คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า นับเป็นครั้งแรกที่ตนได้มีโอกาสมาเยือนเกาะเต่า สถานที่ดำน้ำระดับโลก ซึ่งได้รับการโหวตจากทั่วโลกว่าสวยที่สุดมาตลอดทุกปี แต่ต้องยอมรับว่าแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ กำลังเผชิญกับปัญหา “ขยะล้น” เหมือนกับเมืองอื่นๆ ทั่วโลก ล่าสุดเท่าที่ทราบ เกาะเต่า มี “ขยะเดิม” ที่ค้างเก่าอยู่บนเกาะหลายพันตัน แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างช่วยกันแก้ไขปัญหา ด้วยการนำนวัตกรรมสายพานบีบอัดขยะที่คัดแยกให้ไม่มีอินทรีย์สาร คือ ไม่ปนเศษอาหาร แล้วนำมากองรวมบนพื้นที่ 4 ไร่ ก่อนนำขยะนั้น มาบีบอัดให้ไม่ชุ่มน้ำแล้วห่อด้วยเครื่องพันแผ่นพลาสติกใสหลายสิบชั้น เหมือนกับการห่อป้องกันกระเป๋าเดินทางที่สนามบิน ทำให้ขยะไม่มีน้ำหยดออกมา ไม่ส่งกลิ่น จากนั้นนำก้อนขยะอัดแท่งนี้บรรจุลง “Big Bag-บิ๊กแบ๊ก” ก่อนขนส่งออกจากเกาะ เพื่อนำไปกำจัดบนแผ่นดินต่อไป

รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อว่า หลังได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้นำชุมชนและตัวแทนผูู้ประกอบการ รู้สึก “ทึ่ง” กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสิ่งที่ “ประชาคมเกาะเต่า” กำลังวางแผนดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมในการงดและลดขยะพลาสติก เช่น ร้านอาหาร รีสอร์ต หลายแห่ง ใช้หลอดดูดที่ทำจากกิ่งไม้ไผ่ หลอดแก้ว หลอดสเตนเลส หรือแม้แต่หลอดจากผักบุ้ง ร้านค้าตามชุมชนน้อยใหญ่ ต่างพากันใช้ถุงพลาสติกย่อยสลายได้ในดิน มีการแจกถุงผ้าใช้กันเอง สานตะกร้าใบยอ ตะกร้าใบเตย ช้อนส้อมไม้ สั่งบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังมาใช้กันอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่ต้องมีใครบังคับ
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องรณรงค์อะไรที่นี่เลย เพราะชาวบ้านและประชาคมธุรกิจที่นี่ตื่นแล้ว และทราบมาว่ากำลังจะขอให้ร้านสะดวกซื้อที่เปิดอยู่ทั่วทั้งเกาะ งดแจกถุงพลาสติกร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสุดยอดมาก นอกจากนี้ยังมีการทำน้ำหมักกันแพร่หลาย ใช้ผลิตน้ำยาล้างห้องน้ำ ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ใช้กันเอง มีจุดเติมน้ำดื่มให้ฟรีหลายๆ จุดถ้าคนนั้นใช้กระติกส่วนตัว เกาะเต่าวันนี้จึงกำลัง Go Green อย่างมุ่งมั่น ราษฎรตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวเองก็จะได้เรียนรู้จากระบบที่ชาวเกาะเต่ามอบให้ ขอปรบมือให้ดังๆ เลยครับ” รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าว