อุปกรณ์เสริมความสูง bHigher (บี-ไฮ-เออร์) หนึ่งเดียวของไทย ที่ผู้สวมใส่ถอดรองเท้าแล้ว ยังสูงอยู่ โดยสูงขึ้นทันที 11 เซนติเมตร ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องทานอาหารเสริม
การที่อุปกรณ์เสริมความสูงนี้ สามารถเพิ่มความสูงได้ถึง 11 เซนฯ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเตี้ยลงเมื่อถอดรองเท้า เพราะถูกออกแบบมาให้ติดอยู่กับเท้า แม้เมื่อถอดรองเท้าคู่นอกออก ไม่ต้องห่วงเรื่องรองเท้าหลุดอีกต่อไป เพราะส่วนฐานที่ทำหน้าที่เพิ่มความสูงมี “บูท”ที่จะยึดเท้าให้ติดกับอุปกรณ์ตลอดเวลา
คุณอู๋ –ชัยพฤกษ์ ศรีสุวรณศร เจ้าของไอเดีย วัยสี่สิบเศษ ที่พกพาความสูงติดตัวมา 158 เซนติเมตร เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่ม ด้วยน้ำเสียงร่าเริง อาชีพหลักทำธุรกิจของครอบครัว เป็นโรงงานผลิตใยบวบขัดผิว ส่งขายตามห้างสรรพสินค้า
พอมีเวลาว่าง มักมองหาอุปกรณ์ช่วยทำให้ตัวสูง เพราะเชื่อว่าไม่ใช่เขาคนเดียวในโลกที่ประสบปัญหานี้ “ความที่เป็นคนตัวเตี้ย จึงอยากหาตัวช่วยให้สูงกว่าเดิม แต่ในท้องตลาดไม่มีขาย เลยพยายามคิดค้นว่าอุปกรณ์ที่ว่านี้ควรมีหน้าตาเป็นยังไง ก่อนเดินไปหาตามร้านรับทำรองเท้า แล้วบอกไอเดียไป
ทั้งที่ไม่ได้เรียนมาทางช่างหรือเป็นนักประดิษฐ์ แต่ชอบทำงานศิลปะ พอวาดรูปได้ เลยสื่อสารกับคนทำรองเท้า พวกเขาบอกว่าไอเดียดี จะช่วยทำออกมาให้”คุณอู๋ ย้อนที่มา
และว่าคู่แรกทำออกมาใส่เองทุกวัน เขย่งไปบ้าง ไม่สมดุลกันบ้าง เนื่องจากไม่มีต้นแบบให้ศึกษา ต้องอาศัยการ ลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ ทำแล้วปรับกันไป ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะลงตัว
แต่พอคิดไปคิดมา เชื่อว่าน่าจะมีคนหัวอกเดียวกันกับเขาอยากได้ไว้ใช้บ้าง เลยสั่งทำออกมาขาย แต่ไม่ได้เป็นจำนวนเมากมายอะไร เพราะต้นทุนในการสั่งทำค่อนข้างสูง
“ช่วงแรกตั้งราคาขายคู่เป็นหมื่น เพราะเป็นช่วงลองผิดลองถูก ต้นทุนเลยสูง แต่ตอนนี้ลงตัวแล้วราคาขายปัจจุบัน จึงอยู่ที่เซ็ตละ 7,000 บาท วัสดุหลักเป็นหนังแท้คุณภาพดีที่สุด สมราคาและคุ้มค่าแน่นอน”คุณอู๋ บอกหนักแน่น
ย้อนถามถึงการนำออกสู่ตลาดครั้งแรก ผลตอบรับเป็นอย่างไร คุณอู๋ เล่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะไปได้สวยและขายได้เร็ว แต่อาจเป็นเพราะตัวช่วยเสริมสูงนี้ ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน การจะ “เข้าถึง”ลูกค้าได้ จึงต้องทุ่มงบฯในการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ค่อนข้างสูง
ขณะที่สเกลธุรกิจของเขา ไม่ได้ใหญ่โตอะไร การจะไปลงเงินจำนวนมากเพื่อโปรโมตสินค้า คงเป็นไปได้ยาก เลยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย แนะนำและจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ ยอดขายเลยมีเข้ามาแบบเรื่อยๆไม่หวือหวา ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีความต้องการจริงๆ พอเสิร์ชหาเจอ ติดต่อเข้ามาถามไถ่รายละเอียด และสั่งซื้อไปลองใช้
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่เดิม เป็นกลุ่มวัยรุ่นชาย ที่อยู่ในวัยห่วงภาพลักษณ์ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของการใช้อุปกรณ์เสริมสูง bHigher นั้น ต้องสวมกางเกงทรงขากระบอกใหญ่หรือกางเกงขาม้าทับเท่านั้น
ขณะที่แฟชั่นเวลานี้ เป็นยุคของ “ขาเดฟ” การจะให้วัยรุ่นหันมาใส่กางเกงขาม้าหรือขากระบอกคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเมื่อบรรดาลูกค้าวัยรุ่นทราบถึงข้อจำกัดแล้วจึงปฏิเสธกันแทบทุกราย แต่กลับมาได้ลูกค้ากลุ่มอายุ 30 ปลายถึง 40 ต้น ที่ไม่สนว่าต้องนุ่งเดฟเท่านั้น
ค้าขายมาได้หลายปี ผลงานจากมันสมองออกสู่ตลาดไปแล้วนับร้อยคู่ แต่คุณอู๋ บอก ใจจริงตั้งความหวังสูงไว้กว่านั้น แต่เพราะไม่ได้ลงทุนสูงนัก หลังหักค่าไอเดียแล้ว นับว่าเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ไม่น้อย
“สินค้าในแบบ bHigher มีรายเดียวในไทย ที่เหมือนการต่อขา ผู้สวมใส่สามารถหารองเท้าคู่นอกแบบไหนก็ได้มาสวมทับ ข้อดี คือ ถอดรองเท้าคู่นอกแล้วยังสูงอยู่ แต่ของเจ้าอื่น ถอดออกแล้วเตี้ยเลย”คุณอู๋ ย้ำถึงข้อเด่น
ก่อนบอก ผลงานของเขานับเป็นนวัตกรรมในวงการรองเท้า ยังไม่เคยมีใครทำ ก่อนหน้านี้จึงคิดไปจดสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญาไว้ แต่เท่าที่ทราบต้องใช้เงินในกว่า 7 หมื่นบาทในการจดฯ เลยลังเลอยู่ว่าน่าจะนำเงินจำนวนดังว่าไปลงทุนต่อยอดดีกว่า
เมื่อถามถึงอุปสรรค ในการทำค้าขาย ชายร่างเล็กเจ้าของเรื่องราว เล่าว่า หากมีงบฯลงทุนในการประชาสัมพันธ์มากกว่านี้ ลูกค้าเป้าหมายอาจรู้จักสินค้าของเขากว่างขวางขึ้น นอกจากนี้กระแสขาเดฟยังติดลมบนอยู่ ทำให้ขายยอดขายไม่ไหลมากนัก
แต่สำหรับเสียงตอบรับแล้วนับว่าดีเกินคาด หลังจากได้ลองสวมใส่ แทบทุกรายพึงพอใจ พูดเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น
“ตัวช่วยเสริมสูงนี้ เหมาะสำหรับใส่ไปงานที่ต้องพบปะผู้คน อย่าง งานแต่งงาน งานอีเวนต์เปิดตัวสินค้า โดยเฉพาะเวลาที่ต้องไปยืนเรียงหน้ากระดานเพื่อถ่ายภาพ ผู้สวมใส่จะไม่รู้สึกขัดเขินเลย”คุณอู๋ บอกถึงประสบการณ์
และว่าถึงแผนธุรกิจที่วางไว้นั้น อยู่ในระหว่างการพิจารณาหาตัวแทนจำหน่ายเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มยอดขาย
“ลูกค้าเป้าหมาย คือ ผู้ชาย หรือผู้หญิงที่ชอบสวมกางเกง ส่วนผู้หญิงแท้ที่ชอบสวมกระโปรงโชว์เรียวขาไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่ตั้งไว้ ในการสวมใส่ช่วงแรก ต้องใช้เวลาฝึกเดินประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถึงจะชิน และแม้การสวมใส่รองเท้าแบบทั่วไปจะสบายกว่า แต่ BHigher ได้ถูกออกแบบและเลือกใช้วัสดุอย่างดี เพื่อให้ผู้สวมใส่สบายเท้าที่สุด”เจ้าของผลิตภัณฑ์ กล่าว
ก่อนแนะนำด้วยว่า อุปกรณ์เสริมความสูง bHigher ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ
1.ส่วนฐาน (ส่วนล่าง) มีหน้าที่รับน้ำหนัก และเพิ่มความสูง ถูกออกแบบให้มีรูปทรงเสมือนเท้า ดังนั้นเมื่อคุณถอดรองเท้าออกคนอื่นจะเข้าใจว่าอุปกรณ์ส่วนฐานคือเท้าของคุณ
2.ส่วนบูท (ส่วนบน) มีหน้าที่ในการยึดเท้าของคุณให้ติดกับอุปกรณ์ฯ เป็นบูทหุ้มข้อ ทำจากหนังที่มีความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศ และสวมใส่สบาย ดังนั้นข้อเท้าของคุณจึงได้รับการปกป้อง และยังสามารถขยับได้อย่างอิสระอีกด้วย
และเพื่อความสมจริง สวยงามในการสวมใส่อุปกรณ์เสริมความสูง bHigher กางเกงที่ใส่ ควรเป็นกางเกงที่มีความกว้าง และยาวพอที่จะปิดคลุมอุปกรณ์ส่วนบูท (ส่วนบน) ได้ โดยคุณสามารถติด “ตีนตุ๊กแก” ไว้ที่ “ด้านหลังปลายขากางเกงด้านใน” กับ “ถุงเท้าที่สวมทับอุปกรณ์” เพื่อให้มั่นใจว่าปลายขากางเกงปิดคลุมอุปกรณ์ฯอยู่ตลอดเวลา ส่วนระยะเวลาในการปรับตัวให้คุ้นเคยกับอุปกรณ์ฯ ขึ้นอยู่กับสรีระเท้า และโครงสร้างพื้นฐานร่างกายของแต่ละบุคคล
สำหรับการเลือกรองเท้าคู่ที่จะนำมาสวมทับอุปกรณ์ฯ ควรเป็นรองเท้าที่ ขนาดพอดีกับส่วนฐานของอุปกรณ์ฯ ซึ่งปกติจะใหญ่กว่าขนาดเท้าจริงของคุณประมาณ 2 – 8 เบอร์ ความสูงของปลายรองเท้ากับความสูงของส้นรองเท้าต่างกันไม่มาก เป็นรองเท้าที่ฐานมั่นคง หรือ ฐานกว้างเสมอตัวรองเท้า
อย่างไรก็ตาม แม้ bHigher จะออกแบบมาให้สวมใส่สบายเพียงไร แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือขับรถ ควรสวมรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมนั้นๆโดยเฉพาะ หากจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ฯขับรถ ควรทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ฯ และปรับที่นั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้ขับที่ใส่อุปกรณ์ฯ
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท มินริน จำกัด เลขที่ 12/24 แขวง-เขต ทวีวัฒนา กรุงเทพ 10170 โทรศัพท์ 081-561-4205 , Line ID : chaipruk 1973 , อีเมล : [email protected] หรือติดตามคำแนะนำ และเทคนิคต่างๆในการใช้ ได้ทาง Facebook/bHigher