใช้พลาสติก เพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนาภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ 2 ผลงานวิจัย ได้แก่

ภาชนะใบไม้และภาชนะจากเยื่อพืช เพื่อเป็นวัสดุทดแทนการใช้พลาสติก ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ระบุเป็นผลงานรูปธรรมในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ BCG

“วว. มุ่งเน้นการดำเนินงานวิจัยพัฒนาและบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างคุณค่ามูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจประเทศ การเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรด้วยการพัฒนาเป็นภาชนะในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวันจึงมีประโยชน์ทั้งในแง่ของสิ่งแวดล้อม การเพิ่มช่องทางการดำเนินธุรกิจและการประกอบอาชีพให้กับสังคม”

“ภาชนะใบไม้และภาชนะจากเยื่อพืชมีข้อดีคือ ช่วยลดการใช้ภาชนะพลาสติกและโฟมสำหรับใส่อาหาร ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการเผาขยะพลาสติกที่มีผลต่อสภาวะอากาศที่เป็นพิษในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ มีอายุการเก็บรักษาในที่แห้งได้มากกว่า 6 เดือน โดยไม่เป็นเชื้อรา จึงเป็นผลงานที่ตอบโจทย์สังคมผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอล ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น สะดวกและปลอดภัย” ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าว

ขั้นตอนการผลิตภาชนะใบไม้และภาชนะจากเยื่อพืช มีดังนี้

นำวัสดุธรรมชาติที่สามารถหาได้ในท้องถิ่นหรือสามารถทำการปลูกมาเป็นวัตถุดิบเริ่มต้น โดยวัสดุธรรมชาติอาจจะอยู่ในรูปของใบ ที่มีลักษณะพิเศษ คือ เส้นกลางใบขนาดใหญ่และแข็งแรง เพียงพอที่จะเพิ่มความคงรูปและความแข็งแรงของภาชนะหลังการอัดขึ้นรูปได้

โดยสามารถนำมาอัดขึ้นรูปด้วยความร้อนได้เลย ไม่ต้องผ่านกระบวนการทำให้เป็นเยื่อก่อน เช่น ใบทองกวาว (ใบจาน) ใบตองตึง ใบยาง เป็นต้น ภาชนะที่ได้จะมีรูปทรงตามแม่พิมพ์ที่ขึ้นรูป เช่น จานก้นตื้น หรือชามก้นลึก

ด้วยลักษณะของใบไม้ที่มีสารคิวตินเคลือบผิวใบอยู่ จะทำให้จานจากใบไม้ สามารถกันน้ำและของเหลวด้วยตัวของใบเอง ไม่ต้องเติมสารอื่นๆ เข้าไป โดยข้อดีของการใช้ใบไม้ คือ กระบวนการในการขึ้นรูปได้รวดเร็ว ไม่ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อน ประหยัดค่าใช้จ่าย อายุการเก็บรักษานานกว่า 6 เดือน (ใบทองกวาว และใบตองตึง) โดยไม่มีเชื้อราเกิดขึ้น (ถ้าเก็บในที่แห้ง)

ในส่วนของใบพืชที่เป็นใบขนาดเล็กหรือเป็นเส้นใย เช่น ใบหรือเส้นใยสับปะรด ใยกล้วย ใยผักตบชวา เป็นต้น จำเป็นต้องผ่านกระบวนการทำเยื่อก่อน จากนั้นจึงจะสามารถนำมาอัดขึ้นรูปด้วยความร้อนได้ ข้อดีของภาชนะจากเยื่อพืช คือ ดูดซับน้ำมันได้ในกรณีที่ใส่ของทอด แต่ไม่สามารถกันน้ำได้

สามารถเคลือบผิวด้วยแผ่นฟิล์มพลาสติกสังเคราะห์ชนิดเทอร์โมพลาสติก ที่เป็นเกรดซึ่งใช้กับอาหารได้ เช่น ฟิล์มพอลิโพพิลีน ฟิล์มพอลิเอทิลีน เพื่อให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยฟิล์มดังกล่าวสามารถลอกออกและทิ้งแยกกับตัวจานจากเยื่อได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รับคำแนะนำปรึกษา รับบริการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือถ่ายทอดเทคโนโลยี ติดต่อได้ที่ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ วว. โทร. 0 2577 9000, 0 2577 9439  โทรสาร 0 2577 9426 เว็บไซต์ www.tistr.or.th อีเมล [email protected] Line@TISTR

Related Posts