เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured How to เคล็ดลับผู้ประกอบการ

ถอด 5 แนวคิดการทำธุรกิจแบบคนจีน ทำอย่างไร? เปลี่ยนธุรกิจเล็กให้เติบโตเร็ว

ในโลกที่การแข่งขันทางธุรกิจมาควบคู่กับความรุนแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายมิติ แต่ผู้ประกอบการจีนได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคือผู้นำด้านนวัตกรรม ความเร็ว และความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่หรือแบรนด์เล็กๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

แนวคิดการทำธุรกิจแบบจีนมีเอกลักษณ์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย หากผู้ประกอบการไทยรู้และเข้าใจถึงแนวคิดในการทำธุรกิจแบบคนจีน จะสามารถนำมาต่อยอดหรือพัฒนาธุรกิจของตนได้ เพื่อทำให้ธุรกิโตไวแบบก้าวกระโดด 

การถอดแนวคิดการทำธุรกิจแบบคนจีน ไม่ได้หมายถึงการที่ผู้ประกอบการไทยจะเลียนแบบทั้งหมด แต่คือการเรียนรู้ “แก่น” ของความสำเร็จที่ทำให้ธุรกิจเล็กๆ ในจีนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว 

บทความนี้จะถอด 5 แนวคิดสำคัญที่ทำให้ธุรกิจจีนประสบความสำเร็จ 

1. ความเร็วและความยืดหยุ่น คิดไว ทำไว ไม่รอโอกาส 

ผู้ประกอบการจีนมักตัดสินใจเร็วและปรับตัวตามตลาดทันที เช่น การพัฒนาสินค้าใหม่ในเวลาไม่กี่เดือน นับเป็นหนึ่งในจุดแข็งแทนที่จะใช้เวลานานในการวางแผนที่สมบูรณ์แบบ พวกเขามักทดลองไอเดียในวงเล็กก่อน แล้วปรับปรุงตามผลตอบรับจริงจากลูกค้า

ทำไมความเร็วถึงสำคัญ?

เนื่อจากตลาดเปลี่ยนแปลงเร็วในยุคดิจิทัล เทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน เช่น ความนิยมของสินค้าที่เกิดจากกระแสโซเชียลมีเดีย การช้าเพียงไม่กี่สัปดาห์อาจทำให้เสียโอกาส เป็นการลดความเสี่ยงด้วยการทดลอง โดยการทำการทดลองในวงเล็กช่วยให้เห็นผลลัพธ์จริงโดยไม่ต้องลงทุนมาก หากล้มเหลวก็ปรับได้ทัน รวมถึงการเปิดตัวสินค้าหรือบริการเร็วมักสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้าและช่วยให้แบรนด์เป็นที่พูดถึง

ความยืดหยุ่นคือกุญแจนอกจากความเร็ว ผู้ประกอบการจีนยังมีความยืดหยุ่นสูง พวกเขาไม่ยึดติดกับแผนเดิมหากพบว่าตลาดไม่ตอบรับ และพร้อมเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที เช่น การปรับสูตรสินค้า เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย หรือแม้แต่หมุนธุรกิจไปทำอย่างอื่นที่เหมาะสมกว่า

ตัวอย่างจากจีน

Xiaomi บริษัทที่เริ่มต้นด้วยการขายสมาร์ทโฟนราคาประหยัดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้กลยุทธ์ “flash sale” เพื่อทดสอบความต้องการของตลาด ภายในไม่กี่เดือน Xiaomi เก็บฟีดแบ็กลูกค้าและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เช่น เพิ่มฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ต้องการ ทำให้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำในเวลาไม่นาน

2. ใช้แพลตฟอร์ม Social Media & E-commerce ให้เป็นประโยชน์

หากจะบุกตลาดจีน สิ่งแรกที่คุณต้องทำความเข้าใจคือ พฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนที่ผูกพันกับแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างลึกซึ้ง อย่าง WeChat, Douyin (TikTok) และ Xiaohongshu ไม่ใช่แค่ช่องทางการสื่อสาร แต่คือ “ระบบนิเวศ” ที่ครบวงจรสำหรับทั้งการตลาด การขาย และการสร้างแบรนด์

พูดง่ายๆ ว่า จีนเป็นผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจ ตั้งแต่การแชต การชำระเงิน ไปจนถึงการสั่งอาหารและเรียกรถ นี่คือตัวอย่างของการสร้าง “ecosystem” ที่ทำให้ลูกค้าอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวได้นานที่สุด

นอกจากนี้ยังรวมถึง การเปลี่ยนโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสร้างรายได้หลัก คนจีนไม่ได้มองสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นเพียงเครื่องมือโฆษณา แต่จะปรับใช้ให้เป็นช่องทางการทำเงิน อย่างการลองใช้ฟีเจอร์อย่าง Live Commerce (การไลฟ์สดขายของ) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าโดยตรง แสดงสินค้าแบบเรียลไทม์ และปิดการขายได้ทันที นี่คือพลังที่ธุรกิจเล็กๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศโดยไม่ต้องลงทุนหน้าร้าน

3. บริหารต้นทุนอย่างชาญฉลาด “ขายถูกแต่ได้กำไร”

ผู้ประกอบการจีนมีชื่อเสียงในการบริหารต้นทุนอย่างชาญฉลาด โดยใช้กลยุทธ์ “economies of scale” หรือการผลิตจำนวนมากเพื่อลดต้นทุนต่อหน่วย และการเจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์อย่างหนักเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด

อย่างแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน Haier สามารถผลิตสินค้าคุณภาพดีในราคาย่อมเยาได้ เพราะเจรจาซื้อวัตถุดิบในปริมาณมาก และใช้โรงงานที่มีประสิทธิภาพสูง

หากคุณทำร้านอาหารจานเดียว ลองซื้อวัตถุดิบจากตลาดค้าส่ง เช่น ตลาดไท หรือเจรจากับซัพพลายเออร์เพื่อได้ส่วนลดเมื่อซื้อจำนวนมาก นอกจากนี้ ออกแบบเมนูให้ใช้วัตถุดิบหลักเพียงไม่กี่อย่าง เช่น ข้าวกะเพราและข้าวผัดที่ใช้ส่วนผสมร่วมกัน เพื่อลดความสูญเสียและควบคุมต้นทุน

4. ขยายธุรกิจทีละน้อย : ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง

ผู้ประกอบการจีนหลายรายประสบความสำเร็จจากการขยายธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากฐานเล็กๆ ที่มั่นคงก่อนค่อยเพิ่มขนาดหรือขอบเขตเมื่อมั่นใจในความสำเร็จ แนวคิดนี้เรียกว่า “small wins, big growth” ซึ่งเน้นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและขยายออกไปทีละขั้นตอนเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความยั่งยืน

ทำไมการขยายทีละน้อยถึงได้ผล?

การขยายธุรกิจทีละน้อยๆ เป็นการลดความเสี่ยง การขยายครั้งใหญ่ เช่น เปิดสาขาใหม่ทันที อาจต้องใช้เงินลงทุนสูงและเสี่ยงหากตลาดไม่ตอบรับ การเริ่มจากเล็กๆ ช่วยให้ทดสอบและปรับปรุงได้ง่าย และการขยายทีละน้อยทำให้สามารถเก็บข้อมูลจากลูกค้าและปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที

ตัวอย่างจากจีน

Luckin Coffee ร้านกาแฟสัญชาติจีนที่เติบโตแซงหน้า Starbucks ในจีน เริ่มจากการเปิดร้านเล็กๆ ในเมืองใหญ่ โดยเน้นการสั่งผ่านแอปและดีลิเวอรี เมื่อพิสูจน์ได้ว่าโมเดลนี้เวิร์ก Luckin จึงขยายสาขาอย่างรวดเร็วในเมืองรองและใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับเมนูและโปรโมชัน

หรือแม้แต่ SHEIN แบรนด์แฟชั่นออนไลน์เริ่มจากการขายเสื้อผ้าในปริมาณจำกัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ เช่น วัยรุ่นที่ชอบแฟชั่นราคาย่อมเยา เมื่อยอดขายเติบโต SHEIN ค่อยๆ ขยายไปสู่ตลาดสากลและเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ เช่น เครื่องประดับและของตกแต่งบ้าน

5. ขยัน ประหยัด อดทน และเก็บเงินเก่ง หนึ่งในกลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จ

ผู้ประกอบการจีนมีชื่อเสียงในเรื่องความขยันหมั่นเพียร ความประหยัดในการใช้ทรัพยากร ความอดทนต่อความท้าทาย และวินัยในการเก็บออมเงินเพื่อลงทุนในโอกาสใหม่ๆ คุณสมบัติเหล่านี้เป็นรากฐานที่ช่วยให้ธุรกิจจีนสามารถฝ่าฟันอุปสรรคและเติบโตอย่างยั่งยืน

ผู้ประกอบการจีนมักทุ่มเทเวลาและพลังให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น พวกเขาทำงานหนักเพื่อให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนของธุรกิจมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในช่วงที่รายได้ยังไม่แน่นอน และช่วยให้มีเงินสำรองสำหรับการขยาย

ในการทำธุรกิจมักเผชิญความท้าทาย เช่น การแข่งขันที่รุนแรงหรือความผันผวนของตลาด ความอดทนช่วยให้ผู้ประกอบการจีนไม่ยอมแพ้และหาทางแก้ปัญหา และอีกหนึ่งแนวคิดของคนจีนที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นคือ การออมเงินและบริหารการเงินอย่างรอบคอบช่วยให้มีเงินทุนหมุนเวียนและพร้อมลงทุนเมื่อโอกาสมา

ตัวอย่างจากจีน

แจ็ค หม่า เริ่มต้นจากครูสอนภาษาอังกฤษที่มีรายได้จำกัด เขาใช้ความขยันในการเรียนรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและการค้าออนไลน์ อดทนต่อการถูกปฏิเสธจากนักลงทุนหลายสิบครั้ง และบริหารเงินอย่างระมัดระวังในช่วงเริ่มต้นของ Alibaba จนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ร้านค้าขนาดเล็กในจีน ร้านอาหารหรือร้านค้าปลีกในจีนมักบริหารโดยครอบครัวที่ทำงานกันทุกวัน โดยเจ้าของร้านมักทำหน้าที่หลากหลาย เช่น เป็นทั้งพ่อครัวและพนักงานเสิร์ฟ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และเก็บเงินกำไรไว้เพื่อขยายสาขาหรือลงทุนในช่องทางออนไลน์

เริ่มต้นจากเล็กๆ แต่คิดใหญ่แบบจีน

แนวคิดการทำธุรกิจแบบจีนสอนเราว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากการรอจังหวะที่สมบูรณ์แบบ แต่มาจากการลงมือทำทันที ปรับตัวเร็ว และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าคุณจะเริ่มร้านอาหารเล็กๆ หรือธุรกิจออนไลน์ การนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปปรับใช้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

สำหรับผู้ประกอบการไทยที่กำลังมองหาโอกาสในการขยายตลาดสู่จีน เหมาะอย่างยิ่งที่จะมางาน Matichon Thai–Chinese Golden Fest 2025 เทศกาลร้อยเรื่องราวไทย-จีน ฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ที่จะเปิดประตูสู่ตลาดมหาศาลให้กับผู้ประกอบการไทย 

ที่จะเปรียบเสมือน “คู่มือ” ที่จะช่วยให้คุณก้าวเดินได้อย่างมั่นใจ และเปลี่ยนธุรกิจเล็กๆ ของคุณให้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจในตลาดโลกได้

หากคุณคือ SMEs หรือผู้ประกอบการที่พร้อมจะคว้าโอกาสในตลาดจีน แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือต้องการเจาะลึกเทคนิคการตลาดบนแพลตฟอร์มจีนอย่างแท้จริง

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเวิร์กช็อปและโอกาสในการบุกตลาดจีนได้ที่ https://bit.ly/447Nu8T 

📅สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 11 กรกฎาคม 2568

☎️สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-580-0021 ต่อ 2335

ล็อกวัน ล็อกคิว แล้วลงทะเบียน! ไปเจาะลึกทุกกลยุทธ์จากกูรูตัวจริงเสียงจริง ภายในงานพบกับกิจกรรมเวิร์กช็อปสุดพิเศษ 2 วันเต็ม

แล้วมาพบกันในงานตั้งแต่วันที่ 11–13 กรกฎาคม 2568

⏰ เวลา 10.00–18.00 น.

📍สถานที่ : True Digital Park ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย สุขุมวิท 101 และ สุขุมวิท 101/1 มีพื้นที่จอดรถรองรับภายในอาคาร 🚗

Related Posts

ซีอีโอมือใหม่
เริ่มต้นเป็นเพียงอาชีพเสริมช่วงปิดเทอม สู่แบรนด์ Yim.leklek
เปิดเคล็ดลับสร้าง Storytelling
Petfluencer มาแรง! ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่สามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของ