ในปัจจุบันนี้ การเลี้ยงน้องหมาน้องแมว อาจจะไม่ใช่แค่การเลี้ยงเพื่อคลายเหงาอีกต่อไป แต่เลี้ยงเพื่อเป็นเสมือนหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ด้วยที่ยุคนี้ผู้คนต่างไม่ค่อยมีลูก น้องหมาน้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของการเลี้ยงลูกไปโดยปริยาย

ด้วยเทรนด์ของการเลี้ยงสัตว์เติบโตขึ้น จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงเติบโตไปด้วย ในงานเสวนา “Paw-ssibilities : The Next Chapter of Pet Industry” จัดโดย เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยพันธมิตรผู้จัดงาน Pet Expo Thailand โรงแรม GO Hotel โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ฉายภาพเทรนด์และทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปรับตัวของธุรกิจต่างๆ เพื่อสอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปโดยมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต

คุณสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวว่า ในปี 2567 การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสัตว์เลี้ยงมียอดรวมที่ 1,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2566 โดยกลุ่มสมาชิกอายุ 30-34 ปี มีสัดส่วนการใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากที่สุดถึง 17% รองลงมาคือกลุ่มสมาชิกอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนที่ 16% และสมาชิกทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังใช้จ่ายในหมวดดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับแนวโน้มปีนี้คาดว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเดือนมกราคม–เมษายน 2568 การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เคทีซีเติบโตที่ 10% โดยเดือนเมษายนมีการเติบโตถึง 12% ตามปัจจัยฤดูกาลและวันหยุดยาวที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง
ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงจำนวน 5,009 ราย และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัว เช่น การทำประกันเพื่อคุ้มครองสัตว์เลี้ยง การดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยี และสถานที่ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly)

คุณยุภา ดำรงคงวิทยานุกูล ผู้จัดการโครงการ Pet Expo Thailand บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการจัดงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการจัดงานมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น งานที่เน้นสัตว์เลี้ยงบางประเภทหรือบางสายพันธุ์โดยเฉพาะ รวมถึงมีการแบ่งโซนพิเศษเพื่อรองรับความสนใจที่หลากหลายของกลุ่มคนรักสัตว์
สำหรับงาน Pet Expo Thailand 2568 ในปีนี้ คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 200,000 คน นอกจากนี้ กระแสการเลี้ยงสัตว์พิเศษ หรือ Exotic pets จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ขณะที่เทรนด์ระดับโลกความต้องการด้านสินค้าอาหาร และบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงพิเศษมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและลาตินอเมริกา ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีโอกาสขยายตลาดเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้
และเมื่องาน Pet Expo Thailand ในปีที่ผ่านมา มียอดคนเข้าร่วมงานมากถึง 227,700 คน และมีอัตราการใช้จ่ายในงานต่อคนอยู่ที่ 30,000-50,000 บาท โดยผลิตภัณฑ์ยอดนิยม 3 อันดับแรกที่คนเลี้ยงสัตว์ยอมจ่าย มีดังนี้
1. ขนมและอาหาร
2. อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
3. การบริการ การรักษาพยาบาล
โดยทางคุณยุภา ดำรงคงวิทยานุกูล ได้กล่าวถึงความท้าทายเกี่ยวกับงานไว้ว่า ความท้าทายของตัวผู้จัดงาน ด้วยคอนเซ็ปต์ของงานที่วางเอาไว้ว่า เป็นงานที่ดีที่สุดเพื่อเพื่อนที่ดีที่สุด เพื่อรองรับเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่หมาและแมวต่อไป ดังนั้น จึงต้องทำงานออกมาให้ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภค

คุณจตุพร วิไลแก้ว Head of Hotel Asset Management and Operations โรงแรม GO Hotel ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า GO Hotel ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่นิยมเดินทางแบบ Road Trip หรือ Staycation พร้อมสัตว์เลี้ยง จึงได้มีการแบ่งสัดส่วนห้องพักแบบ Pet Friendly 10-15% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด พร้อมทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะ เช่น ชามอาหาร ถุงเก็บมูลสัตว์เลี้ยง ผ้าปูรองนอน และมีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงได้เดินเล่นอย่างปลอดภัย รวมทั้งการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานให้เข้าใจถึงความต้องการเฉพาะของเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมเพียง 500 บาทต่อ 1 ตัวเท่านั้น เพื่อตอบโจทย์กับผู้ที่มาพักอาศัย

คุณธนัชชา วงษ์เจริญสิน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจธนาคาร 2 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการคาดการณ์ตลาดประกันภัยสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยปี 2568 จะมีมูลค่าประมาณ 100–200 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ15–20% ทั้งในแง่มูลค่าตลาดและจำนวนผู้ทำประกัน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนเดียวกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหมด
ปัจจัยหลักมาจากการตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลและรักษาสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้น โดยค่ารักษาพื้นฐาน เช่น การฉีดวัคซีนหรือการตรวจสุขภาพอยู่ที่ 1,000–5,000 บาทต่อครั้ง ส่วนการผ่าตัดหรือรักษาเฉพาะทางอาจสูงถึง 10,000–50,000 บาท ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเริ่มมองหาทางเลือกในการบริหารความเสี่ยงผ่านประกันภัย
ทิพยประกันภัย เล็งเห็นโอกาสและความจำเป็นดังกล่าวจึงได้พัฒนาประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่ ครอบคลุมการรักษา คุ้มครองชีวิตสัตว์เลี้ยง และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมสร้างความอุ่นใจให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง แนวโน้มนี้ยังส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 3,000 แห่งทั่วประเทศ มีโอกาสเติบโตตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สพ.ญ.นวพร ชวนปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อเปิดมา 31 ปี มีสาขาในประเทศไทย 20 สาขา และมีสาขาที่เวียดนามอีก 1 สาขา และมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ รวมถึงขยายรูปแบบจากโรงพยาบาลไปเป็นคลินิกขนาดเล็กที่สามารถให้บริการขั้นพื้นฐานสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการที่มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการและแนวโน้มของประชากรไทยที่เลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในกลุ่มคนโสด คู่รักไม่มีบุตร และผู้สูงอายุ ซึ่งมองว่าสัตว์เลี้ยงคือสมาชิกที่สำคัญและต้องการให้สัตว์เลี้ยงได้รับการบริการรวมทั้งการดูแลไม่ต่างจากสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อยังได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง ได้แก่ การวินิจฉัยด้วยภาพขั้นสูง (MRI, CT Scan) การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อลดการเจ็บปวด เวชศาสตร์เฉพาะบุคคลตามสายพันธุ์ รวมถึงบริการเสริม เช่น กายภาพบำบัด และบริการปรึกษาผ่านช่องทางดิจิทัล
โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงได้ใช้บริการรับฝากสัตว์เลี้ยงกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ และช่วงเมษายนที่ผ่านมา ก็มีการนำมาฝากไว้และยอดเติบโตพอสมควร
คุณสิรีรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เคทีซีได้ออกแคมเปญ “All my LOVE is Pet” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกที่เลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัว เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่ร้านค้าในหมวดสัตว์เลี้ยงที่ร่วมรายการ รับสิทธิพิเศษดังนี้
1. รับส่วนลดสูงสุด 15% จากร้านค้าสัตว์เลี้ยง และโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่ร่วมรายการ
2. แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
- เมื่อมียอดใช้จ่ายต่อเซลสลิปต่ำกว่า 2,000 บาท และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 12%
- เมื่อมียอดใช้จ่ายต่อเซลสลิปตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 15%
3. แบ่งชำระ 0.74% ต่อเดือน นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/pets/pet-accessories/all-my-love-is-pet
ทั้งนี้ มั่นใจว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสำหรับสมาชิกกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 2568 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 10%
หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี