ชิโอะปัง! ขนมปังเกลือ ทำไมถึงดังในไทย ต้นกำเนิดไม่ใช่เกาหลี แล้วมาจากที่ไหน? แจกพิกัดพร้อมสูตรทำขายสร้างรายได้
ช่วงนี้กระแสชิโอะปังกำลังมาแรงแบบต้านไม่ไหว แต่ละคาเฟ่เปิดตัวเมนูใหม่กันรัวๆ ร้านเบเกอรี่ก็มีคนต่อคิวกันยาว บางคนมีหัดลองทำเองที่บ้านด้วย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นเจ้าขนมปังเกลือนี่เต็มไปหมด เรียกได้ว่ากลายเป็นเมนูที่ตอนนี้
ใครๆ ต่างก็ให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดเป็นสายขนมปังหรือเบเกอรี่ยิ่งไม่ควรพลาด
แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่า อะไรที่ทำให้ขนมปังก้อนเล็กๆ ฮิตได้ขนาดนี้ แล้วต้นตำรับของชิโอะปังมาจากที่ไหน จะมาจากญี่ปุ่นหรือเกาหลี เดี๋ยวผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักถึงที่มาของ ชิโอะปัง
ทำความรู้จักกับชิโอะปัง
ชิโอะปัง ขนมปังสัญชาติญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวคือ ความกรอบนอก นุ่มใน มีความหอมกลิ่นเนยอ่อนๆ และรสเค็มจางๆ จากเกลือ ทำให้มีรสชาติที่เรียบง่ายแต่ลงตัว ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นคำว่า “ชิโอะ (塩) แปลว่า เกลือ” พอรวมกับคำว่า “ปัง (パン) ที่แปลว่า ขนมปัง” จึงกลายมาเป็น “ขนมปังเกลือ” แบบที่เราเรียกกัน
ต้นกำเนิดชิโอะปังมาจากร้านเบเกอรี่เมืองยาวาตะฮามะ มีชื่อว่า “Pain Maison” อยู่ในจังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยคุณมิโตชิ ฮิราตะ ผู้เป็นเจ้าของร้านได้สังเกตเห็นว่าขนมปังมักจะขายไม่ดีในช่วงหน้าร้อน เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเลือกกินบะหมี่เย็นและแตงโมเป็นของว่างมากกว่า ทำให้ร้านเบเกอรี่แทบจะไม่มีลูกค้าเลย
ดังนั้น เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงหน้าร้อน คุณฮิราตะจึงได้ลองไอเดียใหม่อย่างการใช้เกลือมาทำขนมปัง เพราะอากาศร้อนเลยทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมากขึ้น อาหารรสเค็มจึงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยทดแทนเกลือแร่ที่เสียไปและน่าจะทำให้ขนมปังกลับมาขายดี อีกทั้งลูกชายของเขาได้เล่าให้ฟังว่า ขนมปังฝรั่งเศสรสเค็มกำลังฮิตมาก
คุณฮิราตะที่เพิ่มปริมาณเนยในขนมปังมากกว่าปกติ เนื่องจากการทำแบบขนมปังฝรั่งเศสค่อนข้างแข็งเกินไปสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ เขาใช้วิธีม้วนแป้งห่อเนยไว้ข้างในเพื่อให้เนยละลายและยังทำให้ฐานขนมปังมีความกรอบ เกลือที่ใช้ยังเป็นเกลือที่ทดลองเลือกหลายๆ แบบจากทั่วโลกเพื่อหาเกลือที่จะไม่ละลายเมื่ออบ อีกทั้งยังต้องเข้ากับรสชาติและเนื้อสัมผัสของขนมปังได้ดีที่สุด จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีเมนูใหม่อย่างชิโอะปังขึ้นมา
ทำไมชิโอะปังถึงเริ่มฮิตในไทย
ก่อนหน้าที่กระแสชิโอะปังจะเริ่มดังในไทยถือว่าหากินได้ยากพอสมควร เพราะเป็นขนมปังที่ไม่ได้อยู่ในเมนูหลักของร้านเบเกอรี่ทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะพบได้แค่ตามร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นหรือร้านเบเกอรี่พรีเมียมที่เน้นขนมปังสูตรดั้งเดิมจากญี่ปุ่นเท่านั้น
ถึงต้นตำรับชิโอะปังจะอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ต้นตอความฮิตนั้นกลับเริ่มมาจากทางฝั่งเกาหลี ที่คนไทยไปเที่ยวแล้วซื้อขนมปังเกลือหรือ “โซกึมปัง” กลับมา ร้านเบเกอรี่ในไทยหลายๆ ที่จึงเริ่มทำตามเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านขนมปัง หรือแม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งก็มีชิโอะปังวางขาย
พิกัดร้านชิโอะปังน่าลอง
ถ้าใครอ่านแล้วอยากลองไปสัมผัสความอร่อยของชิโอะปังทั้งแบบต้นตำรับ และแบบที่ปรับสูตรมาเพื่อคนไทย นี่คือ 3 ร้านสุดแมสที่ควรไปลองสักครั้ง
LoafeCo Bakery House ร้านเบเกอรี่โฮมเมดเจ้าดังบนดาดฟ้าย่านลาซาล
ขึ้นชื่อเรื่องขนมปังเกรดพรีเมียมและความสดใหม่ ซึ่งตั้งแต่ชิโอะปังที่เมนูหลักของร้านแมสในไทยคิวก็ยาวเป็นหางว่าว ขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมง ร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-18.00 น. ขนมปังจะออกจากเตา 3 รอบต่อวันแล้วพักคิว ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจในความสดใหม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะมีรอบ 11.00 น., 14.30 น. และ 16.30 น.
Facebook : LoafyCo Bakery House
Wabi’s ร้านขนมปังโฮมเมดสุดฮิตถนนทรงวาด
ชิโอะปังกรอบนอก นุ่มใน ฉ่ำเนย ที่มาพร้อมกับดิปให้เลือกถึง 17 รสชาติ ทั้งคาวและหวาน จะจับคู่กับรสไหนก็อร่อยลงตัวสุดๆ น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังมีแค่แบบ Walk in เท่านั้น เปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 12.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.
Facebook : Wabi’s
Foobreca ร้านเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ย่านสุขุมวิท
ร้านเบอเกอรี่ที่มีเชฟ คาซูมะ ซาโต้ เชฟชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์ในการทำขนมปังมามากกว่า 30 ปี อีกทั้งยังการันตีความอร่อยด้วยรางวัลชนะเลิศการทำขนมปังหลายรางวัลในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งความโดดเด่นของชิโอะปังร้านนี้จะอยู่ที่วัตถุดิบ ตัวขนมปังเกลือมีความนุ่มหนึบ หอมเนย และโรยด้วยเกลือทะเลชั้นดี เปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.30-17.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. (หยุดวันพุธ)
Facebook : Foobreca フーブレッカ
แจกสูตรชิโอะปัง เมนูสร้างรายได้
นอกจากจะแจกพิกัดร้านสุดฮิตแล้ว วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะมาส่งต่อสูตรชิโอะปัง จากเพจ Cooking in Chinglish ที่ผู้เขียนได้รับประกันความอร่อยหลังจากที่ได้ลองผิดลองถูกมาแล้วกว่า 150 สูตร
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
1. แป้งเค้ก
2. แป้งขนมปัง
3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
4. น้ำเปล่า
5. เนยเค็มและเนยจืด
6. น้ำตาล
7. เกลือ
8. ยีสต์
วิธีทำชิโอะปัง
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมหัวเชื้อสปองจ์ (Sponge Starter) ล่วงหน้า 1 วัน
- ผสมยีสต์แห้งกับน้ำอุ่นแล้วคนให้ละลาย จากนั้นเติมโยเกิร์ตและแป้งขนมปังลงไป
- คนส่วนผสมในทิศทางเดียวกันประมาณ 30 วินาที จนเข้ากันแล้วปิดชามด้วยพลาสติกแรป พักไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 40 นาที – 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ข้ามคืน
- หัวเชื้อสปองจ์ควรเพิ่มปริมาณขึ้นประมาณ 3 เท่าภายในวันถัดไป และควรใช้ภายใน 3 วันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนที่ 2 เตรียมแป้งขนมปัง
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องนวดแป้ง (ยกเว้นเกลือ) นวดด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 10 นาที
- เติมเกลือ แล้วนวดต่ออีก 10-15 นาที จนแป้งเนียน ถ้าจับยืดให้บางแล้วไม่ขาดก็เป็นอันใช้ได้ จากนั้นนำแป้งออกจากเครื่องนวด ปั้นให้เป็นก้อนกลม โดยพับขอบแป้งเข้าหาจุดศูนย์กลาง
- วางแป้งลงในชามที่ทาน้ำมันบางๆ โดยให้ด้านที่พับอยู่ด้านล่าง จากนั้นปิดฝาแล้วพักแป้งที่อุณหภูมิห้อง 40 นาที – 1 ชั่วโมง หรือจนแป้งขึ้นฟูจากเดิมประมาณ 2 เท่า
เคล็ดลับ : หากไม่แน่ใจว่าแป้งขึ้นฟูพอหรือยัง ให้วางแป้งในภาชนะที่มีขนาดประมาณ 2 เท่าของปริมาณแป้ง เมื่อแป้งขยายจนเกือบเต็มภาชนะ แปลว่าพักแป้งได้ที่แล้ว
ขั้นตอนที่ 3 เตรียมเนยเค็ม
- ขณะพักแป้ง หั่นเนยเค็มออกเป็น 10 ชิ้นเท่าๆ กัน น้ำหนักชิ้นละ 5 กรัม ขนาดประมาณ 1.25×3.5×1.25 ซม. แล้วนำเนยไปแช่ช่องฟรีซจนกว่าจะถึงเวลาใช้งาน
ขั้นตอนที่ 4 ขึ้นรูปชิโอะปัง
- นำแป้งออกจากชาม มาวางบนพื้นผิวที่โรยด้วยแป้งบางๆ
- ตัดแป้งออกเป็น 10 ส่วนเท่าๆ กัน (ประมาณ 50 กรัมต่อชิ้น)
- กดแป้งให้เป็นแผ่นแบน จากนั้นพับขอบด้านใกล้ตัวเข้าหาศูนย์กลาง หมุน 90 องศา แล้วพับอีกครั้ง ทำแบบเดิม 2 ครั้ง
- รีดแป้งเป็นทรงกรวย พักไว้ 15 นาที แล้วใช้ไม้รีดแป้งให้เป็นแผ่นสามเหลี่ยม กว้างประมาณ 7 ซม. และยาว 35 ซม.
- วางเนยเค็มที่ด้านกว้างของแป้ง พับปิดเนยแล้วกดเบาๆ ให้ติดกัน จากนั้นม้วนแป้งลงมาให้มีลักษณะคล้ายครัวซองต์ ทำแบบเดียวกันจนหมด
ขั้นตอนที่ 5 พักแป้งครั้งสุดท้ายและอบขนมปัง
- วางชิโอะปังบนถาดรองอบที่ปูด้วยกระดาษไขหรือฉีดสเปรย์น้ำมัน คลุมไว้ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วพักแป้งที่อุณหภูมิ 27-30°C เป็นเวลา 30 นาที
- เมื่อเสร็จแล้วให้วอร์มเตาอบที่ 230°C จัดชั้นเตาอบโดยวางกระทะเหล็กหล่อ หรือถาดอบไว้ที่ชั้นล่างสุดเพื่อสร้างไอน้ำ และวางตะแกรงอีกชั้นไว้ตรงกลาง
- หลังจากพักแป้งเสร็จ ใช้แปรงจุ่มน้ำทาที่ผิวขนมปัง แล้วโรยเกลือทะเลแบบเกล็ดเล็กน้อย
- วางขนมปังบนตะแกรงชั้นกลาง จากนั้นเทน้ำร้อน 1 ถ้วยลงในกระทะเหล็กที่อยู่ชั้นล่างเพื่อสร้างไอน้ำ แล้วปิดเตาอบทันที
- อบเป็นเวลา 13-14 นาที หรือจนขนมปังกลายเป็นสีเหลืองทองสวย
- นำขนมปังออกจากเตา พักให้เย็นเล็กน้อย แล้วรับประทานตอนอุ่นๆ จะอร่อยที่สุด
แหล่งที่มา
www.lemon8-app.com
cookinginchinglish.com