เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
ข่าววันนี้

เปิดตัวเลข ไตรมาสแรก ว่างงาน 6.1 แสนคน จบ ป.ตรี เตะฝุ่น 3.1%

เปิดตัวเลข ไตรมาสแรก ว่างงาน 6.1 แสนคน จบ ป.ตรี เตะฝุ่น 3.1%

วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ของปี 2565 มีจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 6.1 แสนคน ลดลงจาก 7.6 แสนคนในช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจาก 6.3 แสนคนในไตรมาสก่อนหน้า หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.53% ต่ำที่สุดในช่วงโควิด ขณะที่ผู้เสมือนว่างงาน มีจำนวนถึง 3.8 ล้านคน

อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนยังคงเพิ่มขึ้น มีจำนวน 2.6 แสนคน เพิ่มสูงขึ้น 5.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับผู้ว่างงานที่มีประสบการณ์ทำงานที่เริ่มปรับตัวลดลง ผู้ว่างงานระยะยาวยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนถึง 1.7 แสนคน และการว่างงานในกลุ่มแรงงานที่จบการศึกษาสูงยังอยู่ในระดับสูง โดยอัตราการว่างงานของผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่ที่ 3.10%

ขณะที่ภาพรวมการจ้างงานมีจำนวนทั้งสิ้น 38.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม โดยการจ้างงานภาคเกษตรกรรม มีจำนวน 11.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3% จากการเพิ่มการผลิตสินค้าเกษตรในกลุ่มพืชสำคัญ ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมมีการจ้างงาน 27.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3% โดยสาขาที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาการผลิต การขายส่ง/ขายปลีก และสาขาการขนส่ง/เก็บสินค้า

“สาขาก่อสร้าง และสาขาโรงแรม/ภัตตาคาร มีการจ้างงานลดลง 1.1% โดยการลดลงของการจ้างงานสาขาโรงแรม/ภัตตาคาร ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบาดโควิดที่รุนแรงขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2565 ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนไม่มาก โดยมีเพียง 5 แสนคน จากปกติที่มี 9-10 ล้านคน”

ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามในระยะถัดไป

1. การฟื้นตัวของการจ้างงานภาคท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับก่อนโควิด ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยแม้จะมีแนวโน้มดีขึ้นจากโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ แต่สัดส่วนรายจ่ายยังไม่สามารถชดเชยการหายไปของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ จึงต้องให้ความสำคัญกับการเปิดประเทศและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศให้มากที่สุด

2. ผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่อค่าครองชีพของแรงงาน และการจ้างงาน เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 จากราคาน้ำมัน และปัจจัยการผลิตในสินค้าบางชนิดที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของแรงงาน รวมทั้งอาจกระทบต่อการจ้างงานในภาคเกษตรกรรมจากราคาปุ๋ยที่แพงขึ้น และการจ้างงานสาขาขนส่งจากต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

3. การหามาตรการแก้ไขปัญหาการว่างงานระยะยาวและการว่างงานของผู้จบการศึกษาใหม่ ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

Related Posts

'อัยยะ ปักษ์ใต้ 2 FLY 2 SOUTH NOW FESTIVAL II' ชวนชาวกรุงสัมผัสเสน่ห์แดนใต้ใจกลางเมือง
ทรานฟอร์มธุรกิจร้านโชห่วยแบบเดิมสู่ “SMART โชห่วย” เปลี่ยนอย่างไรเพื่อรอดในโลกยุคดิจิทัล
บอกลาปัญหาแบตฯ เสื่อม ยืดอายุการใช้งานให้รถคู่ใจ ด้วย CTEK
ไทยเทพรส จัดโครงการ "ครัวทำเงิน กับซอสคู่ใจ By ไทยเทพรส" ปั้นเมนูสตรีตฟู้ด สร้างรายได้สู่สังคม
MK Restaurants ฉลองยอดขายโตต่อเนื่อง 42% ขยายโปรบุฟเฟต์