เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Exclusive Featured

หนุ่มจุฬาฯ ปิ๊งไอเดียจาก ‘รถเช่า’ เพียงคันเดียว ที่ให้เพื่อนยืมไปขับ สู่ ‘ธุรกิจเช่ารถหรู’ Richcars Rental มูลค่าหลักร้อยล้านบาท

หนุ่มจุฬาฯ ปิ๊งไอเดียจาก ‘รถเช่า’ เพียงคันเดียว ที่ให้เพื่อนยืมไปขับ สู่ ‘ธุรกิจเช่ารถหรู’ Richcars Rental มูลค่าหลักร้อยล้านบาท

Richcars Rental (ริชคาร์ เรนทัล) คือ บริษัทเช่ารถหรู รถสปอร์ต และรถซูเปอร์คาร์ ที่ประสบความสำเร็จแบบยืนหนึ่ง ด้วยยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี ปัจจุบัน ถือเป็นแบรนด์ที่ใหญ่สุดในตลาดเช่ารถหรู กับการให้บริการที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

และล่าสุด ได้ตั้งเป้าพาธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ใครจะรู้บ้างว่า ธุรกิจรถเช่าสุดหรูมูลค่าหลักร้อยล้านแบรนด์ดังนี้ มีจุดเริ่มมาจาก “รถเช่า” เพียงแค่คันเดียว!

รุ่นพี่ รุ่นน้อง คู่แข่ง หุ้นส่วน

คุณช้าง-สหดล จรัสสุริยพงศ์ หุ้นส่วนคนสำคัญ ในฐานะผู้บริหาร Richcars Rental เริ่มต้นให้ข้อมูลว่า ตัวเขาจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ส่วน คุณเอ-กิตติคุณ หงษ์รัตนคุณ หุ้นส่วนอีกท่าน เป็นรุ่นพี่จบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ รั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน ช่วงเรียนจบใหม่ๆ ต่างคนมีธุรกิจของตัวเอง แต่เป็นการขายสินค้าแบบเดียวกัน นั่นคือ “ข้าวปั้นสามเหลี่ยม” สไตล์ญี่ปุ่น พูดง่ายๆ คือเป็นคู่แข่งทางตรง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็สามารถมาทำธุรกิจร่วมกันได้ในที่สุด

“สไตล์การทำงานคล้ายๆ กัน เลยคุยกันง่าย ก่อนมาทำธุรกิจนี้ เราขายของหลายอย่างด้วยกัน รับของจากจีนก็ทำมาแล้ว ส่วนธุรกิจรถเช่านี้ เริ่มมาจากสมัยก่อน เรามีรถยุโรปอยู่คันหนึ่งแล้วมีเพื่อนคนหนึ่ง ชอบมายืมไปใช้ พอยืมบ่อยๆ เขาเกิดเกรงใจ จึงจ่ายเงินให้ สรุป คือเราเริ่มจากทำแบบบ้านๆ เลย ทำกับคนรู้จัก คิดว่าเพื่อนเราเช่าได้ คนอื่นก็เช่าได้เหมือนกัน

“ย้อนไปเกือบ 10 ปีก่อนตอนนั้นยังไม่มีคนทำ ก็เริ่มจากทำเว็บไซต์ขึ้นมา แต่เมื่อมีเว็บแล้วจะมีรถคันเดียวก็ไม่ได้ เลยยืมรถเพื่อนมาถ่ายรูป ทั้งหมดประมาณ 6-7 คัน พอลูกค้าทักมาถาม เราก็บอกว่าคันนี้มีคนเอาไปใช้แล้ว รับคันนี้แทนไหม คือรถที่เรามีรถอยู่คันเดียวนั่นแหละครับ” คุณช้าง เล่าก่อนหัวเราะร่วน

จากจุดเริ่มรถส่วนตัวเอามาปล่อยเช่าแค่คันเดียว ถึงวันนี้นับว่ามาไกลมาก คุณช้าง สหดล อธิบายว่า ช่วงแรกๆ การแข่งขันมันต่ำ เลยขยายงานง่าย เพราะทำอยู่แค่เจ้าสองเจ้า แต่ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า การแข่งขันมันสูงแล้ว การขยาย ในลูกค้าแบบเดิม เริ่มจะยากแล้ว

คุณเอ-คุณช้าง 2 ผู้บริหาร Richcars Rental

ด้าน คุณเอ กิตติคุณ กล่าวเสริมว่า เมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว ตลาดให้เช่ารถหรูในเมืองไทยยังเล็กมาก เพราะไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง คนส่วนใหญ่มักติดภาพการเช่ารถตามสนามบินแบบรายวัน ในราคาพันกว่าบาท อีกทั้งยังเป็นธุรกิจมีความเสี่ยงสูง จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีลูกค้าหรือคนเช่ารถหรูๆ มาขับ แต่พวกเขากลับมองว่าถ้าลงทุนตอนนั้นน่าจะเป็นโอกาสทำให้กลายเป็นเบอร์ต้นในตลาดได้ไม่ยาก ซึ่งก็จริงตามคาด

เรียนรู้จากประสบการณ์ เผย “จีนเทา” แทรกซึม

จากรถ 1 คันในวันเริ่มทำธุรกิจ ปัจจุบัน Richcars Rental มีรถหรูจากแทบทุกค่ายราว 120 คันแล้ว ส่วนประเภทและรุ่นของรถ จะปรับตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทั้งไทย จีน สิงคโปร์ อินเดีย รัสเซีย ยุโรป ยกตัวอย่าง ลูกค้าต่างชาติที่อยู่ระยะยาว ส่วนใหญ่ใช้รถ SUV ส่วนกลุ่มลูกค้าชาวจีน มักชอบรถตู้ อย่าง Alphard นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าที่เป็นองค์กรที่เป็นบริษัท เน้นเช่าเป็นรายปี หรือหน่วยงานรัฐ จะเช่าเป็นงานอีเวนต์ เพื่อรับรองแขกจากต่างประเทศ

เมื่อถามถึงอุปสรรคสำคัญในการทำธุรกิจนี้ 2 ผู้บริหารช่วยกันให้ข้อมูลว่า ช่วงแรกยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ เรื่องสัญญาเช่าจึงไม่ค่อยรัดกุม ทำให้เกิดการเสียเปรียบอยู่บ้าง จากนั้นจึงค่อยๆ เรียนรู้จากประสบการณ์ แล้วค่อยนำมาเป็นเงื่อนไขบรรจุไว้ในการทำสัญญา ยกตัวอย่าง อย่างเคยมีลูกค้าขับรถสปอร์ตไปดริฟต์ และทำโดนัท คือขับรถวนเป็นวงกลม ในสนามแข่ง

ซึ่งบังเอิญมีพนักงานของเขาอยู่ในงานนั้นด้วย จึงแจ้งกลับมาที่บริษัท หลังจากนั้นจึงต้องมีการใส่ไว้ในสัญญาว่า ห้ามนำรถไปดริฟต์ ไม่อย่างนั้นจะยึดรถคืน หรือเคยมีลูกค้าต่างชาติขับรถลุยน้ำท่วมเพื่อทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดียของตัวเอง จนรถดับแล้วยังส่งคลิปมาบอก เครื่องยนต์พังแล้ว ซึ่งในสัญญาตอนนั้นไม่ได้มีข้อห้ามไว้ สรุปถ้าไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจ จะไม่มีทางรู้เลยว่าอาจมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งปัญหาใหญ่คือ รถโดนขโมย แต่ทาง Richcars Rental ไม่มีนโยบายถามลูกค้าซอกแซก ว่าทำงานอะไร เช่ารถไปไหน เพราะไม่อยากให้ลูกค้าดีๆ รู้สึกไม่โอเค ส่วนซูเปอร์คาร์ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการขโมย แต่จะมีการเฉี่ยวชน เพราะด้วยความแรงของรถ ทำให้เกิดการชนได้ง่าย ซึ่งใช้เวลาในการซ่อมหลายเดือนจนถึงเกือบปี ทำให้ขาดค่าเช่า แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจมีความเสี่ยงสูง แต่ยังมีกำไรมากกว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้น

2 นักธุรกิจไฟแรง

เมื่อถามถึงภาวการณ์แข่งขันในตลาดปัจจุบัน 2 ผู้บริหาร ช่วยกันเล่าให้ฟังว่า มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง ซึ่งวิธีการที่นำมาใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการ “ตัดราคา” กัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้ผู้บริโภคพิจารณาเงื่อนไขให้ละเอียดด้วยก่อนทำสัญญา เพราะวิธีในการลดต้นทุนแต่ละบริษัทจะไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม “จีนเทา” แทรกซึมเข้ามาในธุรกิจนี้ด้วย

“ตอนนี้มีจีนเทา มาทำธุรกิจรถเช่าด้วย คือเขาจะใช้รถที่หลุดจำนำ มาปล่อยเช่า ซึ่งรถหลุดจำนำ ก็คือรถที่เราผ่อนไฟแนนซ์ไม่ไหวแล้วต้องเอาไปคืน แต่ไม่ยอมคืน เอาไปจำนำเถื่อน เช่น รถคันหนึ่ง ราคา 3 ล้าน แต่คนรับจำนำเถื่อนอาจรับจำนำที่ 8 แสนบาท แล้วไปขายต่อ สวมทะเบียน พวกจีนเทา มาซื้อต่อแค่ล้านเดียว แล้วปล่อยเช่าได้ในราคาถูก แต่มันเป็นรถผิดกฎหมายนะ ซึ่งผู้บริโภคไม่รู้ ถ้าเลือกเน้นที่ค่าเช่าถูกๆ อาจไปเจอกรณีแบบนี้ได้” 2 ผู้บริหาร Richcars Rental เผย

ส่งท้ายถามถึงเป้าหมายทางธุรกิจ ทั้ง 2 ท่าน ช่วยกันบอกว่า จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือ การนำพาองค์กรเข้าตลาดหลักทรัพย์ ด้วยโปรไฟล์ของบริษัทสามารถทำได้ เพราะยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี Richcars Rental ถือเป็นบริษัทที่ใหญ่สุดในตลาดเช่ารถหรู แต่สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคือ การทำโปรดักต์ให้แมส ด้วยการขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้น มีกลุ่มลูกค้าที่เช่ารถ ระยะยาวมากขึ้น หากเป้าหมายแรกสำเร็จได้ เรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์จะเป็นขั้นต่อไป

หากใครที่สนใจในธุรกิจนี้ แล้วอยากร่วมลงทุน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ เพจ Richcars Rental

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.พ. 2025

Related Posts

80 ยังแจ๋ว "ป้าตุ่น" ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่