เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured PR News SMEs เกษตร

EDEN สารเคลือบยืดอายุสินค้าเกษตร ตอบโจทย์ คนกินไม่ทันต้องเก็บทิ้ง!

EDEN สารเคลือบ ยืดอายุสินค้าเกษตร สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ กินไม่หมด ต้องเก็บทิ้ง!

ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่กับงาน Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย ประจำปี 2022 เวทีด้านนวัตกรรมระดับประเทศที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs บริษัทสตาร์ตอัพหน้าใหม่ ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพด้านนวัตกรรม ผ่านการมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards 2022” (เซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์)

สำหรับผลงานโดดเด่นที่คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทเศรษฐกิจไปครอง หนึ่งในนั้นได้แก่ EDEN” นวัตกรรมสารเคลือบ ยืดอายุผักและผลไม้จากธรรมชาติ โดย บริษัท อีเด็น อะกริเท็ค จำกัด ซึ่งคุณนรภัทร เผ่านิ่มมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเด็น อะกริเท็ค จำกัด เจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เปิดใจถึงความรู้สึกและบอกเล่าความเป็นนวัตกรรมของผลงาน พร้อมทิศทางการเติบโตในอนาคต โดยเล่าว่า

“ประเทศไทย เป็นประเทศที่ผลิตสินค้าเกษตรได้มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แต่ปริมาณการส่งออกกลับไม่สูงอย่างที่คิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาการขนส่ง สินค้าเกษตรบางชนิดมีอายุการจัดเก็บสั้น ทำให้เกิดการสูญเสียระหว่างทาง หากแก้ช่องว่างในส่วนนี้ได้สินค้าเกษตรไทยจะส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้มากขึ้น ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมาก”

ทั้งนี้ EDEN เป็นสารเคลือบยืดอายุผักและผลไม้จากธรรมชาติ ที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผักและผลไม้สดจากอายุเดิม ได้นานถึง 3-4 เท่า เพียงพ่นหรือจุ่มสารเคลือบซึ่งประกอบด้วยแคลเซียม เซลลูโลส และสารสกัดจากผลไม้ ที่จะฟอร์มตัวเป็นชั้นฟิล์มระดับนาโนเพื่อปกป้องผิวผักและผลไม้

นายนรภัทร เผ่านิ่มมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเด็น อะกริเท็ค จำกัด

ช่วยชะลอการสูญเสียน้ำและการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ได้ทั้งบนเปลือกและเนื้อผักผลไม้ตัดแต่ง ให้คงความสดไว้ได้โดยไม่กระทบต่อรสสัมผัส ทั้งยังคงคุณค่าสารอาหารและได้รับมาตรฐานอาหารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอีกด้วย

“สำหรับแผนธุรกิจในช่วง 3-5 ปี เราจะมุ่งพัฒนาใน 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ 1. พัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น นำระบบอัตโนมัติมาใช้ ลดการพึ่งพาแรงงานที่อาจมีการปรับเปลี่ยนโยกย้าย พร้อมกับปรับแพ็กเกจจิ้งให้มีขนาดเหมาะแก่การใช้งาน 2. ขยายกลุ่มลูกค้าสู่ตลาดต่างประเทศ เบื้องต้นมุ่งในกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เช่น เมียนมา เวียดนาม มาเลเซีย 3. ขยายการใช้งานสู่กลุ่มเนื้อสัตว์” คุณนรภัทร ว่าอย่างนั้น

Related Posts

จาก ‘โลคอล’ สู่ ‘โกลบอล’ ZENFRY เฟรนช์ฟรายด์ถั่วเขียวเจ้าแรกของโลก เริ่มต้นจาก SMEs บ้านๆ ขายออนไลน์ สู่แบรนด์ส่งออก