“อีริค เคย์เซอร์” ร้านขนมเบเกอรี่อบสดใหม่สไตล์ปาริเซียง ที่นำเสนอความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ล่าสุดได้จัดงานเปิดตัวสาขาใหม่ ที่ “สยาม ดิสคัฟเวอรี่” ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง
ภายในงานได้รับเกียรติจาก “คุณอีริค เคย์เซอร์” (Mr. Eric Kayser) เชฟเจ้าของแบรนด์ มาร่วมสอน เซเลปชื่อดัง อาทิ จ๋า – ยศสินี ณ นคร ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ พีท – พีรพัฒน์ ตุลยาเดชานนธ์ ในการทำขนมปังในสไตล์ฝรั่งเศสในงาน พร้อมทั้งเล่าแรงบันดาลใจในการทำขนมปังให้มีความอร่อย และได้มาตรฐานระดับโลกในทุกๆชิ้น นอกจากนี้ “คุณณัฏฐพล ภวไพบูลย์” เชฟและผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และ “คุณศวัสกร วิบุญวิริยะวงศ์” ผู้จัดการทั่วไป ยังมาเล่าถึงตอนการนำแบรนด์ “อีริค เคย์เซอร์” เข้ามาในเมืองไทย และแผนการขยายสาขาในรูปแบบ Grab and Go ร่วมกับพันธมิตรในอนาคต
สำหรับ “อีริค เคย์เซอร์” สาขาสยาม ดิสคัฟเวอรี่ ชั้น M มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ในสไตล์ Art Nouveau Colonial ดึงดูดผู้คนด้วยบาร์ที่มีขนมปังฝรั่งเศสละลานตาให้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็น “ซิกเนเจอร์ครัวซองต์” (Signature Croissant) เมนูขึ้นชื่อของร้านโดยแป้งจะมีเลเยอร์เป็นชั้นๆ ให้ความกรอบนอก นุ่มในหอมด้วยกลิ่นเนยในทุกๆคำที่กัด
“บาแกตต์ มงต์” (Baguette Monge) อีกหนึ่งเมนูที่แนะนำ ทำจากยีสต์ชั้นดีชนิดพิเศษตีคู่กับแป้งที่มีลักษณะพิเศษ ทำให้ได้ขนมปังฝรั่งเศสที่มีความนุ่มหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของอีริค เคย์เซอร์ นอกจากนี้ยังมีขนมปังฝรั่งเศสอื่นไม่ว่าจะเป็นคาเนเล่ (Canele’) ฟินองซิเยร์ (Financier) รวมถึงชุด Afternoon Tea ที่รวมความอร่อยมาอยู่ในเซ็ทเดียว นอกจากเบเกอรี่ทางร้านยังมีเมนูอาหารที่เป็นการผสมผสานระหว่างแนวตะวันออก และตะวันตกไว้ด้วยกัน มาให้เลือกชิม ได้แก่ “สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง” เส้นสปาเก็ตตี้ทำสด สูตรเฉพาะ อีริค เคย์เซอร์ที่เมืองไทยเท่านั้น ผัดกับ ซอสต้มยำกุ้งรสเข้มข้นและมันกุ้งแม่น้ำตัวโตให้รสชาติและความกลมกล่อมที่พอดี “ครัวซองต์วากิวเบอร์เกอร์” เบอร์เกอร์เนื้อวากิวนำเข้าที่อยู่บนแป้งซิกเนเจอร์ครัวซองต์ให้รสชาติความหอมอร่อยของเนื้อ คู่กับความกรอบและของครัวซองต์ฝรั่งเศส เป็นต้น
คุณอีริค เคย์เซอร์ (Mr. Eric Kayser) เชฟเจ้าของแบรนด์ เปิดเผยถึงที่มาของความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมปังของอีริค เคย์เซอร์ ว่า เขาเติบโตมาในโลกขนมปัง ทำให้ตั้งใจเรียนรู้ คิดค้นเทคนิคพิเศษในการทำขนมปังอย่างละเอียด และยังคงรักษากรรมวิธีการทำขนมปัง แบบดั้งเดิม เช่น การหมักยีสต์ให้ขึ้นตามธรรมชาติ สูตรพิเศษที่อยู่ในเครื่องเลี้ยงที่มีเฉพาะที่มีในร้านอีริค เคย์เซอร์ เท่านั้น และยังใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างดีไม่ใส่สารใดๆ เจือปน คู่กับการนวดแป้งด้วยมืออย่างช้าๆ และรักษาอุณหภูมิของแป้งโดว์ในเวลาที่เหมาะสม ทำให้ได้แป้งคุณภาพเยี่ยมเป็นมาตรฐานเดียวกัน ก่อนนำเข้าเตาอบสดใหม่ทุกวันไม่มีการเก็บค้างคืน เพื่อเสิร์ฟขนมปังที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ตามสโลแกน “Good Bread Does Not Lie”
ด้าน คุณศวัสกร วิบุญวิริยะวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปิคิเรียนส์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ “อีริค เคย์เซอร์” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เล่าว่า “แบรนด์ “อีริค เคย์เซอร์” เป็นแบรนด์ขนมปังที่อร่อยและมีชื่อเสียงระดับโลก มีการขยายสาขาและเป็นที่รู้จักทั่วโลกรวมทั้งในแถบเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง รวมถึงเพื่อนบ้านเราอย่างกัมพูชา สำหรับตลาดขนมปังและเบเกอรี่ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดลูกค้ากลุ่มพรีเมียม และขนมปังอบสด ดังนั้น “อีริค เคย์เซอร์” น่าจะเป็นแบรนด์ขนมปังระดับโลกอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าในเมืองไทย
“กลุ่มลูกค้าหลักของร้าน อีริค เคย์เซอร์ จะเป็นกลุ่มแม่บ้าน พนักงานออฟฟิศในเมือง และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักแบรนด์ของเราดีอยู่แล้ว เนื่องจากเขาเคยทานที่ประเทศของเขา ดังนั้นพอเขามาอยู่เมืองไทย เขาจึงอยากได้ร้านขนมปังที่ได้คุณภาพเหมือนที่เขาเคยทานในประเทศของเขา โดยเรามี Flagship Store อยู่ที่สาขาทองหล่อ และสยาม ดิสคัฟเวอรี่ โดยทั้ง 2 สาขา จะมีขายทั้งขนมปัง อาหาร และกาแฟ ส่วนที่สาขาเกสร วิลเลจ และบลูพอร์ทหัวหินจะเป็นในรูปแบบ Grab and Go”
คุณณัฏฐพล ภวไพบูลย์ เชฟและผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอปิคิเรียนส์ จำกัด เผยถึงแผนการขยายสาขาของแบรนด์ “อีริค เคย์เซอร์” ว่า “ในปี 2018 – 2019 ทางร้าน “อีริค เคย์เซอร์” จะมี แพลนขยายสาขาประมาณปีละ 4-5 สาขาต่อปี โดยเน้นไปที่การขยายในรูปแบบของ Grab and Go เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีขายทั้งขนมปัง อาหาร แซนวิช กาแฟ น้ำผลไม้ โยเกิร์ต ที่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ไม่แพง โดยจะเน้นขยายไปตามออฟฟิศในเมือง คอนโดมิเนียม คอมมิวนิตี้ มอลล์ และแหล่งชุมชนที่มีชาวต่างชาติอยู่ค่อนข้างมากอย่าง สุขุมวิท สาธร โดยมีทั้งลงทุนเอง 100% และเป็นการร่วมทุนกับทางเจ้าของพื้นที่ ”
“นอกจากนี้เรายังได้เริ่มทำ Delivery และ Snack Box เพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ในปัจจุบัน โดยจะสามารถโทรสั่งได้ที่สาขา หรือสั่งผ่าน Facebook “Maison Eric Kayser Thailand” โดยช่วงแรกจะเป็นการส่งในพื้นที่รอบสาขาก่อน จากนั้นจึงจะขยายส่งทั่วกรุงเทพภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงการรับทำขนมปัง Made to order สำหรับลูกค้า B2B ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือสายการบิน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มีออเดอร์เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และในปีนี้เราจะเร่งขยายฐานของกลุ่มนี้เพิ่มเติม”
“แผนการตลาดในปี 2018 จะเน้นในเรื่องของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นประจำทุกเดือน โดยจะเน้นไปที่สื่อการตลาดออนไลน์เป็นหลัก อย่างในเดือนนี้เราจะออกเมนูเค้กใหม่ 2 รายการ ซึ่งรับประกันว่าทานแล้วจะติดใจอย่างแน่นอน ได้แก่ “Bouchée de Roses” (บูเช เดอ โรส) ซึ่งเป็นการ ใช้เทคนิคพิเศษในการเรียงลำดับรสชาติและกลิ่น ตามลักษณะของการรับรสของเรา มีความพิเศษ คือ ยิ่งกินยิ่งอร่อยในทุกๆคำที่ทานจะอร่อยขึ้นเรื่อยๆจนเรารู้สึกว่าหยุดไม่ได้ และเค้กสำหรับงานวันชาติฝรั่งเศสอย่าง “Bastille Day Cake” ที่ทำขึ้นเพื่อฉลองวันชาติฝรั่งเศส โดยเป็นการผสมผสานระหว่างราสเบอรี่กับ ช็อกโกแลต ในเค้กเนื้อนุ่มอย่างเข้ากัน รวมถึงการทำ CRM คู่กับระบบ Stamp เพื่อให้มีการใช้ซ้ำของกลุ่มลูกค้า และการทำ Valued Brunch Buffet for Weekend ซึ่งกลายเป็นแหล่งนัดพบ ทานอาหารสำหรับลูกค้าของเราเป็นประจำทุกวันเสาร์ อาทิตย์” คุณศวัสกร วิบุญวิริยะวงศ์ กล่าวเสริม
ลูกค้าสามารถลิ้มรสความอร่อยของขนมปังอบสดสไตล์ปารีเซียงพร้อมเพลิดเพลินกับเมนูโปรด ในสไตล์ที่ชอบได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน Eric Kayser ทั้ง 4 สาขา ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารโปรโมชั่น ได้ทาง Facebook Fanpage “Maison Eric Kayser Thailand” หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 090 296 1915 อีเมล์ [email protected]
จากอดีตวิศวกร สู่เจ้าของ ‘หยกสด’ ขนมไทยโบราณ ยอดขายวันแรก 4,000 บาท สู่ 26 สาขาในปัจจุบัน “หยกสด ทำขึ้นเพราะอยากให้คนไทยได้เข้าถึงขนมไทย หยิบตัวขนมที่อาจจะหาทานไม่ได้ทั่วๆ ไป นำมาทำให้รสชาติ และรูปร่างหน้าตา มีความร่วมสมัยมากขึ้น” หยกสด เป็นแบรนด์ขนมไทยที่โด่งดังเรื่องความหอม หวาน และรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมของใบเตย โดยบทความนี้เป็นเรื่องราวของ คุณจ๊าก-มหศักย์ สุรกิจบวร ที่ชีวิตพลิกผันจากอดีตวิศวกร สู่เจ้าของแบรนด์ “หยกสด – ขนมไทยใบเตย 100%” ขนมไทยโบราณหาทานยาก จากวันแรกยอดขายเพียง 4,000 บาท สู่ 26 สาขาในปัจจุบัน จากความชอบ สู่ ธุรกิจจริงจัง คุณจ๊าก เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจขนมไทย คือตอนที่ทำงานประจำเกี่ยวกับ Software แล้วเครียดจากงาน จึงได้ไปบวช และมีโอกาสได้ทาน ‘ขนมเปียกปูนกะทิสด’ ที่ชาวบ้านได้นำมาถวาย จึงเกิดความสนใจ เพราะรสชาติอร่อย ประกอบกับที่เขานั้นไม่เคยทานมาก่อน หลังจากสึกออกมา คุณจ๊ากได้ไปลองหาซื้อขนมเปียกปูนกะทิสด แต่หาไม่ได้ จึงลองทำด้วยตัวเอง เริ่มแรกก็เสิร์ชข้อมูลต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต นำมาพัฒนาปรับปรุงสูตร และลองให้เพื่อนๆ ได้ลองทาน ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับดีเยี่ยม จึง
ขนมไทย ใครว่าโบราณ! แค่ปรับลุกส์ใหม่ ก็ขายดี ขนมไทย ใครว่า โบราณ ขอเถียงขาดใจ! แค่นำมาปรับลุกส์ใหม่ ก็ขายดิบขายดี เช่น 3 ร้านดัง ที่ได้ทายาทรุ่นใหม่ มาสานต่อสูตรเด็ดของครอบครัว ร้านแรก ยายทำให้หลานขาย ใครอยู่ซอยอารีย์จะรู้จักเป็นอย่างดี ร้านนี้มีสูตรเด็ดความอร่อย ส่งต่อจากคุณยาย ที่ขายขนมไทยมากว่า 50 ปี นำมาใส่แพ็กเกจจิ้งหรู ใครเห็นก็อยากกิน ร้านสอง วลักษณ์ ขนมไทย นำขนมไทยโบราณสูตรเด็ดของคุณแม่ มาแต่งตัวใหม่ ด้วยแก้วชานมไข่มุก จนขายคล่องมือ และสุดท้าย ขนมไทยยายปู สานต่อร้านขนมของแม่ที่ขายมากว่า 30 ปี ให้ซื้อง่ายขายคล่อง ด้วยการใส่กระทงใบตองจิ๋ว ยายทำให้หลานขาย ไอเดียธุรกิจ ครอบครัวขนมไทย มีคุณยายเป็นเจ้าของสูตร ทำขายมากว่า 50 ปี ได้หลานคนเก่ง คุณนัท-พัชริดา มะลา อายุ 28 ปี และ คุณปู-อนงค์นาฎ สุหาลา ช่วยทำการตลาด เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่ จากขายตลาดนัด มาเปิดแผงเล็กๆ สับเปลี่ยน วันละ 20 เมนู ราคาเริ่มต้น 25-35 บาท ขายดี วันละหลักหมื่น พิกัด วันพุธกับศุกร์ ขายที่ซอยละลายทรัพย์ วันพฤหัส ขายที่ลาดพร้าว-วังหิน ซอย 14 ส่วนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ขายที่ซอยอารีย์ เปิดร้านตั้งแต่ 06.00-14.00 น.
เมื่อเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรักษาและเพิ่มพูนมูลค่าทรัพย์สินของตนเอง หนึ่งในวิธีการออมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือการลงทุนในทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เติบโต และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มั่นคงและมีมูลค่าในระยะยาว การออมเงินผ่านการฝากธนาคาร หรือการลงทุนในกองทุนรวม ถือเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำ ซึ่งแม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ในการซื้อทองคำ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญนอกเหนือจากราคาทองคำในแต่ละวัน คือ ค่ากำเหน็จ ซึ่งเป็นค่าบริการในการผลิตทองรูปพรรณ เช่น แหวน กำไล หรือสร้อยคอ โดยปกติค่ากำเหน็จจะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย และความประณีตของชิ้นงาน หากซื้อทองคำในรูปแบบการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง ค่ากำเหน็จจะน้อยกว่าทองรูปพรรณหรืออาจไม่มีเลย (ทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ แต
กูรูด้านอาหาร อย่าง อาจารย์ยศพิชา คชาชีวะ เจ้าของคอลัมน์ “ตู้จดหมายพลศรี” มีเรื่องราวน่าสนใจสำหรับ “วงการยำ” มาให้เรียนรู้กัน ดังนี้ … “หนูทำยำไม่เคยอร่อยสักที เดี๋ยวเปรี้ยวไป เดี๋ยวหวานไป อาจารย์มีสูตรไหมคะ ขอหนูหน่อย” คำถามทำนองนี้ผมเจอมาหลายคน หลายครั้ง ทุกครั้งผมเลยให้คาถาสูตรสำเร็จไปท่องให้ขึ้นใจว่า “1-1-ครึ่ง” 1 คือ น้ำปลา 1 ส่วน อีก 1 คือ น้ำมะนาว 1 ส่วน และครึ่ง คือ น้ำตาล ถ้าผสมน้ำยำเริ่มต้นจากสูตรนี้ การปรับเพิ่มเติมอะไรอีกนิดหน่อย ทำให้ลงตัวง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตวงน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ก็ตวงน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนน้ำตาลทรายเหลือ 1 ช้อนโต๊ะ หรือยกตัวอย่างเป็นถ้วย น้ำปลา 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 ถ้วย น้ำตาลครึ่งถ้วย ใช้เป็นชั่งน้ำหนักก็ได้ครับ เช่น น้ำปลา 50 กรัม น้ำมะนาว 50 กรัม น้ำตาลทราย 25 กรัม อาจจะต้องมีการยับยั้งชั่งใจกันเล็กน้อย เช่น ลดน้ำปลาลงนิดหน่อยก่อน เพราะน้ำปลาบางยี่ห้อโคตรเค็ม บางหน้ามะนาวเปรี้ยวมากก็ใส่น้อยลงนิดหนึ่งก่อน แต่ถ้าผสมแล้วเปรี้ยวไปหน่อย เค็มไปนิด ก็เติมส่วนผสมให้พอดีได้ตามใจ น้ำยำ แบบนี้ภาษาการครัวเรียกน้ำยำขาว เป็นยำพื้นฐานของยำไทยๆ เอาไปทำยำหมูยอ ยำวุ้น
